ทีมชาติไทยประเดิมสนามด้วยเกมเดือดหลังคู่แฝดตระกูล สุขะ มีเรื่องกับหัวหอกเลบานอน แต่สุดท้ายก็เฉือนเอาชนะไปได้ 2-1 พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เดนมาร์ก ที่เบียดชนะเกาหลีเหนือ 1-0 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 39 ที่สนามสุระกุล จังหวัดภูเก็ต เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมา (21 ม.ค.)
ผลการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 39
ทีมชาติไทย 2-1 เลบานอน
ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมชาติไทยตัดสินใจวางระบบการเล่นแบบ 4-5-1 ทดลองทีมเพื่อเกมนัดสำคัญที่เตรียมรับมือ อิหราน ในการแข่งเอเชียน คัพ รอบคัดช่วงปลายเดือน เกมนี้จัดการส่ง ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงฟอร์มแรงยืนเป็นหน้าเป้าตัวเดียว โดยมี ดัสกร ทองเหลา หนุนเกมอยู่แผงกองกลาง
เริ่มเกมช่วงแรก ทั้งทีมชาติไทย และ เลบานอน ไม่สามารถตั้งเกมของตัวเองได้ จังหวะที่จะต่อบอลขึ้นไปกดดันแผงหลังของคู่แข่งทำได้อย่างยากลำบาก แต่แล้วเมื่อมาถึงนาทีที่ 10 ทีมเยือนมีโอกาสลุ้นก่อนจากการยิงของ อาลี แต่ โกสินทร์ ปัดทิ้งออกไปได้เพียงแต่ลูกเตะมุม
อย่างไรก็ตาม เจ้าบ้านไม่รอช้าตอบโต้กลับทันทีและก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 12 จากการที่ พิชิตพงษ์ จ่ายบอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษเข้าไปให้ ธีรศิลป์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวล็อกบอลหนีกองหลัง ก่อนจะจิ้มบอลผ่านมือนายทวารจากแดนอาหรับเข้าไปให้กองเชียร์ชาวภูเก็ตเฮกันลั่นสนามก่อน
อีกสองนาทีต่อมา ธีรศิลป์ มีโอกาสอีกครั้งคราวนี้เบียดแทรกกองหลังทีมเยือนรับบอลในเขตโทษ ก่อนจะตวัดยิงด้วยขวาแต่หลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย มาถึงนาทีที่ 18 เป็น ดัสกร บ้างได้ลองสับไกยิงหน้าเขตโทษ แต่บอลเรียดเกินไปนายด่านทีมเยือนล้มตัวรับสบาย
มาถึงนาทีที่ 20 ธีรศิลป์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ ดัสกร วิ่งโฉบมาตวัดยิงมุมแคบ แต่โดนบอลไม่เต็มเท้าถูกผู้รักษาประตูคู่แข่งรับไว้ได้อีก แต่อีกสองนาทีต่อมา ทีมชาติไทย มาทำประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ พิชิตพงษ์ วางบอลจากด้านนอกเข้ามาในกรอบเขตโทษ บอลลอยมาถึง ดัสกร เบียดแย่งกองหลังคู่แข่งโหม่งเสยต่อไปให้ สุเชาว์ หลุดไปยิงให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0
เลบานอน มีโอกาสลุ้นทำประตูเช่นกันในนาทีที่ 24 เมื่อได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางขวาเล็กน้อย แต่ อัตวี ซัดด้วยซ้ายหลุดเสาออกไป มาถึงตอนนี้ลูกทีมของ ปีเตอร์ รีด ครองเกมได้เหนือกว่าอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ยังหาโอกาสลุ้นทำประตูเพิ่มเติมไม่ได้
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายทั้งสองทีมมีโอกาสลุ้นทำประตูฝ่ายละครั้งเริ่มจากนาทีที่ 40 สุเชาว์ รับบอลได้บริเวณริมเส้นด้านขวา ก่อนจะหลอกยิงมุมแคบทันทีแต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป ส่วนนาทีที่ 42 เลบานอน ทำเกมขึ้นมาทางด้านขวาเช่นกัน ก่อนจะเปิดเข้ากลางมาให้ ฮามีห์ ได้โหม่งในเขตโทษ แต่ตำแหน่งอยู่ไกลเกินไป บอลไม่มีน้ำหนักพอ โกสินทร์ รับไว้ได้สบาย สุดท้ายทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 45 นาทีแรก ไทย นำอยู่ 2-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 4 นาที กลายเป็น เลบานอน มาทำประตูไล่ตีตื้นขึ้นมา เมื่อได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะเปิดบอลเข้าไปลุ้นด้านใน จังหวะแรกมีผู้เล่นโหม่งก่อนแต่ไม่ถนัด บอลกลับเป็นใจลอยไปทางเสาสองถึง มาห์มูด ที่ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ ซัดด้วยขวาแฉลบกองหลัง ผ่านตัว กิตติศักดิ์ ที่เพิ่งลงมาแทน โกสินทร์ เข้าไปให้ทีมเยือนไล่มา 1-2
เกมมาถึงนาทีที่ 56 ทีมไทยมาได้ลุ้นทำประตูอีกครั้งจากการวางบอลยาวของ ดัสกร เข้าไปให้เขตโทษให้ ธีรศิลป์ วอลเลย์ด้วยซ้ายแต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว ส่วนทีมเยือนตอบโต้กลับทันทีในอีกสองนาทีถัดมา เมื่อ คอร์ฮานี หลุดขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างที่แฟนบอลเจ้าถิ่นทั้งสนามเสียวสันหลังวาบ
มาถึงนาทีที่ 67 ทีมชาติไทยเกือบทำประตูหนีห่างอีกครั้งเมื่อกองหลัง เลบานอน ผิดพลาดหน้าประตูตัวเองถูก ดัสกร ฉกบอลมาได้ ก่อนที่จะจ่ายบอลย้อนกลับมาให้ รังสรรค์ ซัดเต็มๆบริเวณริมเส้นเขตโทษ แต่บอลพุ่งเรียดหลุดโคนเสาออกไปนิดเดียว
เกมมาถึงช่วง 10 นาที สุดท้ายการแข่งขันมีอันต้องหยุดชะงักลงร่วม 10 นาที หลังจากผู้เล่นทั้งสองเกิดปัญหากัน โดย ซากาเรีย ของเลบานอน มีเรื่องกับ สุรีย์ จนเกิดการชุลมุนของผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ก่อนที่หัวหอกเจ้าปัญหาของทีมเยือนจะปรี่ตรงไปตบหน้า สุรัตน์ ฝาแฝดผู้น้อง เรื่องลุกลามจนทีมเยือนตัดสินใจเดินออกจากสนามไม่ยอมเล่นต่อ ร้อนถึง วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลไทยลงมาเจรจาก่อนทั้งสองทีมจะกลับมาเล่นใหม่ได้ โดยกองหน้าตัวต้นเหตุถูกใบเหลืองไป
หลังจากกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง สุรีย์ ตามเข้าอัด ซากาเรีย โจทก์เก่า และเกิดเรื่องขึ้นอีกจนเจ้าหน้าที่ตำรวจและสตาฟฟ์โค้ชของทั้งสองทีมต้องวิ่งแยกนักเตะออกจากกันก่อนจะกลับมาแข่งกันใหม่อีกครั้ง ขณะที่ผู้ตัดสินปล่อยให้เกมดำเนินไปพักใหญ่ก่อนจะเป่านกหวีดยุติเกมการแข่งขัน ผลสุดท้ายทีมชาติไทยก็เฉือนชนะไป 2-1
ทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับทีมชาติเดนมาร์ก ที่เฉือนเอาชนะ เกาหลีเหนือ 1-0 โดยเกมตัดสินว่าทีมใดครองถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 39 จะแข่งกันในวันศุกร์ที่ 23 มกราคมต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทีมชาติไทย - ผู้รักษาประตู :โกสินทร์ หทัยรัตนกุล กองหลัง : สุรีย์ สุขะ, ปฏิพาน เพชรพูล, ณัฐพร พันธิ์ฤทธิ์, ณัฐพงษ์ สมณะ กองกลาง : ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุเชาว์ นุชนุ่ม, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, สุรัตน์ สุขะ กองหน้า : ธีรศิลป์ แดงดา
ผลการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 39
ทีมชาติไทย 2-1 เลบานอน
ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมชาติไทยตัดสินใจวางระบบการเล่นแบบ 4-5-1 ทดลองทีมเพื่อเกมนัดสำคัญที่เตรียมรับมือ อิหราน ในการแข่งเอเชียน คัพ รอบคัดช่วงปลายเดือน เกมนี้จัดการส่ง ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงฟอร์มแรงยืนเป็นหน้าเป้าตัวเดียว โดยมี ดัสกร ทองเหลา หนุนเกมอยู่แผงกองกลาง
เริ่มเกมช่วงแรก ทั้งทีมชาติไทย และ เลบานอน ไม่สามารถตั้งเกมของตัวเองได้ จังหวะที่จะต่อบอลขึ้นไปกดดันแผงหลังของคู่แข่งทำได้อย่างยากลำบาก แต่แล้วเมื่อมาถึงนาทีที่ 10 ทีมเยือนมีโอกาสลุ้นก่อนจากการยิงของ อาลี แต่ โกสินทร์ ปัดทิ้งออกไปได้เพียงแต่ลูกเตะมุม
อย่างไรก็ตาม เจ้าบ้านไม่รอช้าตอบโต้กลับทันทีและก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 12 จากการที่ พิชิตพงษ์ จ่ายบอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษเข้าไปให้ ธีรศิลป์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวล็อกบอลหนีกองหลัง ก่อนจะจิ้มบอลผ่านมือนายทวารจากแดนอาหรับเข้าไปให้กองเชียร์ชาวภูเก็ตเฮกันลั่นสนามก่อน
อีกสองนาทีต่อมา ธีรศิลป์ มีโอกาสอีกครั้งคราวนี้เบียดแทรกกองหลังทีมเยือนรับบอลในเขตโทษ ก่อนจะตวัดยิงด้วยขวาแต่หลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย มาถึงนาทีที่ 18 เป็น ดัสกร บ้างได้ลองสับไกยิงหน้าเขตโทษ แต่บอลเรียดเกินไปนายด่านทีมเยือนล้มตัวรับสบาย
มาถึงนาทีที่ 20 ธีรศิลป์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ ดัสกร วิ่งโฉบมาตวัดยิงมุมแคบ แต่โดนบอลไม่เต็มเท้าถูกผู้รักษาประตูคู่แข่งรับไว้ได้อีก แต่อีกสองนาทีต่อมา ทีมชาติไทย มาทำประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ พิชิตพงษ์ วางบอลจากด้านนอกเข้ามาในกรอบเขตโทษ บอลลอยมาถึง ดัสกร เบียดแย่งกองหลังคู่แข่งโหม่งเสยต่อไปให้ สุเชาว์ หลุดไปยิงให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0
เลบานอน มีโอกาสลุ้นทำประตูเช่นกันในนาทีที่ 24 เมื่อได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางขวาเล็กน้อย แต่ อัตวี ซัดด้วยซ้ายหลุดเสาออกไป มาถึงตอนนี้ลูกทีมของ ปีเตอร์ รีด ครองเกมได้เหนือกว่าอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ยังหาโอกาสลุ้นทำประตูเพิ่มเติมไม่ได้
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายทั้งสองทีมมีโอกาสลุ้นทำประตูฝ่ายละครั้งเริ่มจากนาทีที่ 40 สุเชาว์ รับบอลได้บริเวณริมเส้นด้านขวา ก่อนจะหลอกยิงมุมแคบทันทีแต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป ส่วนนาทีที่ 42 เลบานอน ทำเกมขึ้นมาทางด้านขวาเช่นกัน ก่อนจะเปิดเข้ากลางมาให้ ฮามีห์ ได้โหม่งในเขตโทษ แต่ตำแหน่งอยู่ไกลเกินไป บอลไม่มีน้ำหนักพอ โกสินทร์ รับไว้ได้สบาย สุดท้ายทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 45 นาทีแรก ไทย นำอยู่ 2-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 4 นาที กลายเป็น เลบานอน มาทำประตูไล่ตีตื้นขึ้นมา เมื่อได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะเปิดบอลเข้าไปลุ้นด้านใน จังหวะแรกมีผู้เล่นโหม่งก่อนแต่ไม่ถนัด บอลกลับเป็นใจลอยไปทางเสาสองถึง มาห์มูด ที่ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ ซัดด้วยขวาแฉลบกองหลัง ผ่านตัว กิตติศักดิ์ ที่เพิ่งลงมาแทน โกสินทร์ เข้าไปให้ทีมเยือนไล่มา 1-2
เกมมาถึงนาทีที่ 56 ทีมไทยมาได้ลุ้นทำประตูอีกครั้งจากการวางบอลยาวของ ดัสกร เข้าไปให้เขตโทษให้ ธีรศิลป์ วอลเลย์ด้วยซ้ายแต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว ส่วนทีมเยือนตอบโต้กลับทันทีในอีกสองนาทีถัดมา เมื่อ คอร์ฮานี หลุดขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างที่แฟนบอลเจ้าถิ่นทั้งสนามเสียวสันหลังวาบ
มาถึงนาทีที่ 67 ทีมชาติไทยเกือบทำประตูหนีห่างอีกครั้งเมื่อกองหลัง เลบานอน ผิดพลาดหน้าประตูตัวเองถูก ดัสกร ฉกบอลมาได้ ก่อนที่จะจ่ายบอลย้อนกลับมาให้ รังสรรค์ ซัดเต็มๆบริเวณริมเส้นเขตโทษ แต่บอลพุ่งเรียดหลุดโคนเสาออกไปนิดเดียว
เกมมาถึงช่วง 10 นาที สุดท้ายการแข่งขันมีอันต้องหยุดชะงักลงร่วม 10 นาที หลังจากผู้เล่นทั้งสองเกิดปัญหากัน โดย ซากาเรีย ของเลบานอน มีเรื่องกับ สุรีย์ จนเกิดการชุลมุนของผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ก่อนที่หัวหอกเจ้าปัญหาของทีมเยือนจะปรี่ตรงไปตบหน้า สุรัตน์ ฝาแฝดผู้น้อง เรื่องลุกลามจนทีมเยือนตัดสินใจเดินออกจากสนามไม่ยอมเล่นต่อ ร้อนถึง วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลไทยลงมาเจรจาก่อนทั้งสองทีมจะกลับมาเล่นใหม่ได้ โดยกองหน้าตัวต้นเหตุถูกใบเหลืองไป
หลังจากกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง สุรีย์ ตามเข้าอัด ซากาเรีย โจทก์เก่า และเกิดเรื่องขึ้นอีกจนเจ้าหน้าที่ตำรวจและสตาฟฟ์โค้ชของทั้งสองทีมต้องวิ่งแยกนักเตะออกจากกันก่อนจะกลับมาแข่งกันใหม่อีกครั้ง ขณะที่ผู้ตัดสินปล่อยให้เกมดำเนินไปพักใหญ่ก่อนจะเป่านกหวีดยุติเกมการแข่งขัน ผลสุดท้ายทีมชาติไทยก็เฉือนชนะไป 2-1
ทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับทีมชาติเดนมาร์ก ที่เฉือนเอาชนะ เกาหลีเหนือ 1-0 โดยเกมตัดสินว่าทีมใดครองถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 39 จะแข่งกันในวันศุกร์ที่ 23 มกราคมต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทีมชาติไทย - ผู้รักษาประตู :โกสินทร์ หทัยรัตนกุล กองหลัง : สุรีย์ สุขะ, ปฏิพาน เพชรพูล, ณัฐพร พันธิ์ฤทธิ์, ณัฐพงษ์ สมณะ กองกลาง : ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุเชาว์ นุชนุ่ม, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, สุรัตน์ สุขะ กองหน้า : ธีรศิลป์ แดงดา