"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ครองเกมบุกได้เหนือกว่าเกือบตลอดทั้งเกมแต่ก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายคู่แข่งได้ทำให้ จบ 90 นาทีบุกไปเสมอกับ คาร์ดิฟฟ์ ทีมจากแชมเปียนชิปไป 0-0 ต้องกลับมาแข่งนัดรีเพลย์อีกครั้งที่บ้านของตัวเอง ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่
คาร์ดิฟ 0-0 อาร์เซนอล
คาร์ดิฟฟ์ พลาดใช้งาน ปีเตอร์ วิททิงแฮม เพราะยังไม่ฟิตสมบูรณ์หลังจากมีอาการบาดเจ็บต้นขา สำหรับเกมนี้มี โจ เลดลีย์ มิดฟิลด์ตัวสำคัญลงช่วยแดนกลาง ขณะที่ อาร์เซนอล มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมบางคนอย่าง กาเอล คลีชี และ วิลเลียม กัลลาส โดยเกมนี้ส่ง ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี เป็นผู้รักษาประตูตัวจริง ขณะเดียวกันก็มี อารอน แรมซีย์ ลงสนามพบกับต้นสังกัดเก่า
เริ่มเกมครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 8 คาร์ดิฟฟ์ มีโอกาสลุ้นประตูแบบชัดเจนก่อนเมื่อทีมตัดบอลได้จากคู่แข่งก่อนที่ เบิร์ก จะได้ยิงจังหวะสุดท้ายแต่ทีมเยือนบล็อกไว้ได้ทัน อีกสองนาทีต่อมาเจ้าถิ่นมีโอกาสอีกครั้งเมื่อ เลดลีย์ เปิดบอลจากด้านซ้ายมาให้ แม็คคอร์แม็ก ที่ก่ำกึ่งว่าอาจล้ำขึ้นโหม่งแต่บอลหลุดกรอบประตูออกไป
อาร์เซนอล ถูกบุกอยู่นานก่อนจะเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้และมีโอกาสยิงอย่างชัดเจนครั้งแรกจาก นาสรี ในนาทีที่ 21 แต่ เองเคิลแมน นายทวารเจ้าบ้านเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม มาถึงนาทีที่ 33 กิบบ์ส ขโมยบอลจากคู่แข่งได้ก่อนลากขึ้นมาและจ่ายให้ ฟาน เพอร์ซี ยิงแต่บอลหลุดเสาออกไปไม่กี่นิ้ว
ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ บุกอย่างต่อเนื่องมาถึงนาทีที่ 39 เบนด์ทเนอร์ ไว้วางบอลจากข้างสนาม นาสรี วิ่งมาเก็บบอลได้ก่อนจ่ายกลับให้ ฟาน เพอร์ซี ยิงแต่ไม่แรงพอถูกนายทวารเจ้าถิ่นรับไว้ได้อีกทำให้สุดท้ายทั้งสองทีมไม่สามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เกมครึ่งหลัง อาร์เซนอล เริ่มต้นได้ดีกว่าเมื่อทำเกมขึ้นมาและ ฟาน เพอร์ซี ได้โอกาสยิงหลังผ่านมาเพียง 4 นาทีแต่ เองเคิลแมน ป้องกันได้อย่างไม่มีปัญหา นาทีต่อมา คาร์ดิฟ ทำเกมขึ้นมาทางด้านขวาก่อนจะเปิดเข้ากลางและเป็น แพร์รี ได้โหม่งแต่ ฟาเบียนสกี รับได้ไว้ได้เช่นกัน
นาทีที่ 55 ทีมเยือนจากพรีเมียร์ ลีก ได้ลูกฟรีคิกไม่ไกลจากประตูและเป็น ฟาน เพอร์ซี รับหน้าที่ปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงแต่บอลก็เลี้ยวหลุดกรอบออกไปเหมือนกัน อีกสามนาทีต่อมาเจ้าถิ่นเกือบทำเข้าประตูตัวเองจากจังหวะที่ กิบบ์ส ลุยขึ้นมาทางด้านข้างก่อนจะเปิดบอลให้ เบนด์ทเนอร์ แต่บอลพุ่งแรงไปโดน เคนเนดี เปลี่ยนวิถี ยังดีที่ เองเคิลแมน พลิกตัวมาตะครุบบอลไว้ได้ทัน
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง ฟาเบียนสกี ต้องออกแรงเซฟเมื่อ แม็คคอร์แม็ก ของเจ้าถิ่นลากบอลตะลุยขึ้นมาทางซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดเข้าในและยิงจากระยะ 30 หลานซึ่งนายด่านปืนโตปัดออกหลังไปทัน มาถึงนาทีที่ 64 อาร์เซนอล ตอบโต้กลับบ้างเมื่อ กิบบ์ส วางบอลจากด้านข้างให้ ฟาน เพอร์ซี ยิงด้วยซ้ายหน้าประตู แต่ เองเคิลแมน ยังเซฟได้ดีอีก
ด้าน เวนเกอร์ ไม่สบอารมณ์จากความเด็ดขาดในยิงประตูของลูกทีมจึงตัดสินใจส่ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ลงสนามมาในนาทีที่ 66 และมีส่วนร่วมกับเกมทันทีเมื่อจ่ายบอลให้ ฟาน เพอร์ซี ยิง แต่นายทวารเจ้าถิ่นยังคงทำหน้าที่ได้ดีป้องกันไว้เช่นเดิม
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย อาร์เซนอล ยังคงบุกอย่างต่อเนื่องและเกือบทำประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ ฟาน เพอร์ซี เลี้ยงบอลขึ้นมายังแดนคู่แข่ง ก่อนจ่ายมาตรงกลางให้ อเดบายอร์ วิ่งเข้าชาร์ตไม่ห่างจากหน้าประตู แต่ดันเตะวืดพลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อ อีกสองนาทีต่อมาเป็นโอกาสของ นาสรี บ้างเมื่อได้หลุดเข้าไปในเขตโทษและเตรียมจะง้างเท้ายิงแต่ เองเคิลแมน ก็ออกมาเร็วตัดบอลป้องกันไว้ได้อีก
เดอะกันเนอร์ส ยังคงดาหน้าบุกเข้าใส่เช่นเดิมแต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายคู่แข่งได้ ส่วน คาร์ดิฟฟ์ ตั้งรับกันได้อย่างยอดเยี่ยมและช่วงก่อนหมดเวลา 2 นาทีเกือบทำประตูช็อกแฟนบอลของทีมจากพรีเมียร์ ลีก เมื่อ แม็คนอตัน ยิงฟรีคิกไปชนคานอย่างน่าเสียดาย สุดท้ายทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูกันได้จบ 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ต้องไปแข่งกันใหม่ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียมของ อาร์เซนอล
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
คาร์ดิฟ : ปีเตอร์ เองเคิลแมน, เควิน แม็คนอตัน, กาบอร์ กีเปส, โรเจอร์ จอห์นสัน, มาร์ก เคนเนดี, กาวิน เรย์, พอล แพร์รี, โจ เลดลีย์, คริส เบิร์ก, เจย์ บอธรอยด์, รอส แม็คคอร์แม็ก
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี, บาการี ซานญา, โคโล ตูเร, โยฮัน ฌูรู, เคียแรน กิบบ์ส, เอ็มมานูเอล เอบูเอ, ซามีร์ นาสรี, อารอน แรมซีย์, อเล็กซานเดอร์ ซง, โรบิน ฟาน เพอร์ซี ,นิคลาส เบนด์ทเนอร์
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่
คาร์ดิฟ 0-0 อาร์เซนอล
คาร์ดิฟฟ์ พลาดใช้งาน ปีเตอร์ วิททิงแฮม เพราะยังไม่ฟิตสมบูรณ์หลังจากมีอาการบาดเจ็บต้นขา สำหรับเกมนี้มี โจ เลดลีย์ มิดฟิลด์ตัวสำคัญลงช่วยแดนกลาง ขณะที่ อาร์เซนอล มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมบางคนอย่าง กาเอล คลีชี และ วิลเลียม กัลลาส โดยเกมนี้ส่ง ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี เป็นผู้รักษาประตูตัวจริง ขณะเดียวกันก็มี อารอน แรมซีย์ ลงสนามพบกับต้นสังกัดเก่า
เริ่มเกมครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 8 คาร์ดิฟฟ์ มีโอกาสลุ้นประตูแบบชัดเจนก่อนเมื่อทีมตัดบอลได้จากคู่แข่งก่อนที่ เบิร์ก จะได้ยิงจังหวะสุดท้ายแต่ทีมเยือนบล็อกไว้ได้ทัน อีกสองนาทีต่อมาเจ้าถิ่นมีโอกาสอีกครั้งเมื่อ เลดลีย์ เปิดบอลจากด้านซ้ายมาให้ แม็คคอร์แม็ก ที่ก่ำกึ่งว่าอาจล้ำขึ้นโหม่งแต่บอลหลุดกรอบประตูออกไป
อาร์เซนอล ถูกบุกอยู่นานก่อนจะเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้และมีโอกาสยิงอย่างชัดเจนครั้งแรกจาก นาสรี ในนาทีที่ 21 แต่ เองเคิลแมน นายทวารเจ้าบ้านเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม มาถึงนาทีที่ 33 กิบบ์ส ขโมยบอลจากคู่แข่งได้ก่อนลากขึ้นมาและจ่ายให้ ฟาน เพอร์ซี ยิงแต่บอลหลุดเสาออกไปไม่กี่นิ้ว
ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ บุกอย่างต่อเนื่องมาถึงนาทีที่ 39 เบนด์ทเนอร์ ไว้วางบอลจากข้างสนาม นาสรี วิ่งมาเก็บบอลได้ก่อนจ่ายกลับให้ ฟาน เพอร์ซี ยิงแต่ไม่แรงพอถูกนายทวารเจ้าถิ่นรับไว้ได้อีกทำให้สุดท้ายทั้งสองทีมไม่สามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เกมครึ่งหลัง อาร์เซนอล เริ่มต้นได้ดีกว่าเมื่อทำเกมขึ้นมาและ ฟาน เพอร์ซี ได้โอกาสยิงหลังผ่านมาเพียง 4 นาทีแต่ เองเคิลแมน ป้องกันได้อย่างไม่มีปัญหา นาทีต่อมา คาร์ดิฟ ทำเกมขึ้นมาทางด้านขวาก่อนจะเปิดเข้ากลางและเป็น แพร์รี ได้โหม่งแต่ ฟาเบียนสกี รับได้ไว้ได้เช่นกัน
นาทีที่ 55 ทีมเยือนจากพรีเมียร์ ลีก ได้ลูกฟรีคิกไม่ไกลจากประตูและเป็น ฟาน เพอร์ซี รับหน้าที่ปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงแต่บอลก็เลี้ยวหลุดกรอบออกไปเหมือนกัน อีกสามนาทีต่อมาเจ้าถิ่นเกือบทำเข้าประตูตัวเองจากจังหวะที่ กิบบ์ส ลุยขึ้นมาทางด้านข้างก่อนจะเปิดบอลให้ เบนด์ทเนอร์ แต่บอลพุ่งแรงไปโดน เคนเนดี เปลี่ยนวิถี ยังดีที่ เองเคิลแมน พลิกตัวมาตะครุบบอลไว้ได้ทัน
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง ฟาเบียนสกี ต้องออกแรงเซฟเมื่อ แม็คคอร์แม็ก ของเจ้าถิ่นลากบอลตะลุยขึ้นมาทางซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดเข้าในและยิงจากระยะ 30 หลานซึ่งนายด่านปืนโตปัดออกหลังไปทัน มาถึงนาทีที่ 64 อาร์เซนอล ตอบโต้กลับบ้างเมื่อ กิบบ์ส วางบอลจากด้านข้างให้ ฟาน เพอร์ซี ยิงด้วยซ้ายหน้าประตู แต่ เองเคิลแมน ยังเซฟได้ดีอีก
ด้าน เวนเกอร์ ไม่สบอารมณ์จากความเด็ดขาดในยิงประตูของลูกทีมจึงตัดสินใจส่ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ลงสนามมาในนาทีที่ 66 และมีส่วนร่วมกับเกมทันทีเมื่อจ่ายบอลให้ ฟาน เพอร์ซี ยิง แต่นายทวารเจ้าถิ่นยังคงทำหน้าที่ได้ดีป้องกันไว้เช่นเดิม
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย อาร์เซนอล ยังคงบุกอย่างต่อเนื่องและเกือบทำประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ ฟาน เพอร์ซี เลี้ยงบอลขึ้นมายังแดนคู่แข่ง ก่อนจ่ายมาตรงกลางให้ อเดบายอร์ วิ่งเข้าชาร์ตไม่ห่างจากหน้าประตู แต่ดันเตะวืดพลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อ อีกสองนาทีต่อมาเป็นโอกาสของ นาสรี บ้างเมื่อได้หลุดเข้าไปในเขตโทษและเตรียมจะง้างเท้ายิงแต่ เองเคิลแมน ก็ออกมาเร็วตัดบอลป้องกันไว้ได้อีก
เดอะกันเนอร์ส ยังคงดาหน้าบุกเข้าใส่เช่นเดิมแต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายคู่แข่งได้ ส่วน คาร์ดิฟฟ์ ตั้งรับกันได้อย่างยอดเยี่ยมและช่วงก่อนหมดเวลา 2 นาทีเกือบทำประตูช็อกแฟนบอลของทีมจากพรีเมียร์ ลีก เมื่อ แม็คนอตัน ยิงฟรีคิกไปชนคานอย่างน่าเสียดาย สุดท้ายทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูกันได้จบ 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ต้องไปแข่งกันใหม่ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียมของ อาร์เซนอล
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
คาร์ดิฟ : ปีเตอร์ เองเคิลแมน, เควิน แม็คนอตัน, กาบอร์ กีเปส, โรเจอร์ จอห์นสัน, มาร์ก เคนเนดี, กาวิน เรย์, พอล แพร์รี, โจ เลดลีย์, คริส เบิร์ก, เจย์ บอธรอยด์, รอส แม็คคอร์แม็ก
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี, บาการี ซานญา, โคโล ตูเร, โยฮัน ฌูรู, เคียแรน กิบบ์ส, เอ็มมานูเอล เอบูเอ, ซามีร์ นาสรี, อารอน แรมซีย์, อเล็กซานเดอร์ ซง, โรบิน ฟาน เพอร์ซี ,นิคลาส เบนด์ทเนอร์