“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี หืดจับกว่าจะมีแต้มกลับบ้านหลังบุกไปตามเจ๊า “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ต้นเกม 2-2 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันจันทร์
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
โจ คินเนียร์ กุนซือขัดตาทัพพ้นโทษแบนกลับมาคุมบังเหียน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ เกมนี้เจ้าถิ่นขาด ไมเคิล โอเวน กองหน้าตัวเก่งที่เจ็บโคนขาหนีบ แต่ก็ได้ โอบาเฟมี มาร์ตินส์ กลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ โชลา อเมโอบี ขณะที่ เดเมียน ดัฟฟ์ ถอยกลับไปเดินเกมริมเส้นดังเดิม ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี โชคดีได้ โรบินโญ ฟิตกลับมาทันจากการไปเล่นทีมชาติ แต่ก็พัก เอลาโน ส่วน มาร์ติน เปตรอฟ ปีกบัลแกเรียนเจ็บหนักพักยาว
เริ่มเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายพยายามจับจังหวะของเกมหาทางครองบอลบุกให้ได้โดยไม่มีฝ่ายใดผลีผลาม แต่นาทีที่ 10 นิวคาสเซิล ได้ลุ้นก่อนเมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา เฌเรมี เอ็นจิตัป ปั่นบอลหลุดกรอบแบบได้ลุ้น ทว่าอีกสามนาทีถัดมา แมนฯ ซิตี มาได้ลูกที่จุดโทษ ร็อบ สไตล์ส ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ ฮาบิบ เบย์ ออกจากสนามเพราะไปมองว่าเข้าสกัด โรบินโญ ทั้งที่ค่อนข้างชัดว่าแบ็กขวา “สาลิกาดง” เสียบโดนบอลก่อน แม้นักเตะเจ้าบ้านมีการประท้วงแต่ไม่เป็นผล โรบินโญ รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ทีมเยือนนำ 1-0
พอมีตัวผู้เล่นมากกว่า ไมกาห์ ริชาร์ดส กล้าเติมเกมขึ้นมากระแทก ฟาบริโอ โคลอคซินี ก่อนตะบันในกรอบโทษด้วยขวาแต่บอลพุ่งไปติดตัว กิฟเวน เกมขยับผ่านครึ่งชั่วโมง แมนฯ ซิตี ครองเกมได้เหนือกว่าแม้เจ้าถิ่นเริ่มตั้งตัวกันติดบ้างแล้ว สตีเฟน ไอร์แลนด์ ได้ยิงบริเวณหัวกะโหลกบอลแฉลบเท้า สตีเวน เทย์เลอร์ ไปเข้าทาง โจ แต่ดาวยิงทีมชาติบราซิลแหย่เท้าไม่ถึงบอล ห้านาทีถัดมา นิวคาสเซิล ได้ลุ้นบ้าง โชลา อเมโอบี แทงทะลุให้ เดเมียน ดัฟฟ์ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวา โจ ฮาร์ท ออกมาบังมุมรับไว้ได้
นาทีที่ 38 ทีมเยือนจากอีสต์แลนด์พลาดโอกาสทิ้งห่างไปอย่างน่าเสียดาย ดีทมาร์ ฮามันน์ เติมขึ้นมาโขกลูกเตะมุมโล่งๆ บอลเฉียดคานไปนิดเดียว ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที เหล่า “ทูนอาร์มี” ได้เฮกันลั่นสนาม โอบาเฟมี มาร์ตินส์ สบโอกาสเปิดจากกราบซ้ายเข้ากลาง ริชาร์ด ดันน์ สกัดบอลไปโดนหน้า ดัฟฟ์ กระดอนแฉลบ ทาล เบน ฮาอิม เข้าทาง อเมโอบี แปเฉือนๆ ส่งลูกหนังผ่านมือ ฮาร์ท ซุกก้นตาข่าย จบ 45 นาทีแรก สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 แม้ แมนฯ ซิตี ได้เปรียบผู้เล่นหนึ่งคนก็ตาม
ลุยต่อในครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ยังไม่สามารถใช้ความได้เปรียบจากการมีผู้เล่นมากกว่า ผิดกลับ นิวคาสเซิล ที่ลงมาช่วยกันเล่นได้ดี เข้าสู่หนึ่งชั่วโมง ฮิวจ์ส ต้องปรับเกมรับถอด ริชาร์ดส ที่มีปัญหาเจ็บออกมาพร้อมกับปล่อย เนดุม โอนัวฮา ไปช่วยเพื่อน ทีมเยือนเริ่มหาหนทางเจาะไม่เข้า แวงซองต์ กอมปานี ต้องทดลองยิงไกลดูแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ กิฟเวน ถึงนาทีที่ 63 “สาลิกาดง” พลิกจิกนำ 2-1 เฌเรมี เปิดลูกเตะมุมเข้ามา ดันน์ เตะสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง
พอเสียประตูไป “เรือใบสีฟ้า” ต้องติดเครื่องเดินหน้ามากขึ้นกว่าเดิม ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ เปิดลูกเตะมุมให้ โจ โหนโหม่งข้ามคาน ช่วง 20 นาทีท้าย คินเนียร์ ปรับแท็คติกดึง มาร์ตินส์ ออกมาพร้อมกับเติม ชาร์ลส เอ็นซอคเบีย มาช่วยไล่บอลแดนกลาง จากจังหวะสวนกลับเจ้าบ้านเกือบได้เฮอีกครั้ง ดัฟฟ์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายเปิดไปเสาแรกให้ อเมโอบี ตวัดยิงเร็วไม่ตรงกรอบ โรบินโญ ตอบโต้กลับไปบ้างแต่ลูกยิงเรียดโดน กิฟเวน ล้มตัวรับไว้ได้สบายๆ
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี โถมใส่อีกครั้ง ไอร์แลนด์ โชว์ทักษะลูกหนังงัดบอลขึ้นมาก่อนฮาล์ฟวอลเลย์เต็มๆ ด้วยขวา บอลพุ่งกำลังจะเสียบมุมแต่ กิฟเวน งัดซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้ก่อนไปตะครุบบอลอีกจังหวะ แต่ก่อนหมดเวลาแค่ 4 นาที ความพยายามของทีมเยือนสัมฤทธิ์ผลจนได้ โรบินโญ จ่ายทะลุให้ ไอร์แลนด์ หลุดเข้าไปยิงบอลเสียบหน้าต่าง ครบ 90 นาที “เรือใบสีฟ้า” รอดตัวหวิวตามเจ๊า 2-2 มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัด ขึ้นมาอยู่ที่ 10 ขณะที่ นิวคาสเซิล ยังรั้งที่ 19 มีอยู่ 6 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล : เชย์ กิฟเวน , ฮาบิบ เบย์ , สตีเวน เทย์เลอร์ , ฟาบริโอ โคลอคซินี , เซบาสเตียน บาสซง , เฌเรมี เอ็นจิตัป , นิคกี บัตต์ , แดนนี กัทธรี , เดเมียน ดัฟฟ์ , โอบาเฟมี มาร์ตินส์ , โชลา อเมโอบี
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ไมกาห์ ริชาร์ดส , ริชาร์ด ดันน์ , ทาล เบน ฮาอิม , ฮาเวียร์ การ์ริโด , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , แวงซองต์ กอมปานี , ดีทมาร์ ฮามันน์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , โรบินโญ , โจ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
โจ คินเนียร์ กุนซือขัดตาทัพพ้นโทษแบนกลับมาคุมบังเหียน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ เกมนี้เจ้าถิ่นขาด ไมเคิล โอเวน กองหน้าตัวเก่งที่เจ็บโคนขาหนีบ แต่ก็ได้ โอบาเฟมี มาร์ตินส์ กลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ โชลา อเมโอบี ขณะที่ เดเมียน ดัฟฟ์ ถอยกลับไปเดินเกมริมเส้นดังเดิม ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี โชคดีได้ โรบินโญ ฟิตกลับมาทันจากการไปเล่นทีมชาติ แต่ก็พัก เอลาโน ส่วน มาร์ติน เปตรอฟ ปีกบัลแกเรียนเจ็บหนักพักยาว
เริ่มเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายพยายามจับจังหวะของเกมหาทางครองบอลบุกให้ได้โดยไม่มีฝ่ายใดผลีผลาม แต่นาทีที่ 10 นิวคาสเซิล ได้ลุ้นก่อนเมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา เฌเรมี เอ็นจิตัป ปั่นบอลหลุดกรอบแบบได้ลุ้น ทว่าอีกสามนาทีถัดมา แมนฯ ซิตี มาได้ลูกที่จุดโทษ ร็อบ สไตล์ส ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ ฮาบิบ เบย์ ออกจากสนามเพราะไปมองว่าเข้าสกัด โรบินโญ ทั้งที่ค่อนข้างชัดว่าแบ็กขวา “สาลิกาดง” เสียบโดนบอลก่อน แม้นักเตะเจ้าบ้านมีการประท้วงแต่ไม่เป็นผล โรบินโญ รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ทีมเยือนนำ 1-0
พอมีตัวผู้เล่นมากกว่า ไมกาห์ ริชาร์ดส กล้าเติมเกมขึ้นมากระแทก ฟาบริโอ โคลอคซินี ก่อนตะบันในกรอบโทษด้วยขวาแต่บอลพุ่งไปติดตัว กิฟเวน เกมขยับผ่านครึ่งชั่วโมง แมนฯ ซิตี ครองเกมได้เหนือกว่าแม้เจ้าถิ่นเริ่มตั้งตัวกันติดบ้างแล้ว สตีเฟน ไอร์แลนด์ ได้ยิงบริเวณหัวกะโหลกบอลแฉลบเท้า สตีเวน เทย์เลอร์ ไปเข้าทาง โจ แต่ดาวยิงทีมชาติบราซิลแหย่เท้าไม่ถึงบอล ห้านาทีถัดมา นิวคาสเซิล ได้ลุ้นบ้าง โชลา อเมโอบี แทงทะลุให้ เดเมียน ดัฟฟ์ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวา โจ ฮาร์ท ออกมาบังมุมรับไว้ได้
นาทีที่ 38 ทีมเยือนจากอีสต์แลนด์พลาดโอกาสทิ้งห่างไปอย่างน่าเสียดาย ดีทมาร์ ฮามันน์ เติมขึ้นมาโขกลูกเตะมุมโล่งๆ บอลเฉียดคานไปนิดเดียว ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที เหล่า “ทูนอาร์มี” ได้เฮกันลั่นสนาม โอบาเฟมี มาร์ตินส์ สบโอกาสเปิดจากกราบซ้ายเข้ากลาง ริชาร์ด ดันน์ สกัดบอลไปโดนหน้า ดัฟฟ์ กระดอนแฉลบ ทาล เบน ฮาอิม เข้าทาง อเมโอบี แปเฉือนๆ ส่งลูกหนังผ่านมือ ฮาร์ท ซุกก้นตาข่าย จบ 45 นาทีแรก สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 แม้ แมนฯ ซิตี ได้เปรียบผู้เล่นหนึ่งคนก็ตาม
ลุยต่อในครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ยังไม่สามารถใช้ความได้เปรียบจากการมีผู้เล่นมากกว่า ผิดกลับ นิวคาสเซิล ที่ลงมาช่วยกันเล่นได้ดี เข้าสู่หนึ่งชั่วโมง ฮิวจ์ส ต้องปรับเกมรับถอด ริชาร์ดส ที่มีปัญหาเจ็บออกมาพร้อมกับปล่อย เนดุม โอนัวฮา ไปช่วยเพื่อน ทีมเยือนเริ่มหาหนทางเจาะไม่เข้า แวงซองต์ กอมปานี ต้องทดลองยิงไกลดูแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ กิฟเวน ถึงนาทีที่ 63 “สาลิกาดง” พลิกจิกนำ 2-1 เฌเรมี เปิดลูกเตะมุมเข้ามา ดันน์ เตะสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง
พอเสียประตูไป “เรือใบสีฟ้า” ต้องติดเครื่องเดินหน้ามากขึ้นกว่าเดิม ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ เปิดลูกเตะมุมให้ โจ โหนโหม่งข้ามคาน ช่วง 20 นาทีท้าย คินเนียร์ ปรับแท็คติกดึง มาร์ตินส์ ออกมาพร้อมกับเติม ชาร์ลส เอ็นซอคเบีย มาช่วยไล่บอลแดนกลาง จากจังหวะสวนกลับเจ้าบ้านเกือบได้เฮอีกครั้ง ดัฟฟ์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายเปิดไปเสาแรกให้ อเมโอบี ตวัดยิงเร็วไม่ตรงกรอบ โรบินโญ ตอบโต้กลับไปบ้างแต่ลูกยิงเรียดโดน กิฟเวน ล้มตัวรับไว้ได้สบายๆ
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี โถมใส่อีกครั้ง ไอร์แลนด์ โชว์ทักษะลูกหนังงัดบอลขึ้นมาก่อนฮาล์ฟวอลเลย์เต็มๆ ด้วยขวา บอลพุ่งกำลังจะเสียบมุมแต่ กิฟเวน งัดซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้ก่อนไปตะครุบบอลอีกจังหวะ แต่ก่อนหมดเวลาแค่ 4 นาที ความพยายามของทีมเยือนสัมฤทธิ์ผลจนได้ โรบินโญ จ่ายทะลุให้ ไอร์แลนด์ หลุดเข้าไปยิงบอลเสียบหน้าต่าง ครบ 90 นาที “เรือใบสีฟ้า” รอดตัวหวิวตามเจ๊า 2-2 มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัด ขึ้นมาอยู่ที่ 10 ขณะที่ นิวคาสเซิล ยังรั้งที่ 19 มีอยู่ 6 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล : เชย์ กิฟเวน , ฮาบิบ เบย์ , สตีเวน เทย์เลอร์ , ฟาบริโอ โคลอคซินี , เซบาสเตียน บาสซง , เฌเรมี เอ็นจิตัป , นิคกี บัตต์ , แดนนี กัทธรี , เดเมียน ดัฟฟ์ , โอบาเฟมี มาร์ตินส์ , โชลา อเมโอบี
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ไมกาห์ ริชาร์ดส , ริชาร์ด ดันน์ , ทาล เบน ฮาอิม , ฮาเวียร์ การ์ริโด , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , แวงซองต์ กอมปานี , ดีทมาร์ ฮามันน์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , โรบินโญ , โจ
