“สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา เกมรุกทื่อเปิดบ้านแค่เจ๊า “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม 0-0 ขณะที่ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ บู่ไม่เลิกปราชัยคาถิ่นให้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-4 ในศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลลา 0-0 ฟูแลม
มาร์ติน โอนีล หวังนำทัพ “สิงห์ผงาด” เปิดบ้านบดเอาชนะ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม ให้ได้เพื่อขยับแซง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปนั่งอันดับ 3 ของตาราง แต่เกมนี้เจ้าถิ่นขาด ยอห์น คาริว หัวหอกร่างใหญ่ที่บาดเจ็บ สามประสานแดนหน้าจึงยังเป็น เจมส์ มิลเนอร์, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ และ แอชลีย์ ยัง ด้าน รอย ฮอดจ์สัน ส่งทัพใหญ่มาเยือนมิดแลนด์มีทาง จิมมี บูลลาร์ด และ แดนนี เมอร์ฟีย์ ขยับเคลื่อนเกมแดนกลาง แอนดี จอห์นสัน คอยล่าตาข่าย
เริ่มเกมการแข่งขันในช่วง 15 นาทีแรก แม้เป็นทีมเยือนแต่ ฟูแลม ครองบอลสู้กับเจ้าถิ่นได้ดี แต่นาทีที่ 18 โอกาสแรกเป็นของ แอสตัน วิลลา เมื่อ แอชลีย์ ยัง ล่อหลอก จอห์น เพนท์ซิล ก่อนตัดสินใจยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย จังหวะของเกมเริ่มเป็นของ “สิงห์ผงาด” ยัง เปิดบอลอย่างเหมาะเหม็งไปเสาสองให้ แกเร็ธ แบร์รี โขกเหน่งๆ บอลเฉียดเสาไปนิดเดียว
ผ่านครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมแทบไม่มีจังหวะในการทำประตู จนถึงนาทีที่ 37 จากจังหวะสวนกลับของเจ้าบ้าน กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ เปิดเข้ากลางให้ ยัง วอลเลย์เต็มๆ แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล 2 นาทีถัดมา วิลลา น่าขึ้นนำเป็นที่สุด ยัง เปิดฟรีคิกให้ สตีฟ ซิดเวลล์ ปาดเข้ามาโขกจ่อๆ แต่บอลหลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ ท้ายครึ่ง ฟูแลม สวนขึ้นมาเหมือนกันแต่ คลิน เดมป์ซี ยิงแฉลบไปโดน แบรด ฟรีเดล ปัดพ้นคานไป จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง วิลลา ลงมาบู๊ใส่ทันที ซิดเวลล์ มีโอกาสโหม่งโล่งๆ อีกครั้งแต่ยังไม่ได้ผล หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ยัง ปั่นป่วนเกมรับผู้มาเยือนลากตะลุยเข้าไปก่อนยิงบอลแฉลบ เพนทซิลล์ ออหลังไป นาทีที่ 70 “สิงห์ผงาด” พลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง ยัง เปิดให้ แบร์รี โขกกดลงพื้น มาร์ค ชวาร์เซอร์ ปัดบอลไม่ดีกระดอนไปโดนคานกระเด้งลงมา อักบอนลาฮอร์ พยายามหมุนตัวยิงแต่นายทวารทีมชาติออสเตรเลียยังไวทายาทพุ่งไปบล็อกได้ทัน
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย “เจ้าสัวน้อย” เกือบช็อคแฟนๆ ในวิลลา ปาร์ค เมื่อ แอนดี จอห์นสัน จ่ายคืนให้ เดมป์ซีย์ ซัดเต็มข้อร้อนถึง ฟรีเดล ต้องทุบบอลออกหลังไป ท้ายเกม ฮอดจ์สัน ปรับหมากใส่ โซลตัน เกรา มาช่วยไล่บอลแดนกลางและก็ถอด บ็อบบี ซาโมรา ออกมา ครบ 90 นาที ฟูแลม ยันเสมอได้สำเร็จ 0-0 มีเพิ่มเป็น 19 คะแนน ขึ้นไปอยู่ที่ 8 ชั่วคราว ส่วน วิลลา รั้งอันดับ 4 ของตารางดังเดิม จากการมีเพิ่มเป็น 25 คะแนนจากการลงสนาม 15 นัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
วิลลา : แบรด ฟรีเดล , เคอร์ติส เดวีส์ , คาร์ลอส กูเอยาร์ , มาร์ติน เลาร์เซน , ลุค ยัง , สติลิยัน เปตรอฟ , สตีฟ ซิดเวลล์ , แกเร็ธ แบร์รี , เจมส์ มิลเนอร์ , กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ , แอชลีย์ ยัง
ฟูแลม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , จอห์น เพนท์ซิล อารอน ฮิวจ์ส , เบรเด ฮาเกลันด์ , พอล คอนเชสกี , คลิน เดมป์ซีย์ , แดนนี เมอร์ฟีย์ , จิมมี บูลลาร์ด , ไซมอน เดวีส์ , แอนดี จอห์นสัน , บ็อบบี ซาโมรา
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
แอสตัน วิลลา 0-0 ฟูแลม
มิดเดิลสโบรช์ 0-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
สโตค ซิตี 1-1 ฮัลล์ ซิตี
[0-1 : มาร์ลอน คิง (น.45) , 1-1 : ริคคาร์โด ฟูลเลอร์ (จุดโทษ น.73)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-4 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : ฌิบริล ซิสเซ (น.11) , 1-1 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.18) , 1-2 : แกรี เคฮิลล์ (น.21) 1-3 : โยฮัน เอลมานเดอร์ (น.39) , 1-4 : โยฮัน เอลมานเดอร์ (น.55)]
วีแกน แอธเลติก 2-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[0-1 : อิสมาเอล มิลเลอร์ (น.47) , 1-1 : อองรี กามารา (น.61) , 2-1 : เอเมอร์สัน บอยซ์ (น.87)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลลา 0-0 ฟูแลม
มาร์ติน โอนีล หวังนำทัพ “สิงห์ผงาด” เปิดบ้านบดเอาชนะ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม ให้ได้เพื่อขยับแซง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปนั่งอันดับ 3 ของตาราง แต่เกมนี้เจ้าถิ่นขาด ยอห์น คาริว หัวหอกร่างใหญ่ที่บาดเจ็บ สามประสานแดนหน้าจึงยังเป็น เจมส์ มิลเนอร์, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ และ แอชลีย์ ยัง ด้าน รอย ฮอดจ์สัน ส่งทัพใหญ่มาเยือนมิดแลนด์มีทาง จิมมี บูลลาร์ด และ แดนนี เมอร์ฟีย์ ขยับเคลื่อนเกมแดนกลาง แอนดี จอห์นสัน คอยล่าตาข่าย
เริ่มเกมการแข่งขันในช่วง 15 นาทีแรก แม้เป็นทีมเยือนแต่ ฟูแลม ครองบอลสู้กับเจ้าถิ่นได้ดี แต่นาทีที่ 18 โอกาสแรกเป็นของ แอสตัน วิลลา เมื่อ แอชลีย์ ยัง ล่อหลอก จอห์น เพนท์ซิล ก่อนตัดสินใจยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย จังหวะของเกมเริ่มเป็นของ “สิงห์ผงาด” ยัง เปิดบอลอย่างเหมาะเหม็งไปเสาสองให้ แกเร็ธ แบร์รี โขกเหน่งๆ บอลเฉียดเสาไปนิดเดียว
ผ่านครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมแทบไม่มีจังหวะในการทำประตู จนถึงนาทีที่ 37 จากจังหวะสวนกลับของเจ้าบ้าน กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ เปิดเข้ากลางให้ ยัง วอลเลย์เต็มๆ แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล 2 นาทีถัดมา วิลลา น่าขึ้นนำเป็นที่สุด ยัง เปิดฟรีคิกให้ สตีฟ ซิดเวลล์ ปาดเข้ามาโขกจ่อๆ แต่บอลหลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ ท้ายครึ่ง ฟูแลม สวนขึ้นมาเหมือนกันแต่ คลิน เดมป์ซี ยิงแฉลบไปโดน แบรด ฟรีเดล ปัดพ้นคานไป จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลัง วิลลา ลงมาบู๊ใส่ทันที ซิดเวลล์ มีโอกาสโหม่งโล่งๆ อีกครั้งแต่ยังไม่ได้ผล หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ยัง ปั่นป่วนเกมรับผู้มาเยือนลากตะลุยเข้าไปก่อนยิงบอลแฉลบ เพนทซิลล์ ออหลังไป นาทีที่ 70 “สิงห์ผงาด” พลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง ยัง เปิดให้ แบร์รี โขกกดลงพื้น มาร์ค ชวาร์เซอร์ ปัดบอลไม่ดีกระดอนไปโดนคานกระเด้งลงมา อักบอนลาฮอร์ พยายามหมุนตัวยิงแต่นายทวารทีมชาติออสเตรเลียยังไวทายาทพุ่งไปบล็อกได้ทัน
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย “เจ้าสัวน้อย” เกือบช็อคแฟนๆ ในวิลลา ปาร์ค เมื่อ แอนดี จอห์นสัน จ่ายคืนให้ เดมป์ซีย์ ซัดเต็มข้อร้อนถึง ฟรีเดล ต้องทุบบอลออกหลังไป ท้ายเกม ฮอดจ์สัน ปรับหมากใส่ โซลตัน เกรา มาช่วยไล่บอลแดนกลางและก็ถอด บ็อบบี ซาโมรา ออกมา ครบ 90 นาที ฟูแลม ยันเสมอได้สำเร็จ 0-0 มีเพิ่มเป็น 19 คะแนน ขึ้นไปอยู่ที่ 8 ชั่วคราว ส่วน วิลลา รั้งอันดับ 4 ของตารางดังเดิม จากการมีเพิ่มเป็น 25 คะแนนจากการลงสนาม 15 นัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
วิลลา : แบรด ฟรีเดล , เคอร์ติส เดวีส์ , คาร์ลอส กูเอยาร์ , มาร์ติน เลาร์เซน , ลุค ยัง , สติลิยัน เปตรอฟ , สตีฟ ซิดเวลล์ , แกเร็ธ แบร์รี , เจมส์ มิลเนอร์ , กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ , แอชลีย์ ยัง
ฟูแลม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , จอห์น เพนท์ซิล อารอน ฮิวจ์ส , เบรเด ฮาเกลันด์ , พอล คอนเชสกี , คลิน เดมป์ซีย์ , แดนนี เมอร์ฟีย์ , จิมมี บูลลาร์ด , ไซมอน เดวีส์ , แอนดี จอห์นสัน , บ็อบบี ซาโมรา
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
แอสตัน วิลลา 0-0 ฟูแลม
มิดเดิลสโบรช์ 0-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
สโตค ซิตี 1-1 ฮัลล์ ซิตี
[0-1 : มาร์ลอน คิง (น.45) , 1-1 : ริคคาร์โด ฟูลเลอร์ (จุดโทษ น.73)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-4 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : ฌิบริล ซิสเซ (น.11) , 1-1 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.18) , 1-2 : แกรี เคฮิลล์ (น.21) 1-3 : โยฮัน เอลมานเดอร์ (น.39) , 1-4 : โยฮัน เอลมานเดอร์ (น.55)]
วีแกน แอธเลติก 2-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[0-1 : อิสมาเอล มิลเลอร์ (น.47) , 1-1 : อองรี กามารา (น.61) , 2-1 : เอเมอร์สัน บอยซ์ (น.87)]