xs
xsm
sm
md
lg

“คลาสสิก ไคลแมกซ์” ชิงแชมป์สุดระทึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลูกยิงสู่แชมป์ของ อาร์เซนอล โดย “ไมเคิล โธมัส”
การตัดสินเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง หรือหาผู้ชนะเลิศนับเป็นไฮไลท์สำคัญที่แฟนกีฬาคอยติดตามชนิดไม่กะพริบตา ยิ่งถ้ามีเงื่อนไข ปัจจัย หรือจังหวะที่พลิกไปมาเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะยิ่งกระตุ้นเลือดลมของผู้ชมให้สูบฉีดแรงมากยิ่งขึ้น บรรทัดต่อจากนี้คือจุดไคลแมกซ์ที่ติดตาตรึงใจคนทั่วโลกชนิดไม่มีวันลืม

ฟุตบอล - ดิวิชัน 1 อังกฤษ ปี 1989
ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร้าใจอยู่แล้ว ยิ่งกลายเป็นเกมบีบหัวใจมากขึ้นไปอีก เมื่อ ลิเวอร์พูล ต้องแย่งถ้วยแชมป์กับ อาร์เซนอล ในวันสุดท้ายของฤดูกาล โดยที่ “หงส์แดง” ถือไพ่เหนือกว่าทั้งได้เล่นในบ้าน รวมถึงนั่งแท่นจ่าฝูงก่อนลงสนาม ซึ่ง “ปืนใหญ่” จำเป็นต้องพิชิตเงื่อนไขด้วยการบุกไปเอาชนะด้วยผลต่าง 2 ลูกเป็นอย่างน้อยโดยไม่มีทางเลือกอื่น

หลังจบครึ่งแรกขุนพลเจ้าถิ่นแทบจะเอื้อมมือไปจับหูโทรฟีแล้วข้างหนึ่งเนื่องจากสกอร์ยังหยุดนิ่งที่ 0-0 ทว่า เทพีแห่งโชคเริ่มยืนอยู่ข้าง “เดอะ กันเนอร์ส” บ้าง เมื่อ อลัน สมิธ ยิงให้ทีมเยือนขึ้นนำหลังผ่านครึ่งหลังมาได้ไม่นาน กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ การบุกครั้งสุดท้ายของ อาร์เซนอล ก็นำมาซึ่งลูกยิงประวัติศาสตร์ของ ไมเคิล โธมัส ที่หลุดเข้าไปซัดผ่าน บรูซ กร็อบเบลาร์ ตุงตาข่าย พร้อมทั้งกระชากถ้วยแชมป์ใบแรกในรอบ 18 ปีของสโมสรกลับสู่ถิ่นไฮบิวรี ท่ามกลางความชอกช้ำของ เดอะ ค็อป ทั้งผองในแอนฟิลด์วันนั้น

เทนนิส – วิมเบิลดัน รอบชิงชนะเลิศ ปี 2008
ราศีแชมป์แกรนด์สแลม วิมเบิลดัน สมัยแรกของ ราฟาเอล นาดาล จับอย่างเด่นชัด เมื่อออกนำ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ คู่รักคู่แค้นชาวสวิสไปก่อนถึง 2 เซต แต่ “เอล มาทาดอร์” กลับโยนแชมเปียนชิปพอยนต์ทิ้งไปอย่างน่าเจ็บใจถึง 2 หน ปลุกความหวังให้ “เฟดเอ็กซ์” ฮึดสู้อีกครั้งจนยื้อเกมออกไปดวลกันในเซตที่ 5 ได้สำเร็จ

ซึ่งในเซตตัดสินนี้เองที่ทั่วโลกยกให้แมตช์นี้เป็น “มหากาพย์แห่งวงการสักหลาด” โดยหลังจากเสมอ 2-2 เกมก็มีฝนตกลงมาจนต้องหยุดชั่วคราว ก่อนจะกลับมาห้ำหั่นกันต่อ ซึ่ง นาดาล เบรกเสิร์ฟได้ในเกมที่ 15 แต่ เฟเดอเรอร์ ก็ทำลายแต้มแชมเปียนชิปหนที่ 3 ของแร็กเกตสแปนิชด้วยลูกยิงแบ็กแฮนด์ครอสคอร์ต อย่างไรก็ตาม นาดาล มาปิดฉากได้ด้วยโอกาสครั้งที่ 4 โดยที่ เฟดเอ็กซ์ สวนโฟร์แฮนด์ติดเน็ต ทำให้คว้าชัยชนะไปแบบตื่นเต้น 3-2 เซต 6-4, 6-4, 6-7 (7/5), 6-7 (10/8), 9-7 ในเวลา 21.16 น. ที่ออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

รักบี้ฟุตบอล – รักบี้ เวิลด์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ปี 2003
จอนนี วิลกินสัน เตะ 3 ลูกโทษ ตามด้วย เจสัน โรบินสัน หลุดเข้าไปวางทรัยให้ อังกฤษ นำ ออสเตรเลีย 14-5 จุด เมื่อจบครึ่งแรก ทว่า 3 ลูกโทษจากปลายเท้าของ เอลตัน แฟลตลีย์ ช่วยต่อลมหายใจให้ “วอลลาบีส์” ตามตีเสมอเป็น 14-14 จุด จนต้องไปตัดสินในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ซึ่ง “กุหลาบแดง” ยังคงมี วิลกินสัน เป็นดาราเอกที่เตะลูกโทษทำคะแนนให้ทีมในนาทีที่ 82 ของการแข่งขัน แต่ แฟลตลีย์ ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกันด้วยการตีเจ๊าให้ขุนพลนักปล้ำออสซีเป็น 17-17 จุด ในนาทีที่ 87 อย่างไรก็ตาม ไคลแมกซ์สำคัญก็มาบังเกิดในช่วง 26 วินาทีสุดท้าย เมื่อลูกถูกลำเลียงไปยัง “วิลโก” อีกครั้ง ซึ่งสตาร์จาก นิวคาสเซิล ฟอลคอนส์ ตัดสินใจหวดดร็อปโกลส่งลูกลอยผ่านเสาประตูอย่างงดงาม นำแชมป์เวิลด์ คัพ สมัยแรกกลับเมืองผู้ดีอย่างยิ่งใหญ่

กอล์ฟ – ไรเดอร์ คัพ ปี 1991
หลังจบ 3 วันแรกที่สนามเคียวาห์ ไอส์แลนด์ รัฐเซาธ์แคโรไลนา สหรัฐฯ ทั้งสองทีมเสมอกันที่ 8-8 ซึ่งการแข่งขันในวันตัดสินก็ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น ชนิดที่ต้องชี้ชะตากันในหลุมสุดท้ายของแมตช์สุดท้าย โดย เฮล เออร์วิน ของทีมสหรัฐฯ พัตต์เพื่อเซฟพาร์ไม่ลง เปิดโอกาสให้ แบร์นฮาร์ด ลังเกอร์ ตีเสมอให้ทีมยุโรป ทว่า โปรชาวเยอรมันกลับพลาดโอกาสทองเมื่อพัตต์ระยะ 6 ฟุตไม่ลง ชวดเก็บครึ่งคะแนน พร้อมทั้งหยิบยื่นแชมป์ให้กับทีมสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ส่วน ลังเกอร์ ดีกรีแชมป์ยูโรเปียนทัวร์ 24 รายการและ เดอะ มาสเตอร์ส ปี 1985 ในเวลานั้น แทบกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายเอาไว้ไม่อยู่ขณะเดินออกจากหลุม 18

สนุกเกอร์ – สนุกเกอร์ ชิงแชมป์โลก รอบชิงชนะเลิศ ปี 1985
สตีฟ เดวิส ยอดนักสอยคิวชาวอังกฤษน่าจะซิวแชมป์ 3 สมัยซ้อนได้ไม่ยาก หลังจากนำลิ่วถึง 8-0 เฟรม แต่ เดนนิส เทย์เลอร์ ผู้ท้าชิงจากไอร์แลนด์เหนือยังมีลูกฮึดไล่ตามมาจนเสมอกัน 11-11 ก่อนจะดวลกันมาราธอนในช่วงสุดท้ายที่กินเวลายาวนานถึง 5 ชั่วโมง จนไปเท่ากันอีกที่ 17-17 และความระทึกใจก็มาถึงขีดสุดเอาในเฟรมตัดสินนี้เอง

ซึ่งหลังจากผ่านเฟรมที่ 35 ไปได้ 68 นาที สกอร์ก็ออกมาโดย เดวิส เป็นฝ่ายนำ 62-44 กดดันให้ เทย์เลอร์ ต้องกวาด 4 ลูกที่เหลือบนโต๊ะสถานเดียวจึงจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งเขาก็เก็บลูกน้ำตาล, ฟ้า, ชมพู ได้ แต่ตบดำจากโอกาส 2 ครั้งไม่ลง และยังไหลไปหามุมให้ เดวิส ปิดบัญชีอีก ทว่า ลูกขาวจากคิว “เดอะ นักเก็ท” กลับโดนลูกดำบางเกินไป ทำให้ เทย์เลอร์ ที่เหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ส่งลูกดำลงหลุมไปในที่สุด พลิกกลับมาคว้าแชมป์โลกราวปาฏิหาริย์ขณะที่นาฬิกาบอกเวลา 00.19 น. โดยมีผู้ชมทั่วโลกที่ลุ้นใจหายใจคว่ำถึง 18.5 ล้านคน
เดนนิส เทย์เลอร์ โค่น สตีฟ เดวิส ชนิดเหนือคำบรรยาย
“มหากาพย์เทนนิส” บันทึกโดย นาดาล-เฟเดอเรอร์
“จอนนี วิลกินสัน” หวดดร็อปโกล 26 วินาทีสุดท้าย
“แบร์นฮาร์ด ลังเกอร์” พัตต์ไม่ลงจนทีมยุโรปวืดแชมป์
กำลังโหลดความคิดเห็น