แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ขนตัวสำรองลงเล่นเป็นส่วนใหญ่ไล่ตีเสมอ อัลบอร์ก 2-2 ก่อนคว้าที่ 1 ของกลุ่ม อี ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้าน อาร์เซนอล บุกไปโดน เอฟซี ปอร์โต เผาเครื่อง จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยอันดับ 2 ของกลุ่ม จี
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 6
กลุ่ม อี : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 2-2 อัลบอร์ก (เดนมาร์ก)
เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับ อัลบอร์ก นัดนี้เจ้าถิ่นพัก คริสเตียโน โรนัลโด รวมถึงผู้เล่นตัวจริงหลายราย แต่ยังมี เวย์น รูนีย์ กับ คาร์ลอส เตเบซ เป็นคู่หัวหอก ส่วนทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่ มาเร็ค ซากานอฟสกี ดาวยิงตัวเก่งประจำทีม
เขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้ไม่ทันไร ปิศาจแดงก็เป็นฝ่ายเจาะตาข่ายขึ้นนำไปก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 จากการต่อบอลจังหวะเดียว รูนีย์ โหม่งตั้งมาที่ ไรอัน กิ๊กส์ ดีดต่อให้ เตเบซ หลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มสวนตัว คาริม ซาซา แบบไม่ต้องจับเข้าประตู
ถัดมา 3 นาที เตเบซ เกือบเบิ้ลลูกที่ 2 ของตัวเองได้ หลังจาก รูนีย์ หักข้อจ่ายมาให้ซัดด้วยซ้ายแถวจุดโทษ ทว่ากลับส่งลูกหลุดออกข้างเสาแรกอย่างน่าเสียดาย จากนั้นนาทีที่ 10 จอนนี อีแวนส์ ได้ซัดในจังหวะเติมขึ้นมาเล่นลูกเตะมุม แต่บอลเหินข้ามคาน
หลังโดนกดดันอยู่นาน อัลบอร์ก มีจังหวะตอบโต้เจ้าถิ่นบ้างในนาทีที่ 15 จาก มาเร็ค ซากานอฟสกี ที่ลากบอลจากกลางสนามโยกหนี อีแวนส์ แถวหน้าเขตโทษ แต่สุดท้ายก็ส่งบอลพลาดเป้าหมายไปไกล จากนั้นนาทีที่ 23 รูนีย์ ตวัดจากเส้นหลังด้านซ้ายให้ เตเบซ ขึ้นโหม่ง บอลผ่านหน้าประตูออกหลังไป
ถัดมา 1 นาที อันแดร์สัน ตัดบอลได้ก่อนลากขึ้นมาแล้วแต่งเข้าซ้าย แต่ก็สับไกไม่ตรงกรอบ จนกระทั่งนาทีที่ 31 อาคันตุกะจากแดนโคนมก็ตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ เมื่อ อันเดอร์ส ดูเอ ปั่นฟรีคิกจากด้านขวาโค้งมาในเขตโทษ ไมเคิล ยาค็อบเซน วิ่งสอดเข้ามาพุ่งตัวโหม่งเช็ดตามน้ำส่งลูกกระดอนพื้นหนีมือ โทมัส คุสแช็ค เสียบเสาสอง
ช่วงท้ายครึ่งแรก อัลบอร์ก มีโอกาสหวาดเสียวจากการยิงฟรีคิกของ ดูเอ ที่โค้งข้ามกำแพงจะเสียบเสาแรก แต่ คุสแช็ค ยังพุ่งปัดออกไปได้ ก่อนที่ อัลบอร์ก จะแซงนำ 2-1 ในช่วงทดเจ็บ โดย ดูเอ ตัดบอลในแดนตัวเองก่อนพาขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วหยอดให้ เยปเป เคิร์ธ โหม่งย้อนศรหนี คุสแช็ค ตุงตาข่าย จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด แก้เกมโดยส่ง พอล สโคลส์ กับ ปาร์ค จี ซอง ลงมาแทน ดาร์รอน กิ๊บสัน และ ไรอัน กิ๊กส์ ก่อนจะตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ อันแดร์สัน ผ่านเรียดขึ้นหน้าให้ รูนีย์ กดเน้นๆ ในเขตโทษส่งลูกสวนตัว คาริม ซาซา เข้าไปกองก้นตาข่าย
เกมเริ่มกลับมาอยู่ในมือของปิศาจแดงอีกครั้ง นาทีที่ 61 เตเบซ โยกตัดเข้าในแล้วซัดไปติดบล็อกของ ยาค็อบเซน จากนั้นนาทีที่ 72 รูนีย์ วางบอลจากซ้ายข้ามไปทางขวาให้ แกรี เนวิลล์ เติมเข้ามาในเขตโทษแล้วซัด ทว่า คาริม ซาซา ยังถลำออกมาขวางได้ทันเวลา
เตเบซ มีโอกาสส่งแมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำอีกครั้งในนาทีที่ 85 เมื่อรับลูกจ่ายยาวของ รูนีย์ หลุดเข้าไปกระทุ้งในเขตโทษ แต่ก็ซัดออกไปทางเสาแรกอย่างน่าเจ็บใจ เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นานี มีจังหวะได้สับไกนอกเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ อัลบอร์ก 2-2 เก็บอีก 1 แต้มเพิ่มมาเป็น 10 คะแนน ทำให้ได้อันดับ 1 ของกลุ่ม อี ส่วน บียาร์รีล ที่บุกไปพ่าย กลาสโกว์ เซลติก 0-2 ตามมาเป็นที่ 2 ขณะที่ในกลุ่ม จี เอฟซี ปอร์โต เอาชนะ อาร์เซนอล 2-0 จบรอบแบ่งกลุ่มโดยเป็นที่ 1 ของสาย ส่วน “ปืนใหญ่” ได้อันดับ 2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – โทมัส คุสแช็ค, แกรี เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี อีแวนส์, จอห์น โอเชีย, ดาร์รอน กิ๊บสัน, อันแดร์สัน, นานี, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
อัลบอร์ก – คาริม ซาซา, แคสเปอร์ โบเกลุนด์, สตีฟ โอลเฟอร์ส, ไมเคิล ยาค็อบเซน, มาร์ติน พีเดอร์เซน, โธมัส ออกุสตินุสเซน, แคสเปอร์ ริสการ์ด, โธมัส เอเนโวลด์เซน, อันเดอร์ส ดูเอ, เยปเป เคิร์ธ, มาเร็ค ซากานอฟสกี
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย
กลุ่ม อี
กลาสโกว์ เซลติก (สกอตแลนด์) ชนะ บียาร์รีล (สเปน) 2-0 (ฌอน มาโลนีย์ 1-0 น.14), (ไอเดน แม็คเกียดี 2-0 น.45)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) เสมอ อัลบอร์ก (เดนมาร์ก) 2-2 (คาร์ลอส เตเบซ 1-0 น.3), (ไมเคิล ยาค็อบเซน 1-1 น.31), (เยปเป เคิร์ธ 1-2 น.45), (เวย์น รูนีย์ 2-2 น.52)
กลุ่ม เอฟ
โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) แพ้ บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) 2-3 (มิโรสลาฟ โคลเซ 0-1 น.11), (ฟรองค์ ริเบรี 0-2 น.34), (มิโรสลาฟ โคลเซ 0-3 น.37), (ซิดเนย์ โกวู 1-3 น.52), (คาริม เบนเซมา 2-3 น.68)
สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) แพ้ ฟิออเรนตินา (อิตาลี) 0-1 (อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน 0-1 น.66)
กลุ่ม จี
ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) ชนะ เฟเนร์บาห์เช (ตุรกี) 1-0 (โรมัน เอเรเมนโก 1-0 น.20)
เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส) ชนะ อาร์เซนอล (อังกฤษ) 2-0 (บรูโน อัลเวส 1-0 น.38), (ลิซานโดร โลเปซ 2-0 น.54)
กลุ่ม เอช
ยูเวนตุส (อิตาลี) เสมอ บาเต บอริซอฟ (เบลารุส) 0-0
รีล มาดริด (สเปน) ชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 3-0 (ราอูล กอนซาเลซ 1-0 น.25), (อาร์เยน ร็อบเบน 2-0 น.50), (ราอูล กอนซาเลซ 3-0 น.57)
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 6
กลุ่ม อี : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 2-2 อัลบอร์ก (เดนมาร์ก)
เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับ อัลบอร์ก นัดนี้เจ้าถิ่นพัก คริสเตียโน โรนัลโด รวมถึงผู้เล่นตัวจริงหลายราย แต่ยังมี เวย์น รูนีย์ กับ คาร์ลอส เตเบซ เป็นคู่หัวหอก ส่วนทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่ มาเร็ค ซากานอฟสกี ดาวยิงตัวเก่งประจำทีม
เขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้ไม่ทันไร ปิศาจแดงก็เป็นฝ่ายเจาะตาข่ายขึ้นนำไปก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 จากการต่อบอลจังหวะเดียว รูนีย์ โหม่งตั้งมาที่ ไรอัน กิ๊กส์ ดีดต่อให้ เตเบซ หลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มสวนตัว คาริม ซาซา แบบไม่ต้องจับเข้าประตู
ถัดมา 3 นาที เตเบซ เกือบเบิ้ลลูกที่ 2 ของตัวเองได้ หลังจาก รูนีย์ หักข้อจ่ายมาให้ซัดด้วยซ้ายแถวจุดโทษ ทว่ากลับส่งลูกหลุดออกข้างเสาแรกอย่างน่าเสียดาย จากนั้นนาทีที่ 10 จอนนี อีแวนส์ ได้ซัดในจังหวะเติมขึ้นมาเล่นลูกเตะมุม แต่บอลเหินข้ามคาน
หลังโดนกดดันอยู่นาน อัลบอร์ก มีจังหวะตอบโต้เจ้าถิ่นบ้างในนาทีที่ 15 จาก มาเร็ค ซากานอฟสกี ที่ลากบอลจากกลางสนามโยกหนี อีแวนส์ แถวหน้าเขตโทษ แต่สุดท้ายก็ส่งบอลพลาดเป้าหมายไปไกล จากนั้นนาทีที่ 23 รูนีย์ ตวัดจากเส้นหลังด้านซ้ายให้ เตเบซ ขึ้นโหม่ง บอลผ่านหน้าประตูออกหลังไป
ถัดมา 1 นาที อันแดร์สัน ตัดบอลได้ก่อนลากขึ้นมาแล้วแต่งเข้าซ้าย แต่ก็สับไกไม่ตรงกรอบ จนกระทั่งนาทีที่ 31 อาคันตุกะจากแดนโคนมก็ตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ เมื่อ อันเดอร์ส ดูเอ ปั่นฟรีคิกจากด้านขวาโค้งมาในเขตโทษ ไมเคิล ยาค็อบเซน วิ่งสอดเข้ามาพุ่งตัวโหม่งเช็ดตามน้ำส่งลูกกระดอนพื้นหนีมือ โทมัส คุสแช็ค เสียบเสาสอง
ช่วงท้ายครึ่งแรก อัลบอร์ก มีโอกาสหวาดเสียวจากการยิงฟรีคิกของ ดูเอ ที่โค้งข้ามกำแพงจะเสียบเสาแรก แต่ คุสแช็ค ยังพุ่งปัดออกไปได้ ก่อนที่ อัลบอร์ก จะแซงนำ 2-1 ในช่วงทดเจ็บ โดย ดูเอ ตัดบอลในแดนตัวเองก่อนพาขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วหยอดให้ เยปเป เคิร์ธ โหม่งย้อนศรหนี คุสแช็ค ตุงตาข่าย จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด แก้เกมโดยส่ง พอล สโคลส์ กับ ปาร์ค จี ซอง ลงมาแทน ดาร์รอน กิ๊บสัน และ ไรอัน กิ๊กส์ ก่อนจะตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ อันแดร์สัน ผ่านเรียดขึ้นหน้าให้ รูนีย์ กดเน้นๆ ในเขตโทษส่งลูกสวนตัว คาริม ซาซา เข้าไปกองก้นตาข่าย
เกมเริ่มกลับมาอยู่ในมือของปิศาจแดงอีกครั้ง นาทีที่ 61 เตเบซ โยกตัดเข้าในแล้วซัดไปติดบล็อกของ ยาค็อบเซน จากนั้นนาทีที่ 72 รูนีย์ วางบอลจากซ้ายข้ามไปทางขวาให้ แกรี เนวิลล์ เติมเข้ามาในเขตโทษแล้วซัด ทว่า คาริม ซาซา ยังถลำออกมาขวางได้ทันเวลา
เตเบซ มีโอกาสส่งแมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำอีกครั้งในนาทีที่ 85 เมื่อรับลูกจ่ายยาวของ รูนีย์ หลุดเข้าไปกระทุ้งในเขตโทษ แต่ก็ซัดออกไปทางเสาแรกอย่างน่าเจ็บใจ เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นานี มีจังหวะได้สับไกนอกเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ อัลบอร์ก 2-2 เก็บอีก 1 แต้มเพิ่มมาเป็น 10 คะแนน ทำให้ได้อันดับ 1 ของกลุ่ม อี ส่วน บียาร์รีล ที่บุกไปพ่าย กลาสโกว์ เซลติก 0-2 ตามมาเป็นที่ 2 ขณะที่ในกลุ่ม จี เอฟซี ปอร์โต เอาชนะ อาร์เซนอล 2-0 จบรอบแบ่งกลุ่มโดยเป็นที่ 1 ของสาย ส่วน “ปืนใหญ่” ได้อันดับ 2
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – โทมัส คุสแช็ค, แกรี เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี อีแวนส์, จอห์น โอเชีย, ดาร์รอน กิ๊บสัน, อันแดร์สัน, นานี, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
อัลบอร์ก – คาริม ซาซา, แคสเปอร์ โบเกลุนด์, สตีฟ โอลเฟอร์ส, ไมเคิล ยาค็อบเซน, มาร์ติน พีเดอร์เซน, โธมัส ออกุสตินุสเซน, แคสเปอร์ ริสการ์ด, โธมัส เอเนโวลด์เซน, อันเดอร์ส ดูเอ, เยปเป เคิร์ธ, มาเร็ค ซากานอฟสกี
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย
กลุ่ม อี
กลาสโกว์ เซลติก (สกอตแลนด์) ชนะ บียาร์รีล (สเปน) 2-0 (ฌอน มาโลนีย์ 1-0 น.14), (ไอเดน แม็คเกียดี 2-0 น.45)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) เสมอ อัลบอร์ก (เดนมาร์ก) 2-2 (คาร์ลอส เตเบซ 1-0 น.3), (ไมเคิล ยาค็อบเซน 1-1 น.31), (เยปเป เคิร์ธ 1-2 น.45), (เวย์น รูนีย์ 2-2 น.52)
กลุ่ม เอฟ
โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) แพ้ บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) 2-3 (มิโรสลาฟ โคลเซ 0-1 น.11), (ฟรองค์ ริเบรี 0-2 น.34), (มิโรสลาฟ โคลเซ 0-3 น.37), (ซิดเนย์ โกวู 1-3 น.52), (คาริม เบนเซมา 2-3 น.68)
สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) แพ้ ฟิออเรนตินา (อิตาลี) 0-1 (อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน 0-1 น.66)
กลุ่ม จี
ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) ชนะ เฟเนร์บาห์เช (ตุรกี) 1-0 (โรมัน เอเรเมนโก 1-0 น.20)
เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส) ชนะ อาร์เซนอล (อังกฤษ) 2-0 (บรูโน อัลเวส 1-0 น.38), (ลิซานโดร โลเปซ 2-0 น.54)
กลุ่ม เอช
ยูเวนตุส (อิตาลี) เสมอ บาเต บอริซอฟ (เบลารุส) 0-0
รีล มาดริด (สเปน) ชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 3-0 (ราอูล กอนซาเลซ 1-0 น.25), (อาร์เยน ร็อบเบน 2-0 น.50), (ราอูล กอนซาเลซ 3-0 น.57)
