ถ้าจะให้นึกชื่อนักเทนนิสหญิงของโลกสักราย เชื่อว่ามีหลายคนต้องรีบเอ่ยนามของ มาเรีย ชาราโปว่า แร็กเก็ตสาวรัสเซียที่มีทั้งความงามของสตรีและความแข็งแกร่งของนักเทนนิสหญิงระดับโลกผสมกันอย่างลงตัว ผลงานของสาวน้อยรายนี้เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่ได้น้อยหน้าเสน่ห์อันแพรวพราวของเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะที่ผ่านมาเธอคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาแล้วไม่ว่าจะเป็น วิมเบิลดัน, ยูเอส โอเพ่น และ ออสเตรเลียน โอเพ่น อย่างละหนึ่งสมัยขณะเดียวกันยังเคยขึ้นไปครองความยิ่งใหญ่บนบัลลังก์มือ 1 ของโลกมาแล้วถึง 17 สัปดาห์ทั้งที่อายุยังไม่ถึง 22 ปีเต็ม
สำหรับดับเบิลยูทีเอฤดูกาล 2008 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ชาราโปวา โชคร้ายมีอาการบาดเจ็บเอ็นหัวไหล่ขวาฉีกขาดมาตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ยังเผลอลงเล่นแบบไม่รู้ตัวจนกระทั่งอาการกำเริบประกาศปิดเทอมยาวก่อนโอลิมปิกปักกิ่งจะเปิดฉากขึ้นและพักยาวมาจนข้ามมาถึงฤดูกาลใหม่ 2009 ซึ่งเธอประกาศไว้แล้วว่าจะประเดิมสนามแรกกับออสเตรเลี่ยนโอเพ่น หลังจากเปิดเผยว่าร่างกายยังไม่ฟิตพอที่จะลงสนามอุ่นเครื่อง
การเลื่อนกำหนดการลงสนามของ มาเรีย ทำให้เธอได้รับการค่อนขอดจากสื่อหลายสำนักว่าใช้เทนนิสเป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิงเพราะในช่วงเวลาที่หยุดพักนั้นสาวรัสเซียใช้เวลานอกคอร์ตเดินสายถ่ายแบบให้กับนิตยสารยักษ์ใหญ่อาทิ โวก(VOGUE),จีคิว(GQ) ภาษาสเปน และวีเมนเฮลธ์(Women's Health) ทำให้ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2009 ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 19 มกราคม 52 คือสนามทดสอบสำคัญครั้งสำคัญให้ "นางฟ้ามาเรีย" ลบคำสบประมาททั้งปวง
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคมปี 2008 ผลงานของ มาเรียตลอด 2 สัปดาห์ที่เมลเบิร์นพาร์ค ชาราโปวา มีชัยเหนือ ลินเซย์ ดาเวนพอร์ต เอเลนา เดเมนเทียวา เพื่อนร่วมชาติที่ต่อมากลายเป็นเจ้าของเหรียญทองหญิงเดี่ยวโอลิมปิก ปักกิ่ง มาจนถึง จัสติน เอแนง มือ 1 โลกซึ่งก่อนหน้านั้นชนะรวด 32 แมตช์ติดต่อกันกลับกลายเป็นเหยื่อในรอบ 8 คนสุดท้าย เมื่อถึงศึกหนักที่ต้องพบกับ เยเลนา แยนโควิช และ อนา อิวาโนวิช สองสาวพลังเซิร์บ สาวรัสเซีย ก็ยังทำผลงานได้ไม่มีผิดพลาดพร้อมคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่สามให้กับตนเองได้สำเร็จ
สำหรับการกลับมาลงสนามอีกครั้งของ “ราชินี” ผู้ครองบัลลังก์ อย่าง ชาราโปว่าที่ร้างสนามไปเกือบครึ่งฤดูกาล ดูจะมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ฝีมือตนเองอีกครั้งเพราะในระหว่างการฟิตร่างกายเพื่อกลับมาลงแข่งนั้น สาวรัสเซียเจ้าของสามสแลม ได้ปรับลูกแบ็คแฮนด์สไลด์และการหยอดหน้าเน็ตของตนเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำผลงานและส่วนหนึ่งเป็นการปรับเพื่อทดแทนลูกเสิร์ฟที่ครั้งหนึ่งเคยกดได้แรงเฉลี่ยถึง 126 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากแกรนด์สแลมอย่างออสเตรเลี่ยนโอเพ่นจะเป็นที่จับตาของแฟนเทนนิสแล้ว บรรดาเกจิริมคอร์ตยังวิเคราะห์ว่าปัญหาของ ชาราโปว่านั้นคือการเล่นบนคอร์ตดินที่สื่อฯสายเทนนิสให้คำจำกัดความว่า “วัววิ่งบนน้ำแข็ง” เป็นภาพที่ชี้ให้เห็นมิติการเล่นบนดินของ ชาราโปวา ที่เคลื่อนที่เก้งก้าง แม้มีพลังมหาศาลก็มิอาจนำออกมาใช้ได้ถนัด ผิดกับบนคอร์ตเร็วอย่าง ฮาร์ดคอร์ต คอร์ตหญ้า และ พรหมสังเคราะห์ ที่เธอสามารถดึงศักยภาพออกมาได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์นำไปสู่ความมั่นใจในการโจมตีมุมคอร์ตพร้อมเสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์
การกลับคืนสู่สนามในครั้งนี้ของสาวรัสเซีย นับได้ว่าน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากความพร้อมของร่างกายและฝีมือที่เรียกได้ว่าเกินร้อย ในเวลาที่วัยของสาวไซบีเรียที่กำลังจะเต็ม 22 ปีในเดือนเมษายน 52ประกอบกับประสบการณ์กว่า 5 ฤดูกาลบนเส้นทางลูกสักหลาด เรียกได้ว่าเธอผู้นี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วเต็มที่และกำลังอยู่ในช่วงก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่สองของตนเอง
แน่นอนว่าแค่แกรนด์สแลมแรกของปีไม่น่าจะเพียงพอต่อการขึ้นเป็น “ราชินีเจ้าคอร์ต” ได้อย่างมั่นคงเพราะตำแหน่งดังกล่าวในปัจจุบันเรียกได้ว่ามีความ “โคลงเคลง” อยู่สูงเนื่องจากยังมีผู้หมาดหมายอีกหลายรายในการช่วงชิงบัลลังก์ ไม่ว่าจะเป็น สองสาวเซิร์บ “เยเลน่า” และ อนา หรือ คู่พี่น้องตระกูลวิลเลี่ยมส์ ที่พร้อมจะเป็นก้างขวางคอชิ้นโตของสาวรัสเซีย หากแต่คู่ต่อสู้ดังกล่าวน่าจะเป็นบททดสอบสำคัญของ มาเรีย เพราะถ้าเธอต้องการสร้างตำนานให้กับตนเองบนเส้นทางลูกสักหลาด ต้องยอมรับว่านี่คือเส้นทางที่ถูกลิขิตไว้แล้ว สำหรับนักเทนนิสหญิงผู้ได้รับการคาดหมายว่า พร้อมที่สุดที่จะขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกในศักราช 2009 นี้
