ถาวร วิรัตน์จันทร์ เจ้าของแชมป์ เอเชียน ทัวร์ สูงสุด 10 รายการชาวไทย อยากจะคว้าแชมป์ วอลโว่ มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ในบ้านเกิด ให้ได้เหมือนกับสองโปรเพื่อนร่วมชาติอย่าง ประหยัด มากแสง และ ธงชัย ใจดี
โดย “โปรเล็ก” ที่คว้าแชมป์ เอเชียน ทัวร์ ไปแล้ว 10 รายการ หวังจะเพิ่มสถิติแชมป์รายการที่ 11 ด้วยชัยชนะในทัวร์นาเมนต์สุดท้ายประจำฤดูกาล 2008 กับศึก วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ชิงเงินรางวัล 7.5 แสนเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26 ล้านบาท) ที่สนามไทย คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 18-21 ธันวาคมนี้
ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว ประหยัด มากแสง คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ส่วน ธงชัย ใจดี อีกหนึ่งโปรไทยก็เคยชนะมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2003 ที่สนามบางกอก กอล์ฟ คลับ และ เมื่อปี 2006 ที่สนามไทย คันทรี คลับ ซึ่ง ถาวร เชื่อว่าเพื่อนร่วมชาติทั้งสองได้เปรียบตนเองอยู่ในเรื่องการทีออฟได้ไกลกว่า
โดย เจ้าของวงสวิงพันคอในวัย 42 ปี ที่เพิ่งคว้าแชมป์ เอเชียน ทัวร์ รายการที่ 10 ได้จากศึก บางกอก แอร์เวย์ส โอเพน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กล่าวว่า “ผมต้องการชนะรายการ วอลโว่ มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมชอบสนามนี้มาก แต่เลย์เอาท์ที่นี่ทำให้ผมต้องเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ชนะ โดยเฉพาะเรื่องของเหล็กยาว เนื่องจากแทบทุกหลุมบนสนามไทย คันทรี คลับ วางตำแหน่งหลุมทรายไว้ที่ระยะ 275 หรือ 280 หลาจากแท่นทีออฟ ดังนั้นผมจึงต้องเล่นเซฟ ซึ่งมันยากมาก เพราะผมต้องใช้เหล็กยาวเพื่อให้ถึงกรีนและหยุดลูกไม่ได้ ขณะที่ ธงชัย กับ ประหยัด ใช้เหล็ก 9 หรือไม่ก็พิชชิงเวดจ์ก็ถึงกรีน”
สำหรับผลงานของ ถาวร ในศึก วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ที่สนามไทย คันทรี คลับ 3 ครั้งที่ผ่านมา จบอันดับ 14 ในปี 2005 ตามด้วยอันดับ 4 ในปี 2006 และอันดับ 12 ร่วมเมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา ซึ่งอดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของเอเชียกล่าวว่า “ผมสามารถติดท็อปเท็นรายการนี้ได้หนึ่งครั้ง และท็อป 20 อีก 2 ครั้ง ซึ่งมันก็ยากพอสมควร แต่ผมก็จะพยายามเต็มที่ที่จะคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ เพิ่มอีก 1 รายการให้กับตัวเอง”
ทั้งนี้นอกจาก ถาวร แล้วยังมี ประหยัด แชมป์เก่า ที่คว้าแชมป์ เจแปน ทัวร์ ไป 3 รายการในปีนี้, จีฟ มิลกา ซิงห์ มือ 1 เอเชียน ทัวร์ คนใหม่ จากอินเดีย และ หลิน เหวินถัง จากไต้หวัน ที่เพิ่งแซงขึ้นมาอยู่อันดับ 2 บนตารางทำเงินรางวัลสูงสุด หลังชนะศึก ฮองกง โอเพน เมื่อเดือนที่แล้ว ก็จะรวมอยู่ในผู้เล่นท็อป 65 บนตารางทำเงิน ที่จะได้ตั๋วลงแข่ง วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย รายการสุดท้ายของ เอเชียน ทัวร์ ประจำปีนี้
โดย “โปรเล็ก” ที่คว้าแชมป์ เอเชียน ทัวร์ ไปแล้ว 10 รายการ หวังจะเพิ่มสถิติแชมป์รายการที่ 11 ด้วยชัยชนะในทัวร์นาเมนต์สุดท้ายประจำฤดูกาล 2008 กับศึก วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ชิงเงินรางวัล 7.5 แสนเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26 ล้านบาท) ที่สนามไทย คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 18-21 ธันวาคมนี้
ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว ประหยัด มากแสง คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ส่วน ธงชัย ใจดี อีกหนึ่งโปรไทยก็เคยชนะมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2003 ที่สนามบางกอก กอล์ฟ คลับ และ เมื่อปี 2006 ที่สนามไทย คันทรี คลับ ซึ่ง ถาวร เชื่อว่าเพื่อนร่วมชาติทั้งสองได้เปรียบตนเองอยู่ในเรื่องการทีออฟได้ไกลกว่า
โดย เจ้าของวงสวิงพันคอในวัย 42 ปี ที่เพิ่งคว้าแชมป์ เอเชียน ทัวร์ รายการที่ 10 ได้จากศึก บางกอก แอร์เวย์ส โอเพน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กล่าวว่า “ผมต้องการชนะรายการ วอลโว่ มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมชอบสนามนี้มาก แต่เลย์เอาท์ที่นี่ทำให้ผมต้องเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ชนะ โดยเฉพาะเรื่องของเหล็กยาว เนื่องจากแทบทุกหลุมบนสนามไทย คันทรี คลับ วางตำแหน่งหลุมทรายไว้ที่ระยะ 275 หรือ 280 หลาจากแท่นทีออฟ ดังนั้นผมจึงต้องเล่นเซฟ ซึ่งมันยากมาก เพราะผมต้องใช้เหล็กยาวเพื่อให้ถึงกรีนและหยุดลูกไม่ได้ ขณะที่ ธงชัย กับ ประหยัด ใช้เหล็ก 9 หรือไม่ก็พิชชิงเวดจ์ก็ถึงกรีน”
สำหรับผลงานของ ถาวร ในศึก วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ที่สนามไทย คันทรี คลับ 3 ครั้งที่ผ่านมา จบอันดับ 14 ในปี 2005 ตามด้วยอันดับ 4 ในปี 2006 และอันดับ 12 ร่วมเมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา ซึ่งอดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของเอเชียกล่าวว่า “ผมสามารถติดท็อปเท็นรายการนี้ได้หนึ่งครั้ง และท็อป 20 อีก 2 ครั้ง ซึ่งมันก็ยากพอสมควร แต่ผมก็จะพยายามเต็มที่ที่จะคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ เพิ่มอีก 1 รายการให้กับตัวเอง”
ทั้งนี้นอกจาก ถาวร แล้วยังมี ประหยัด แชมป์เก่า ที่คว้าแชมป์ เจแปน ทัวร์ ไป 3 รายการในปีนี้, จีฟ มิลกา ซิงห์ มือ 1 เอเชียน ทัวร์ คนใหม่ จากอินเดีย และ หลิน เหวินถัง จากไต้หวัน ที่เพิ่งแซงขึ้นมาอยู่อันดับ 2 บนตารางทำเงินรางวัลสูงสุด หลังชนะศึก ฮองกง โอเพน เมื่อเดือนที่แล้ว ก็จะรวมอยู่ในผู้เล่นท็อป 65 บนตารางทำเงิน ที่จะได้ตั๋วลงแข่ง วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย รายการสุดท้ายของ เอเชียน ทัวร์ ประจำปีนี้