โรมัน เบ็ดนาร์ กองหน้าร่างใหญ่โขกประตูชัยช่วงทดเจ็บช่วยให้ “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เฉือนชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-1 ขณะที่ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดรังจิก “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แบบเจ็บแสบเช่นกัน
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมวิช 2-1 แมนฯ ซิตี
มาร์ค ฮิวจ์ส หวังพาทัพ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกมากำชัยเหนือ “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ทีมบ๊วยเพื่อทำอันดับหนีโซนล่างของตาราง แต่นัดนี้ทีมเยือนขาด โรบินโญ ซึ่งเจ็บข้อเท้ามาจากเกมยูฟ่า คัพ ช่วงกลางสัปดาห์ แนวรุกจึงเป็นการประสานงานกันระหว่าง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ดาริอุส วาสเซล และ เบนจานี เอ็มวารูวารี ด้าน โทนี โมว์เบรย์ ไม่มีปัญหาส่งชุดใหญ่ลุยศึกให้เจ้าบ้านนำมาโดย โจนาธาน กรีนนิง กับ โรมัน เบ็ดนาร์
เริ่มเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายไม่ผลีผลามใส่กัน แต่เป็นทาง แมนฯ ซิตี ที่จับจังหวะของเกมได้ก่อน แว็งซองต์ กอมปานี ตัดบอลได้กลางสนามและก็เลี้ยงเข้าไปอัดเต็มเท้า สกอต คาร์สัน พุ่งไปรับไว้ได้ ทีมเยือนเดินหน้าต่อ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ สบโอกาสยิงบริเวณกรอบโทษบอลแฉลบ พอล โรบินสัน ข้ามคานไปนิดเดียวในช่วง 15 นาทีแรก
ถึงครึ่งชั่วโมงพอดีแฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮ โรมัน เบ็ดนาร์ รับบอลต่อจาก โรบินสัน ก่อนหักหลบ เกลสัน เฟอร์นันเดส ยิงด้วยขวาส่งลูกหนังกระดอนพื้นผ่านมือ โจ ฮาร์ท แต่พุ่งไปกระแทกเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย เจ็ดนาทีถัดมาทีมเยือนได้ลุ้นบาง ไรท์-ฟิลลิปส์ ไหลคืนให้ แฟร์นองเดส ซัดบริเวณกรอบโทษแต่ สกอต คาร์สัน รับบอลติดหนึบ ท้ายครึ่งแรก “เรือใบสีฟ้า” ได้ฟรีคิกหยอดเข้ามา ไมกาห์ ริชาร์ดส ตวัดยิงโด่งเกินไป จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี เริ่มต้นได้ดีกว่าอีกครั้ง ปาโบล ซาบาเลตา เติมขึ้นมาทางขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ ตวัดยิงเร็ว คาร์สัน รับหลุดมือก่อนตามเก็บได้ทัน เจ้าถิ่นสวนกลับไปบ้างนาทีที่ 54 เจมส์ มอร์ริสัน เลี้ยงตัดจากซ้ายเข้ามายิงด้วยขวาเบาเกินไปไม่เป็นปัญหาสำหรับ ฮาร์ท หนึ่งชั่วโมงพอดี มาร์ค ฮิวจ์ส ต้องถอด เบนจานี ที่มีอาการเจ็บออกมาพร้อมส่ง เฟลิเป ไคเซโด ลงมาล่าตาข่ายแทน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 69 จังหวะสวนกลับของ เวสต์บรอมวิช นำมาซึ่งประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ ลุค มัวร์ หลุดเข้าไปยิงบอลลอดแขน ฮาร์ท เข้าไป 15 นาทีสุดท้าย แฟนๆ เจ้าบ้านเฮเก้อ โรเบิร์ต โคเรน เปิดบอลไปหน้าประตู ฮาร์ท รับบอลหลุด เคร็ก บีทตี กองหน้าตัวสำรองแปบอลเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาล์ว เบ็ดนาร์ เสียก่อนในจังหวะกระแทกนายทวารทีมเยือน แต่ก่อนหมดเวลา 6 นาที แมนฯ ซิตี ตีเสมอ 1-1 แบบโชคช่วย ไคเซโด ตอกส้นบอลแฉลบขา คริส บรันท์ ตัวสำรองเฉลบเสากระดอนมาโดน คาร์สัน เข้าประตูไป
ท้ายเกม “เดอะ แบ็กกีส์” เกือบได้เฮตอนจบ บีทตี หลุดขึ้นไปปั่นด้วยขวาเฉี่ยวเสาไป จนกระทั่งช่วงทดเจ็บ เวสต์บรอมวิช มาได้ประตูชัย 2-1 จากการโหม่งของ เบ็ดนาร์ หมดเวลาการแข่งจึงเก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนนจากการลงสนาม 18 นัด ยังรั้งบ๊วยแต่ก็จี้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส รองบ๊วยอยู่แค่แต้มเดียว ขณะที่ แมนฯ ซิตี จมอยู่อันดับ 18 ของตารางมีอยู่ 18 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช : สกอต คาร์สัน , จิอันนี ซุยเวอร์ลูน , อับดูลาย เมอิเต , โยนาส โอลส์สัน , พอล โรบินสัน , เจมส์ มอร์ริสัน , โจนาธาน กรีนนิง , โรเบิร์ต โคเรน , คิม โด เฮือน , ลุค มัวร์ , โรมัน เบ็ดนาร์
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ปาโบล ซาบาเลตา , ไมกาห์ ริชาร์ดส , ริชาร์ด ดันน์ , ไมเคิล บอล , แว็งซองต์ กอมปานี , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , เกลสัน เฟอร์นันเดส , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , ดาริอุส วาสเซล , เบนจานี เอ็มวารูวารี
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด คว้าสามแต้มสำคัญเหนือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ โดยเจ้าถิ่นนำก่อนจาก ชาร์ลส เอ็นซ็อคเบีย (น.11) จากนั้นทีมเยือนไล่เสมอ ลูกา โมดริช หลุดเข้าไปยิงนาทีที่ 28 แต่นาทีสุดท้าย “สาลิกาดง” ได้ประตูชัย 2-1 จาก เดเมียน ดัฟฟ์ ตัวสำรองช่วยให้ทีมกระโดดขึ้นไปอยู่ที่ 12 มีอยู่ 22 คะแนน ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” ยังรั้งที่ 16 ตุนมาได้ 19 แต้ม
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมวิช 2-1 แมนฯ ซิตี
มาร์ค ฮิวจ์ส หวังพาทัพ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกมากำชัยเหนือ “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ทีมบ๊วยเพื่อทำอันดับหนีโซนล่างของตาราง แต่นัดนี้ทีมเยือนขาด โรบินโญ ซึ่งเจ็บข้อเท้ามาจากเกมยูฟ่า คัพ ช่วงกลางสัปดาห์ แนวรุกจึงเป็นการประสานงานกันระหว่าง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ดาริอุส วาสเซล และ เบนจานี เอ็มวารูวารี ด้าน โทนี โมว์เบรย์ ไม่มีปัญหาส่งชุดใหญ่ลุยศึกให้เจ้าบ้านนำมาโดย โจนาธาน กรีนนิง กับ โรมัน เบ็ดนาร์
เริ่มเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายไม่ผลีผลามใส่กัน แต่เป็นทาง แมนฯ ซิตี ที่จับจังหวะของเกมได้ก่อน แว็งซองต์ กอมปานี ตัดบอลได้กลางสนามและก็เลี้ยงเข้าไปอัดเต็มเท้า สกอต คาร์สัน พุ่งไปรับไว้ได้ ทีมเยือนเดินหน้าต่อ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ สบโอกาสยิงบริเวณกรอบโทษบอลแฉลบ พอล โรบินสัน ข้ามคานไปนิดเดียวในช่วง 15 นาทีแรก
ถึงครึ่งชั่วโมงพอดีแฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮ โรมัน เบ็ดนาร์ รับบอลต่อจาก โรบินสัน ก่อนหักหลบ เกลสัน เฟอร์นันเดส ยิงด้วยขวาส่งลูกหนังกระดอนพื้นผ่านมือ โจ ฮาร์ท แต่พุ่งไปกระแทกเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย เจ็ดนาทีถัดมาทีมเยือนได้ลุ้นบาง ไรท์-ฟิลลิปส์ ไหลคืนให้ แฟร์นองเดส ซัดบริเวณกรอบโทษแต่ สกอต คาร์สัน รับบอลติดหนึบ ท้ายครึ่งแรก “เรือใบสีฟ้า” ได้ฟรีคิกหยอดเข้ามา ไมกาห์ ริชาร์ดส ตวัดยิงโด่งเกินไป จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี เริ่มต้นได้ดีกว่าอีกครั้ง ปาโบล ซาบาเลตา เติมขึ้นมาทางขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ ตวัดยิงเร็ว คาร์สัน รับหลุดมือก่อนตามเก็บได้ทัน เจ้าถิ่นสวนกลับไปบ้างนาทีที่ 54 เจมส์ มอร์ริสัน เลี้ยงตัดจากซ้ายเข้ามายิงด้วยขวาเบาเกินไปไม่เป็นปัญหาสำหรับ ฮาร์ท หนึ่งชั่วโมงพอดี มาร์ค ฮิวจ์ส ต้องถอด เบนจานี ที่มีอาการเจ็บออกมาพร้อมส่ง เฟลิเป ไคเซโด ลงมาล่าตาข่ายแทน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 69 จังหวะสวนกลับของ เวสต์บรอมวิช นำมาซึ่งประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ ลุค มัวร์ หลุดเข้าไปยิงบอลลอดแขน ฮาร์ท เข้าไป 15 นาทีสุดท้าย แฟนๆ เจ้าบ้านเฮเก้อ โรเบิร์ต โคเรน เปิดบอลไปหน้าประตู ฮาร์ท รับบอลหลุด เคร็ก บีทตี กองหน้าตัวสำรองแปบอลเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาล์ว เบ็ดนาร์ เสียก่อนในจังหวะกระแทกนายทวารทีมเยือน แต่ก่อนหมดเวลา 6 นาที แมนฯ ซิตี ตีเสมอ 1-1 แบบโชคช่วย ไคเซโด ตอกส้นบอลแฉลบขา คริส บรันท์ ตัวสำรองเฉลบเสากระดอนมาโดน คาร์สัน เข้าประตูไป
ท้ายเกม “เดอะ แบ็กกีส์” เกือบได้เฮตอนจบ บีทตี หลุดขึ้นไปปั่นด้วยขวาเฉี่ยวเสาไป จนกระทั่งช่วงทดเจ็บ เวสต์บรอมวิช มาได้ประตูชัย 2-1 จากการโหม่งของ เบ็ดนาร์ หมดเวลาการแข่งจึงเก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนนจากการลงสนาม 18 นัด ยังรั้งบ๊วยแต่ก็จี้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส รองบ๊วยอยู่แค่แต้มเดียว ขณะที่ แมนฯ ซิตี จมอยู่อันดับ 18 ของตารางมีอยู่ 18 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช : สกอต คาร์สัน , จิอันนี ซุยเวอร์ลูน , อับดูลาย เมอิเต , โยนาส โอลส์สัน , พอล โรบินสัน , เจมส์ มอร์ริสัน , โจนาธาน กรีนนิง , โรเบิร์ต โคเรน , คิม โด เฮือน , ลุค มัวร์ , โรมัน เบ็ดนาร์
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ปาโบล ซาบาเลตา , ไมกาห์ ริชาร์ดส , ริชาร์ด ดันน์ , ไมเคิล บอล , แว็งซองต์ กอมปานี , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , เกลสัน เฟอร์นันเดส , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , ดาริอุส วาสเซล , เบนจานี เอ็มวารูวารี
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด คว้าสามแต้มสำคัญเหนือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ โดยเจ้าถิ่นนำก่อนจาก ชาร์ลส เอ็นซ็อคเบีย (น.11) จากนั้นทีมเยือนไล่เสมอ ลูกา โมดริช หลุดเข้าไปยิงนาทีที่ 28 แต่นาทีสุดท้าย “สาลิกาดง” ได้ประตูชัย 2-1 จาก เดเมียน ดัฟฟ์ ตัวสำรองช่วยให้ทีมกระโดดขึ้นไปอยู่ที่ 12 มีอยู่ 22 คะแนน ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” ยังรั้งที่ 16 ตุนมาได้ 19 แต้ม