366 วันของปี 2008 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนั้น สำหรับวงการกีฬาถือว่าเป็นฤดูกาลแห่งความเหนื่อยยากของเหล่านักสู้หญิงและชาย ทั้งในวงการสมัครเล่นและอาชีพ เป็นห้วงเวลาแห่งการเปลี่ยนถ่ายระหว่างคลื่นลูกเก่าและคลื่นลูกใหม่ เป็นปีที่ความฉาวของเหล่านักกีฬาล้นทะลักเข้าสู่หน้าสื่อมากที่สุด และที่แฟนกีฬาทั่วโลกยังคงตราไว้ในดวงจิตกับเหตุการณ์ตลอด 17 วันของโอลิมปิก 2008 ที่เจ้าภาพระดมทุกสรรพจนทำให้กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติในครั้งนี้เป็นความสมบูรณ์แบบที่หาประเทศเจ้าภาพรายใดเทียบเคียงได้ยากยิ่ง และบรรทัดต่อจากนี้คือ 5 จุดเปลี่ยนของวงการกีฬาโลกที่ต้องติดตามกันต่อว่าในปี 2009 จุดเปลี่ยนดังกล่าวจะทำให้เกิดเหตุการณ์ใดตามมา
1. ปักกิ่งเกมส์ มาตรฐานใหม่เจ้าภาพโอลิมปิก
“นี่คือการจัดการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด” ฌาคก์ โรกก์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ให้คำจำกัดความโอลิมปิกครั้งที่ 29 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เหนือความเป็นจริงสักเท่าใดนัก เพราะถึงแม้เจ้าภาพจะพบกับปัญหาผู้ประท้วงในช่วงระหว่างวิ่งคบเพลิง แต่บทเริ่มต้นของวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 สามารถจบลงได้อย่างงดงามในวันที่ 24 เดือน 8 ปี 2008 พร้อมกับตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ที่จีนประกาศศักดาชิงตำแหน่งมาจากแชมป์หลายสมัยอย่างสหรัฐอเมริกา ส่วนผลงานของนักกีฬาไทยนั้นเราได้เห็นธงชาติถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาถึงสองครั้งจากชัยชนะของ “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล และ สมจิตร จงจอหอ ที่เป็นหนึ่งเดียวของทีมกำปั้นไทยที่คว้าเหรียญทองมาคล้องคอได้สำเร็จ
2. ยูโร 2008 ลูกหนังเจ้าภาพร่วม
เป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าปีไหนที่ปฏิทินกีฬามีการแข่งขันโอลิมปิกหมายความว่าปีนั้นแฟนลูกหนังจะต้องนอนดึกเพื่อลุ้นความมันของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งที่สองที่ยูฟ่าให้สองประเทศร่วมกันเป็นเจ้าภาพ อันได้แก่ สวิสเซอร์แลนด์ และ ออสเตรีย ซึ่งการแข่งขันตลอดทั้งสองสัปดาห์ ต้องยอมรับว่าการใช้เจ้าภาพร่วมทำให้ความแรงของทัวร์นาเม้นท์ มีกระแสไม่แรงอย่างที่คาดหวังหากแต่ความสนุกในเกมลูกหนังยังคงอยู่ในมาตรฐานที่ท้ายที่สุดแล้ว นักเตะจากเมืองกระทิงดุ ก็ได้ครอบครองตำแหน่งทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในยุโรป และปีหน้ายูฟ่ายังคงเดินหน้าให้มีเจ้าภาพร่วมต่อไปโดยหน้าที่จะตกอยู่กับ ยูเครน และ โปแลนด์
3. แมนฯซิตีกับการเมืองไทย
หลังจากทำหน้าที่ประธานสโมสรทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษเพื่อยึดพื้นที่สื่อ และ สร้างต้นทุนทางสังคมเพิ่มให้กับตนเองครบหนึ่งฤดูกาล ที่สุด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษหนีคดี ก็มีอันต้องขายทิ้งหุ้นเรือใบให้กับกลุ่มทุนจากดูไบ หลังจากใช้กีฬาเป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมกับทำร้ายความฝันสามลูกหนังไทยที่เคยให้ความหวังว่าจะให้ลงเล่นอาชีพในพรีเมียร์ลีก โดยเหตุผลของการขายทิ้งหุ้นเรือใบของอดีตผู้นำชาวไทยนั้นเพราะข้อเสนอของกลุ่มทุนจากดูไบน่าสนใจและทำกำไรได้อย่างมหาศาล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ พ่อค้าผู้เจนจัดในสนามการเมืองไทยจะยอมลงจากตำแหน่งประธานสโมสรโดยไม่เกี่ยงงอน โดยทิ้งร้านขายของที่ระลึกของสโมสรเรือใบสีฟ้า และ สัญญาฝึกซ้อมที่มิใช่การเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมของสามนักเตะไทยเป็นผลงานไว้ให้ดูต่างหน้า
4. มิสเตอร์เมเจอร์-เสือเจ็บ และ ไรเดอร์คัพสหรัฐฯ
นี่คือฤดูกาลที่แฟนกีฬากอล์ฟคิดถึงไทเกอร์ วูดส์ มากที่สุดเพราะ “พญาเสือ” ที่เปิดฟอร์มได้อย่างร้อนแรงด้วยตำแหน่งแชมป์ติดต่อกันถึง 4 รายการพร้อมด้วยเมเจอร์อย่าง ยูเอส โอเพ่นประกาศปิดเทอมใหญ่เพื่อเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ส่งผลให้โปรหมายเลขหนึ่งโลกไม่ได้ลงสนามในเมเจอร์ที่เหลือเป็นเหตุให้ พาแดรก แฮร์ริงตันคว้าแชมป์ดิ โอเพ่นสมัยที่สองให้กับตนเองและยังไปเก็บเมเจอร์สุดท้ายของปีพีจีเอ แชมเปียนชิป จนทำให้ได้รับฉายาว่า “มิสเตอร์เมเจอร์” แต่ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นถ้วยไรเดอร์ คัพที่ปีนี้ตกเป็นของ ทีมสหรัฐฯ หลังจากห่างหายชัยชนะมานานหลายปีและเป็นการครองแชมป์โดยไม่มีชื่อของ วู้ดส์เข้าร่วมขณะที่ พาแดรก ซึ่งเป็นกำลังของทีมยุโรป กลับทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่หวัง
5. ถึงเวลาผลัดใบ “แร็กเก็ตเทพ” ขาลง
“ความเปลี่ยนแปลงถือเป็นนิรันดร์” นี่คือวลี ที่น่าจะปลอบโยน โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักเทนนิสหมายเลยหนึ่งของโลกได้ดีที่สุด เพราะปี 2008 คือช่วงเวลาที่ผลงานของ "เฟด-เอ็กซ์" ตกต่ำเป็นอย่างยิ่งแม้ว่าจะคว้าถ้วยแกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่นมาครองได้หากแต่การไม่สามารถป้องกันแชมป์ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น และ วิมเบิลดัน รวมไปถึง ความพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้งต่อนักเทนนิสรุ่นน้อง ส่งให้ “แร็กเก็ตเทพ” ชาวสวิสสูญเสียความมั่นใจและร่วงลงมาจากมือหนึ่งของโลกชนิดแฟนคลับหลายคนใจหาย แม้ว่าเฟเดอเรอร์ จะมีอายุอยู่ในช่วงวัยที่สามารถกลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้งหากแต่ก็ต้องไม่ประมาทว่าปี 2009 คู่แข่งของเขาเพิ่มขึ้นจากเพียงหนึ่งหนุ่มสเปนมาเป็น ราฟาเอล นาดาล, โนวัค ยอโควิช และ แอนดี เมอร์เรย์
1. ปักกิ่งเกมส์ มาตรฐานใหม่เจ้าภาพโอลิมปิก
“นี่คือการจัดการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด” ฌาคก์ โรกก์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ให้คำจำกัดความโอลิมปิกครั้งที่ 29 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เหนือความเป็นจริงสักเท่าใดนัก เพราะถึงแม้เจ้าภาพจะพบกับปัญหาผู้ประท้วงในช่วงระหว่างวิ่งคบเพลิง แต่บทเริ่มต้นของวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 สามารถจบลงได้อย่างงดงามในวันที่ 24 เดือน 8 ปี 2008 พร้อมกับตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ที่จีนประกาศศักดาชิงตำแหน่งมาจากแชมป์หลายสมัยอย่างสหรัฐอเมริกา ส่วนผลงานของนักกีฬาไทยนั้นเราได้เห็นธงชาติถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาถึงสองครั้งจากชัยชนะของ “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล และ สมจิตร จงจอหอ ที่เป็นหนึ่งเดียวของทีมกำปั้นไทยที่คว้าเหรียญทองมาคล้องคอได้สำเร็จ
2. ยูโร 2008 ลูกหนังเจ้าภาพร่วม
เป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าปีไหนที่ปฏิทินกีฬามีการแข่งขันโอลิมปิกหมายความว่าปีนั้นแฟนลูกหนังจะต้องนอนดึกเพื่อลุ้นความมันของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งที่สองที่ยูฟ่าให้สองประเทศร่วมกันเป็นเจ้าภาพ อันได้แก่ สวิสเซอร์แลนด์ และ ออสเตรีย ซึ่งการแข่งขันตลอดทั้งสองสัปดาห์ ต้องยอมรับว่าการใช้เจ้าภาพร่วมทำให้ความแรงของทัวร์นาเม้นท์ มีกระแสไม่แรงอย่างที่คาดหวังหากแต่ความสนุกในเกมลูกหนังยังคงอยู่ในมาตรฐานที่ท้ายที่สุดแล้ว นักเตะจากเมืองกระทิงดุ ก็ได้ครอบครองตำแหน่งทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในยุโรป และปีหน้ายูฟ่ายังคงเดินหน้าให้มีเจ้าภาพร่วมต่อไปโดยหน้าที่จะตกอยู่กับ ยูเครน และ โปแลนด์
3. แมนฯซิตีกับการเมืองไทย
หลังจากทำหน้าที่ประธานสโมสรทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษเพื่อยึดพื้นที่สื่อ และ สร้างต้นทุนทางสังคมเพิ่มให้กับตนเองครบหนึ่งฤดูกาล ที่สุด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษหนีคดี ก็มีอันต้องขายทิ้งหุ้นเรือใบให้กับกลุ่มทุนจากดูไบ หลังจากใช้กีฬาเป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมกับทำร้ายความฝันสามลูกหนังไทยที่เคยให้ความหวังว่าจะให้ลงเล่นอาชีพในพรีเมียร์ลีก โดยเหตุผลของการขายทิ้งหุ้นเรือใบของอดีตผู้นำชาวไทยนั้นเพราะข้อเสนอของกลุ่มทุนจากดูไบน่าสนใจและทำกำไรได้อย่างมหาศาล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ พ่อค้าผู้เจนจัดในสนามการเมืองไทยจะยอมลงจากตำแหน่งประธานสโมสรโดยไม่เกี่ยงงอน โดยทิ้งร้านขายของที่ระลึกของสโมสรเรือใบสีฟ้า และ สัญญาฝึกซ้อมที่มิใช่การเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมของสามนักเตะไทยเป็นผลงานไว้ให้ดูต่างหน้า
4. มิสเตอร์เมเจอร์-เสือเจ็บ และ ไรเดอร์คัพสหรัฐฯ
นี่คือฤดูกาลที่แฟนกีฬากอล์ฟคิดถึงไทเกอร์ วูดส์ มากที่สุดเพราะ “พญาเสือ” ที่เปิดฟอร์มได้อย่างร้อนแรงด้วยตำแหน่งแชมป์ติดต่อกันถึง 4 รายการพร้อมด้วยเมเจอร์อย่าง ยูเอส โอเพ่นประกาศปิดเทอมใหญ่เพื่อเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ส่งผลให้โปรหมายเลขหนึ่งโลกไม่ได้ลงสนามในเมเจอร์ที่เหลือเป็นเหตุให้ พาแดรก แฮร์ริงตันคว้าแชมป์ดิ โอเพ่นสมัยที่สองให้กับตนเองและยังไปเก็บเมเจอร์สุดท้ายของปีพีจีเอ แชมเปียนชิป จนทำให้ได้รับฉายาว่า “มิสเตอร์เมเจอร์” แต่ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นถ้วยไรเดอร์ คัพที่ปีนี้ตกเป็นของ ทีมสหรัฐฯ หลังจากห่างหายชัยชนะมานานหลายปีและเป็นการครองแชมป์โดยไม่มีชื่อของ วู้ดส์เข้าร่วมขณะที่ พาแดรก ซึ่งเป็นกำลังของทีมยุโรป กลับทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่หวัง
5. ถึงเวลาผลัดใบ “แร็กเก็ตเทพ” ขาลง
“ความเปลี่ยนแปลงถือเป็นนิรันดร์” นี่คือวลี ที่น่าจะปลอบโยน โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักเทนนิสหมายเลยหนึ่งของโลกได้ดีที่สุด เพราะปี 2008 คือช่วงเวลาที่ผลงานของ "เฟด-เอ็กซ์" ตกต่ำเป็นอย่างยิ่งแม้ว่าจะคว้าถ้วยแกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่นมาครองได้หากแต่การไม่สามารถป้องกันแชมป์ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น และ วิมเบิลดัน รวมไปถึง ความพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้งต่อนักเทนนิสรุ่นน้อง ส่งให้ “แร็กเก็ตเทพ” ชาวสวิสสูญเสียความมั่นใจและร่วงลงมาจากมือหนึ่งของโลกชนิดแฟนคลับหลายคนใจหาย แม้ว่าเฟเดอเรอร์ จะมีอายุอยู่ในช่วงวัยที่สามารถกลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้งหากแต่ก็ต้องไม่ประมาทว่าปี 2009 คู่แข่งของเขาเพิ่มขึ้นจากเพียงหนึ่งหนุ่มสเปนมาเป็น ราฟาเอล นาดาล, โนวัค ยอโควิช และ แอนดี เมอร์เรย์