ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตพร้อมจัดการแข่งขันฟุบอล คิงส์คัพ ครั้งที่ 39 ทั้งสนามแข่งขัน สนามฝึกซ้อม โรงแรม ที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวก ขณะที่พ่อเมือง“ปรีชา”มั่นใจฟุตบอลคิงส์คัพจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตอีกเพียบหลังเจอมรสุมการเมืองและเศรษฐกิจ
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกอบจ.ภูเก็ต นายเอี่ยม ถาวรว่องวงค์ ที่ปรึกษาสมาคมฟุบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมทั้ง นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 39 ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2552 ที่สนามกีฬาสุระกุล อ.เมือง จ.ภูเก็ต
สำหรับการนำฟุตบอลคิงส์คัพในครั้งนี้ มาแข่งขันที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและการปิดสนามบินครั้งที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการแข่งที่กรุงเทพฯ ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานและสนามกีฬาศุภชลาศัยเท่านั้น การจัดที่ภูเก็ตในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จัดการแข่งขันในต่างจังหวัด
นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดึงเอาการแข่งฟุบอลรายการนี้เข้ามาแข่งขันในจังหวัดภูเก็ตนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งของชาวภูเก็ต ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลซูซูกิ อาเซียนคัพ 2008 เมื่อวันที่ 6-10 ธันวาคมที่ผ่านมา และการแข่งขันรายการนี้ถือว่าเป็นการแข่งที่มีผู้คนให้ความสนใจติดตามเป็นจำนวนมากและจะเป็นการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและการปิดสนามบินครั้งที่ผ่านมา และในขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ตมีความพร้อม 100 % ในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้
ด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกอบจ.ภูเก็ต กล่าวเสริมต่อไปว่า อบจ.ภูเก็ตในฐานะเจ้าของสถานที่จัดการแข่งขันได้จัดเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้อย่าลงตัวแล้ว อาจจะดีกว่าการจัดการแข่ง ซูซูกิ อาเซียน คัพ ครั้งที่ผ่านมาด้วยซ้ำ ซึ่งได้นำประสบการณ์จากการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก และการจัดการแข่งขันฟุบอลอาเชียนคัพมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความมาตรฐานมากที่สุด โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ร่วมแรงร่วมใจเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ในส่วนของสภาพสนามได้การมีปรับปรุงในส่วนที่บกพร่องจากการแข่งขันฟุตอบอาเซียนคัพครั้งที่ผ่านมาทั้งหมด โดยเฉพาะสภาพสนาม ซึ่งตนคิดว่าก่อนหน้าที่จะมีการแข่งขัน 3 วัน จะมีความพร้อมในทุกๆด้านอย่างเต็มที่
สำหรับราคาบัตรค่าผ่านประตูเข้าชมการแข่งขันในครั้งนี้ นักเรียนที่อยู่ในเครื่องแบบราคา 20 บาท บุคคลทั่วไปราคา 100 บาท และ 200 บาท ซึ่งอบจ.ภูเก็ตได้มีการเปิดให้จองบัตรเข้าชมล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 16-20 มกราคมนี้โดยสามารถจองบัตรล่วงหน้าได้ที่บริเวณช่องขายบัตรหน้าสนามกีฬาสุระกุล การกีฬาแห่งประเทศไทยและอบจ.ภูเก็ตโดยเริ่มเปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่เวลา 16.00 น.ณ.สนามสุระกุลในวันที่มีการแข่งขัน
ขณะที่นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวต่อไปอีกว่า สมาคมฟุบอลฯรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพในครั้งนี้จัดที่จ.ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ได้นำเอาทีมที่มีชื่อเสียงและคุณภาพระดับโลกเข้ามาทำการแข่งขัน และจะเป็นการพัฒนาศักยาภาพวงการฟุตบอลไทยอีกทางหนึ่งด้วย
“การจัดการแข่งขันในครั้งนี้มีทีมฟุตบอลชั้นแนวหน้าของเอเชียและระดับโลกเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 4 ทีม ประกอบด้วย ทีมชาติเดนมาร์ก ทีมชาติเลบานอน ทีมชาติเกาหลีเหนือ และทีมชาติไทย” นายองอาจ กล่าว
สำหรับพิธีเปิดการแข่งจะมีขึ้นในวันที่ 21 มกราคม 2552 เวลาประมาณ 18.30 น.ที่สนามกีฬาสุระกุล หลังจากการแข่งขันคู่แรกระหว่างทีมชาติเกาหลีเหนือกับทีมชาติเดนมาร์ก โดยมีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน และจะมีพิธีปิดการแข่งขันในวันที่ 23 มกราคม 2552 ในเวลประมาณ 20.00 น. โดยได้รับเกียรติจากผู้แทนพระองค์ พลเรือเอกชุมพล ปัจจุสานนท์ เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขัน
