“ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านบุกกระหน่ำใส่ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ก่อนมาได้ประตูชัย 1-0 นาทีสุดท้ายจาก เนมันยา วิดิช ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ดึกคืนวันเสาร์
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ซันเดอร์แลนด์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังติดโทษแบนอดมานั่งบัญชาทีมอยู่ข้างสนาม แต่นัดนี้ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ฟูลทีมได้ คริสเตียโน โรนัลโด พ้นโทษแบน เวย์น รูนีย์ กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กลับมาล่าตาข่ายร่วมกัน ด้าน “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ให้ทาง ริคกี สบราเกีย คุมทัพไปพลางๆ ก่อนหลังจากที่ รอย คีน ลาออกไป เกมนี้มาเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยขาด เคร็ก กอร์ดอน นายทวารมือ 1 ทีมชาติสกอตแลนด์
เริ่มเกมการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด ค่อยๆ คุมเกมเดินหน้าบุกใส่ นาทีที่ 9 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ถ่างไปเล่นด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กดาวรุ่งที่เติมขึ้นมาพักบอลกำลังจะอัดด้วยขวาแต่ แดนนี คอลลินส์ พุ่งเข้ามาโหม่งเคลียร์ได้หวุดหวิด สองนาทีถัดมาเกมรุกของ “ผีแดง” เริ่มไหลลื่น คริสเตียโน โรนัลโด ป้ายต่อให้ เบอร์บาตอฟ ได้ยิงในกรอบโทษแต่ มาร์ติน ฟูล็อป ยังล้มตัวเซฟได้ทัน
นาทีที่ 15 จังหวะฟรีคิกลูกเล่น “หนูโด้” ไหลให้ เวย์น รูนีย์ ยิงด้วยขวา เบอร์บาตอฟ แตะต่อเปลี่ยนทางเล็กน้อยแต่นายทวารทีมเยือนยังพุ่งไปปัดทัน เกมเป็นไปในลักษณะวันเวย์ สิบนาทีถัดมาโอกาสของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาอีกครั้ง รูนีย์ งัดบอลขึ้นมาก่อนวอลเลย์ 30 หลาบอลพุ่งหลุดกรอบ เกมเป็นของเจ้าบ้านทั้งหมดแต่ไม่สามารถฝ่ากำแพงเกมรับ “แมวดำ” ไปได้ จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าบุกใส่ ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ยังตั้งหน้าตั้งตารับกันอย่างเหนียวแน่น นาทีที่ 50 เจ้าถิ่นขึ้นเกมทางกราบ ราฟาเอล เปิดเข้ามาให้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จับบอลก่อนหมุนตัวยิงหลุดไป เมื่อเจาะเข้าในไม่เข้า ไมเคิล คาร์ริค ลองตะบันไกลไซด์ก้อยแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ ฟูล็อป ที่วันนี้ยืนตำแหน่งค่อนข้างดี เมื่อเกมรุกไม่คืบหน้า “ผีแดง” ถอด ปาร์ค จี ซอง เปิดทางให้ คาร์ลอส เตเบซ มาลุ้นล่าสกอร์
ผ่านหนึ่งชั่วโมง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องถอด โรนัลโด ที่มีอาการบาดเจ็บซี่โครง ทีมให้ทาง ไรอัน กิกส์ ลงมาขึ้นเกมแทน พร้อมกันนี้ยังใส่ อันแดร์สัน เติมกลางพร้อมกับถอด เฟล็ทเชอร์ นาทีที่ 70 ราฟาเอล ยังขึ้นเกมบุกได้ดีโยนข้ามฟากให้ กิกส์ เอี้ยวตัววอลเลย์ไม่ตรงกรอบ ห้านาทีถัดมา คาร์ริค โยนอย่างเหมาะเหม็งให้ เบอร์บาตอฟ โขกคนเดียวแต่ยังข้ามคานออกไปอีก
ท้ายเกม “ผีแดง” ต้องอาศัยการเติมขึ้นมาเล่นลูกโขกของ เนมันยา วิดิช แต่ยังไปตรงตัว ฟูล็อป จังหวะถัดมา กิกส์ ปาดจากสุดเส้นหลังด้านซ้าย อันแดร์สัน วิ่งเข้ามาหวดติดบล็อก ตีมู เตนิโอ ตัวสำรอง จนกระทั่งนาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูชัย 1-0 เมื่อ วิดิช ซ้ำลูกยิงชนเสาของ คาร์ริค เข้าไป เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนนจากการลงสนาม 15 นัด แซงทาง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ขึ้นไปอยู่ที่ 3 ยังตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงอยู่ 6 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ยังอยู่ที่ 18 ของตาราง มีอยู่ 15 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , ราฟาเอล ดา ซิลวา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , คริสเตียโน โรนัลโด , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , ไมเคิล คาร์ริค , ปาร์ค จี ซอง , เวย์น รูนีย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ซันเดอร์แลนด์ : มาร์ติน ฟูล็อป , ปาสกาล ชิมบงดา , แดนนี คอลลินส์ , แอนตัน เฟอร์ดินานด์ , ฟิลลิป บาร์ดสลีย์ , สตีด มัลบรองก์ , ดีน ไวท์เฮด , ดไวท์ ยอร์ค , แอนดี รีด , เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ , ฌิบริล ซิสเซ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่อื่นประจำคืนวันเสาร์
ฟูแลม 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 : เบนจานี เอ็มวารูวารี (น.6) , 1-1 : จิมมี บูลลาร์ด (น.27)]
อาร์เซนอล 1-0 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (น.16)]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-3 ลิเวอร์พูล
[0-1 : ชาบี อลอนโซ (น.69) , 0-2 : ยอสซี เบนายูน (น.79) , 1-2 : โรเก ซานตา ครูซ (น.85) , 1-3 : สตีเวน เจอร์ราร์ด (น.90)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 เชลซี
[0-1 : นิโกลาส์ อเนลกา (น.9) , 0-2 : เดโก ซูซา (น.21)]
ฮัลล์ ซิตี 2-1 มิดเดิลสโบรช์
[0-1 : ตุนกาย ซานลี (น.79) , 1-1 : รอสส์ เทิร์นบูล (ทำเข้าประตูตัวเอง น.82) , 2-1 : มาร์ลอน คิง (จุดโทษ น.85)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-2 สโตค ซิตี
[1-0 : ไมเคิล โอเวน (น.9) , 2-0 : ไมเคิล โอเวน (น.24) , 2-1 : มามาดี ซิดิเบ (น.60) , 2-2 : อับดุลลาย เฟย์ (น.90)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เนมันยา วิดิช (น.90)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ซันเดอร์แลนด์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังติดโทษแบนอดมานั่งบัญชาทีมอยู่ข้างสนาม แต่นัดนี้ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ฟูลทีมได้ คริสเตียโน โรนัลโด พ้นโทษแบน เวย์น รูนีย์ กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กลับมาล่าตาข่ายร่วมกัน ด้าน “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ให้ทาง ริคกี สบราเกีย คุมทัพไปพลางๆ ก่อนหลังจากที่ รอย คีน ลาออกไป เกมนี้มาเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยขาด เคร็ก กอร์ดอน นายทวารมือ 1 ทีมชาติสกอตแลนด์
เริ่มเกมการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด ค่อยๆ คุมเกมเดินหน้าบุกใส่ นาทีที่ 9 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ถ่างไปเล่นด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กดาวรุ่งที่เติมขึ้นมาพักบอลกำลังจะอัดด้วยขวาแต่ แดนนี คอลลินส์ พุ่งเข้ามาโหม่งเคลียร์ได้หวุดหวิด สองนาทีถัดมาเกมรุกของ “ผีแดง” เริ่มไหลลื่น คริสเตียโน โรนัลโด ป้ายต่อให้ เบอร์บาตอฟ ได้ยิงในกรอบโทษแต่ มาร์ติน ฟูล็อป ยังล้มตัวเซฟได้ทัน
นาทีที่ 15 จังหวะฟรีคิกลูกเล่น “หนูโด้” ไหลให้ เวย์น รูนีย์ ยิงด้วยขวา เบอร์บาตอฟ แตะต่อเปลี่ยนทางเล็กน้อยแต่นายทวารทีมเยือนยังพุ่งไปปัดทัน เกมเป็นไปในลักษณะวันเวย์ สิบนาทีถัดมาโอกาสของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาอีกครั้ง รูนีย์ งัดบอลขึ้นมาก่อนวอลเลย์ 30 หลาบอลพุ่งหลุดกรอบ เกมเป็นของเจ้าบ้านทั้งหมดแต่ไม่สามารถฝ่ากำแพงเกมรับ “แมวดำ” ไปได้ จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าบุกใส่ ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ยังตั้งหน้าตั้งตารับกันอย่างเหนียวแน่น นาทีที่ 50 เจ้าถิ่นขึ้นเกมทางกราบ ราฟาเอล เปิดเข้ามาให้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จับบอลก่อนหมุนตัวยิงหลุดไป เมื่อเจาะเข้าในไม่เข้า ไมเคิล คาร์ริค ลองตะบันไกลไซด์ก้อยแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ ฟูล็อป ที่วันนี้ยืนตำแหน่งค่อนข้างดี เมื่อเกมรุกไม่คืบหน้า “ผีแดง” ถอด ปาร์ค จี ซอง เปิดทางให้ คาร์ลอส เตเบซ มาลุ้นล่าสกอร์
ผ่านหนึ่งชั่วโมง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องถอด โรนัลโด ที่มีอาการบาดเจ็บซี่โครง ทีมให้ทาง ไรอัน กิกส์ ลงมาขึ้นเกมแทน พร้อมกันนี้ยังใส่ อันแดร์สัน เติมกลางพร้อมกับถอด เฟล็ทเชอร์ นาทีที่ 70 ราฟาเอล ยังขึ้นเกมบุกได้ดีโยนข้ามฟากให้ กิกส์ เอี้ยวตัววอลเลย์ไม่ตรงกรอบ ห้านาทีถัดมา คาร์ริค โยนอย่างเหมาะเหม็งให้ เบอร์บาตอฟ โขกคนเดียวแต่ยังข้ามคานออกไปอีก
ท้ายเกม “ผีแดง” ต้องอาศัยการเติมขึ้นมาเล่นลูกโขกของ เนมันยา วิดิช แต่ยังไปตรงตัว ฟูล็อป จังหวะถัดมา กิกส์ ปาดจากสุดเส้นหลังด้านซ้าย อันแดร์สัน วิ่งเข้ามาหวดติดบล็อก ตีมู เตนิโอ ตัวสำรอง จนกระทั่งนาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูชัย 1-0 เมื่อ วิดิช ซ้ำลูกยิงชนเสาของ คาร์ริค เข้าไป เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนนจากการลงสนาม 15 นัด แซงทาง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ขึ้นไปอยู่ที่ 3 ยังตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงอยู่ 6 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ยังอยู่ที่ 18 ของตาราง มีอยู่ 15 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , ราฟาเอล ดา ซิลวา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , คริสเตียโน โรนัลโด , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , ไมเคิล คาร์ริค , ปาร์ค จี ซอง , เวย์น รูนีย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ซันเดอร์แลนด์ : มาร์ติน ฟูล็อป , ปาสกาล ชิมบงดา , แดนนี คอลลินส์ , แอนตัน เฟอร์ดินานด์ , ฟิลลิป บาร์ดสลีย์ , สตีด มัลบรองก์ , ดีน ไวท์เฮด , ดไวท์ ยอร์ค , แอนดี รีด , เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ , ฌิบริล ซิสเซ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่อื่นประจำคืนวันเสาร์
ฟูแลม 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 : เบนจานี เอ็มวารูวารี (น.6) , 1-1 : จิมมี บูลลาร์ด (น.27)]
อาร์เซนอล 1-0 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (น.16)]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-3 ลิเวอร์พูล
[0-1 : ชาบี อลอนโซ (น.69) , 0-2 : ยอสซี เบนายูน (น.79) , 1-2 : โรเก ซานตา ครูซ (น.85) , 1-3 : สตีเวน เจอร์ราร์ด (น.90)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 เชลซี
[0-1 : นิโกลาส์ อเนลกา (น.9) , 0-2 : เดโก ซูซา (น.21)]
ฮัลล์ ซิตี 2-1 มิดเดิลสโบรช์
[0-1 : ตุนกาย ซานลี (น.79) , 1-1 : รอสส์ เทิร์นบูล (ทำเข้าประตูตัวเอง น.82) , 2-1 : มาร์ลอน คิง (จุดโทษ น.85)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-2 สโตค ซิตี
[1-0 : ไมเคิล โอเวน (น.9) , 2-0 : ไมเคิล โอเวน (น.24) , 2-1 : มามาดี ซิดิเบ (น.60) , 2-2 : อับดุลลาย เฟย์ (น.90)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เนมันยา วิดิช (น.90)]
