ในโลกของกีฬาเป็นธรรมดาที่ต้องมีการแข่งขันเกิดขึ้น ยิ่งขึ้นชื่อว่า “กีฬาอาชีพ” ด้วยแล้วการประลองชั้นเชิงย่อมถึงพริกถึงขิงจนอาจก่อให้เกิดการไม่ชอบหน้ากันขึ้นมา หรือบางกรณีอยู่สังกัดเดียวกันแท้ๆ ยังอุตสาห์แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันจนเกิดเป็น “เกาเหลาชามโต” ให้มาเล่าขานสู่กันฟัง
- ไม่กินเส้นในวงการลูกหนัง
"ฟุตบอล" เป็นหนึ่งในกีฬาที่ต้องเล่นกันเป็นทีม อาศัยความเข้าใจและรับผิดชอบร่วมกัน ทว่าเชื่อหรือไม่ว่าก่อนที่ สเวน-โกรัน อีริคส์สัน เข้ามาคุมบังเหียนทีมชาติอังกฤษเมื่อปี 2001 นอกจากปัญหาเรื่องเล่นการพนัน แคมป์ “สิงโตคำราม” ยังแบ่งออกเป็นฝักฝ่าย โดยเฉพาะระหว่างนักเตะลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เบียดแย่งเกียรติยศระดับสโมสรกันมาช้านาน ส่งผลให้ผู้เล่นเหล่านี้เหม็นขี้หน้ากันสุดขีดถึงขนาดไม่ยอมแม้กระทั่งร่วมรับประทานอาหารโต๊ะเดียวกัน
ลองมาดูกรณีอื่นบ้าง แอนดี โคล กับ เท็ดดี เชอริงแฮม ประสานงานล่าตาข่ายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่หลังจากที่ฝ่ายหลังออกมาวิจารณ์ฝ่ายแรกผ่านสื่อ ทั้งคู่ก็ไม่พูดจากันอีกเลยตั้งแต่ปี 1998 แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ "ผีแดง" ซิวแชมป์เป็นกอบเป็นกำในยุคของดูโอคู่นี้ ข้ามไปยังรั้ว "ปืนใหญ่" คงเหลือนักเตะอาร์เซนอลไม่มากแล้วที่ยังหนุนหลัง วิลเลียม กัลลาส ในเมื่ออดีตกัปตันทีมเอาความลับในห้องแต่งตัวมาแฉรายเดือน พร้อมกับแย้มว่าแข้งอายุ 25 ปีรายหนึ่งปีนเกลียวใส่เขา เรื่องนี้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี อาจเป็นผู้เฉลยได้ว่านักเตะคนนั้นคือใคร!!!
- "ฮินกิส" เก่งก็จริง แต่ฉัน (คูร์นิโควา) สวยกว่า
ด้วยวัยที่ไล่เลี่ยกัน เทิร์นโปรตามหลังกันเพียงปีเดียว ทว่า มาร์ตินา ฮินกิส กลับโลดแล่นในวงการเทนนิสได้นานกว่า แอนนา คูร์นิโควา ซึ่งผลพวงจากการขะมักเขม้นฝึกซ้อมทำให้ ฮินกิส สาวน้อยจากสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นแท่นราชินีแห่งวงการลูกสักหลาดได้อย่างรวดเร็ว ผิดกลับ คูร์นิโควา ที่รูปร่างหน้าตาสละสลวยจึงหันไปเอาดีทางวงการบันเทิง จนไม่สามารถคว้าแชมป์ได้แม้แต่รายการเดียวในดับเบิลยูทีเอ ทัวร์
โดยการดวลกันในสนามของคู่นี้ 12 ครั้ง ปรากฏว่า ฮินกิส เอาชนะไปได้ถึง 11 หน ด้วยความหวังดีหรือไม่ก็ตาม ฮินกิส อยากเห็น คูร์นิโควา จริงจังกับเทนนิสให้มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่สิ่งที่นักหวดจากรัสเซียสวนกลับมาชั่งแทงใจ "ถึงแม้เธอจะเป็นผู้ชนะ แต่ฉันสวยและเป็นแม่เหล็กทางการตลาดมากกว่าคุณ" นั่นเป็นเหตุผลให้ทั้งคู่ไม่คิดสบตากันอีกเลย
- ‘มอนตี’ VS ‘สวิงเอเชีย’
โคลิน มอนต์โกเมอรี ก้านเหล็กผู้เย่อหยิ่งชาวสกอตติชแสดงความไม่พอใจที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน "เดอะ มาสเตอร์ส" เชิญนักกอล์ฟที่มีอันดับต่ำกว่าตนทั้ง จีฟ มิลคา ซิงห์ (อินเดีย), ประหยัด มากแสง (ไทย) และ เหลียง เวิน ชอง (จีน) เข้าร่วมการแข่งขันในปี 2008 โดย "มอนตี" เชื่อว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจทำให้โปรจากเอเชียนทัวร์เหล่านี้มีโอกาสเข้ามาโชว์วงสวิงที่สนามออกัสตา
ร้อนถึง "โปรหมาย" ต้องออกมาชี้แจงกับสื่อต่างชาติว่าปัจจุบันวงการกอล์ฟในเอเชียพัฒนาอย่างรวดเร็ว นักกอล์ฟในภูมิภาคนี้ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในรายการใหญ่ พร้อมกันนี้ความภาคภูมิใจของชาวไทยยังตั้งข้อสังเกตกลับไปยัง มอนต์โกเมอรี "ผมไม่เข้าใจว่าทำไม มอนต์โกเมอรี ออกมาพูดเช่นนั้น บางทีเขาอาจไม่ชอบผู้เล่นชาวเอเชียเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ได้ ในเมื่อเขาเองก็ไม่เคยพูดคุยกับนักกอล์ฟจากเอเชียเลย"
- ‘อลอนโซ’ ยอมไม่ได้เมื่อลูกหาบ (แฮมิลตัน) ดังกว่า
เดินเข้าสู่วงการรถสูตรหนึ่ง (เอฟวัน) อย่างเต็มตัวเมื่อปี 2007 ลูอิส แฮมิลตัน ถูกวางให้เป็นตัวกันส่ง เฟอร์นานโด อลอนโซ รุ่นพี่ร่วมสังกัดแม็คลาเรน ขึ้นไปเบียดแย่งแชมป์โลกกับ คิมี ไรค์โคเนน ยอดนักขับจากเฟอร์รารี แต่ทำไปทำมากลายเป็นว่านักขับผิวสีจากอังกฤษกลับทำผลงานได้ดีกว่าเข้าป้ายอันดับ 2 เมื่อโดนหยามหน้าขนาดนี้ อลอนโซ จึงเก็บกระเป๋ากลับไปซบอก "เรโนลต์" ต้นสังกัดเก่า
จากมิตรเปลี่ยนเป็นศัตรูอย่างชัดเจน อลอนโซ ตกเป็นประเด็นร้อนโดนโจมตีว่าชะลอรถเพื่อให้ แฮมิลตัน ซิ่งมาชนท้ายทำให้เพื่อนเก่าไร้แต้มที่บาห์เรน พร้อมกันนี้นักขับจากสเปนออกมาให้สัมภาษณ์เชิงปรามาสเสมอว่า แฮมิลตัน ยังไม่ดีพอสำหรับการเป็นแชมป์โลก พร้อมเทใจเชียร์คู่ปรับแห่ง "ม้าลำพอง" อย่าง เฟลิเป มาสซา แต่ท้ายที่สุดแล้ว แฮมิลตัน ใช้ผลงานในแทร็กแทนทุกคำพูดประกาศศักดาคว้าแชมป์มาครองในปี 2008 ขณะที่ อลอนโซ จบดีที่สุดเพียงอันดับ 5
- ‘โคบี’ ขาดฉัน (แชค) แล้วนายจะรู้สึก
ภายใต้บรรยากาศฉลองแชมป์เอ็นบีเอ (NBA) สามสมัยซ้อน (ปี 2000-2002) อันหอมหวานแต่แฝงไปด้วยความอิจฉาริษยา "เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้" น่าจะใช้ได้กับกรณีของ โคบี ไบรอันท์ กับ แชคคิว โอนีล เมื่อทั้งคู่ออกมาแลกวาทะกันคนละหมัด แชค ออกมาจวกคู่หูว่าเล่นบาสฯ อย่างเห็นแก่ตัว พร้อมหยิบยกคดีกระทำชำเราสาววัยรุ่นที่โคโลราโด เมื่อปี 2004 มาเผา เล่นเอา โคบี ต้องสวนกลับไปว่าเจ้ายักษ์ใจดีก็ไม่ได้ต่างกัน เพียงแต่ใช้เงินปิดปากคู่นอนของเขาเท่านั้น
เมื่ออยู่ร่วมกันไม่ได้ แอลเอ เลเกอร์ส เลือกเก็บ โคบี ไว้ใช้งาน พร้อมกับเทรด แชค ไปอยู่กับ ไมอามี ฮีท แต่ที่ไหนได้เซ็นเตอร์จอมเก๋าคว้าแหวนแชมป์วงที่ 4 กับต้นสังกัดใหม่ ขณะที่การ์ดซูเปอร์สตาร์ยังมองหาแชมป์อีกสมัยกับ เลเกอร์ส ถึงทุกวันนี้ ที่แสบยิ่งกว่า แชค ซึ่งคลั่งไคล้ในเพลงแร็พยังอุตสาห์แต่งเพลงให้เกลอเก่าด้วยท่อนเร้าใจที่ว่า "คุณรู้หรือไม่ว่า โคบี คงทำอะไรไม่ได้ถ้าปราศจากผม"