ในที่สุดวงการเทนนิสชายฤดูกาล 2008 ได้ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ หลัง โนวัค ยอโควิช หนุ่มหน้าหยกมือ 3 ของโลกชาวเซิร์บโค่น นิโคไล ดาวิเดนโก มือ 5 ของโลกจากรัสเซียคว้าแชมป์เทนนิสมาสเตอร์ส คัพ รายการส่งท้ายปีบนแผ่นดินมังกรมาครองได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ก่อนทัวร์นาเมนต์รวม 8 เทพรายการนี้จะเริ่นต้นขึ้นไม่ถึง 1 เดือน โลกสักหลาดต้องพบกับข่าวใหญ่เมื่อ ราฟาเอล นาดาล มือ 1 โลกชาวสเปนถูกแพทย์วินัจฉัยว่ามีอาการเอ็นเข่าขวาอักเสบจนต้องปิดเทอมยาวหมดสิทธิ์ร่วมลงแข่งรายการนี้ รวมทั้งเทนนิสระดับชาติอย่างเดวิส คัพ ที่ “กระทิงดุ”สเปนมีคิวบุกไปเยือน “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนติน่า ในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง
สำหรับนักหวดรายอื่นๆที่ไม่บาดเจ็บใช่ว่าจะบินมาเมืองจีนพร้อมกับสภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์ ไล่ตั้งแต่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ แชมป์เก่า 4 สมัยเจ็บแผ่นหลังจนต้องทานยาแก้ปวด ส่วนในรายของ ยอโควิช ทนเจ็บสะโพกมานานหลายเดือนแล้ว ด้าน “ 2 แอนดี” แอนดี เมอร์เรย์ มือ 4 โลกชาวสกอตและแอนดี รอดดิก มือ 6 จากเมืองลุงเเซมนัดกันบาดเจ็บข้อเท้าจากทุกปัจจัยที่ว่ามาส่งผลให้มาสเตอร์ส คัพในรอบแบ่งสายรอบแรกไม่ต่างอะไรจากสนามแข่งวิ่งมาราธอนที่วัดชัยชนะกันที่ความทนทานของร่างกาย
แน่นอนว่าผลพลิกล็อกเกิดขึ้นตั้งแต่แมตช์แรกของสายแดงเมื่อโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ แชมป์เก่า 2 ครั้งหลังสุดแพ้ให้กับ ชิลล์ส ซิมง มือ 9 ในเอทีพี เรซที่ได้สิทธิ์ลงแข่งแทน นาดาล ตามมาด้วยอาการบาดเจ็บข้อเท้าของ เเอนดี รอดดิก หลังจบแมตช์ที่แพ้ให้กับ แอนดี เมอร์เรย์โดยหลังตรวจอาการอย่างละเอียดเเล้ว รอดดิก แชมป์ยูเอส โอเพน ปี 2003 ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันพร้อมฝากข้อความประชดประชันว่า "นับว่าเป็นฤดูกาลอันยาวนานกับแมทช์การแข่งขันที่อัดแน่นตลอด11 เดือนและสุดท้ายทุกคนก็เป็นอย่างเห็นไม่ว่าจะเป็นนาดาล เฟเดอเรอร์ หรือแม้แต่กับตัวผมเอง"
การถอนตัวของ ร็อดดิก นั้นมิใช่เพียงแค่นักกีฬาเท่านั้นที่เดือดร้อนกับโปรแกรมการแข่งขันสุดโหด หากเอทีพี เองต้องวิ่งวุ่นหาคนมาลงสนามเเทน รอดดิก เพื่อให้ทัวร์นาเมนต์ดำเนินต่อไปซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่หมุนโทรศัพท์ไถ่ถามความสมัครใจอยู่นาน สุดท้ายแจกพอตต์ไปตกกับ ราเดก สเตปาเนก นักเทนนิสเช็กมือ 26 ในเรซซึ่งมาท่องเที่ยวอยู่ละแวกใกล้เคียงอย่างไรก็ตามมวยเเทนกลับไม่พร้อมเอาเสียเลย สเตปาเนกในวัย 30 ปีต้องบากหน้าไปยืมแรกเกตและถุงเท้าจากนักหวดรุ่นหลานอย่าง โนวัค ยอโควิช และ แอนดี เมอร์เรย์ ที่ต่างชนะ 2 นัดรวดการันตีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปเรียบร้อยแล้ว
โดยในรายของ ยอโควิช คว้าแชมป์สายทองจากผลงานชนะ 2 แพ้ 1 นัดให้กับ โจ-วิลฟรีด ซองกา คู่ปรับเก่าชาวฝรั่งเศสในแมตช์สุดท้ายที่ไม่มีผลอะไรแล้วนอกจากเงินรางวัลต่อนัด 100,000 เหรียญหรือราว 3.4 ล้านบาทขณะที่ในสายสายสีแดง เมอร์เรย์ ชนะ 2 แมตช์แรกได้แบบไม่ยากเย็น แต่นัดสุดท้ายแทนที่จะออมแรงไว้ลงเล่นรอบรองชนะเลิศในวันรุ่งขึ้น หนุ่มวัย 21 ปีจากกลาสโกว์กลับทุ่มสุดกำลังหวังจะเขี่ย เฟเดอเรอร์ ตกรอบแรกให้จงได้
ซึ่ง เมอร์เรย์ ก็ทำสำเร็จตามเป้าหวดชนะ 2-1 เซตส่ง เฟดเอ็กซ์ จอดป้ายรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่ได้รับสิทธิ์มาร่วมแข่งขัน เรียกได้ว่าทั้งเสียใจทั้งอับอายจนเจ้าตัวถึงขนาดตัดพ้อว่า “ผมมีความสุขมากที่ฤดูกาลนี้จบๆไปสักที หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จะลบเลือนไปจากใจผมให้เร็วที่สุด” อย่างไรก็ดี เมอร์เรย์ เองก็ไม่เหลือเรี่ยวแรงพอไปสู้กับ นิโคไล ดาวิเดนโก จนสุดท้ายต้องปล่อยให้ จอมเหนียวจากรัสเซียผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปแบบสบายอารมณ์
ส่วน ซิมง ที่เฉือน เฟเดอเรอร์ ผ่านเข้ารอบตัดเชือกมาได้ ฝีมือยังมิอาจเทียบชั้น ยอโควิช ส่งผลให้คู่ชิงชนะเลิศมาสเตอร์ส คัพ 2008 เป็นการพบกันระหว่าง โนวัค ยอโควิช ที่ปีกลายแพ้ 3 แมตช์รวดในรอบแรก กับ นิโคไล ดาวิเดนโก ซึ่งเคยมาแข่งที่เซี่ยงไฮ้ 3 ครั้งแต่ไม่เคยผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้เลย
จากการที่ในรอบแบ่งกลุ่ม ยอโควิช เคยเฉือนชนะ ดาวิเดนโก มาแล้ว 2-1 เซต ดังนั้นรูปเกมในรอบชิงชนะเลิศจึงคาดการณ์กันได้ไม่ยาก เพชฌฆาตหน้าหยกจากเซอร์เบียไล่ยิงเบียดเส้นโจมตีรุ่นพี่จากแดนหมีขาวไม่ให้ตั้งตัว คว้าเซตแรกไปได้ 6-1 จากนั้นในเซต 2 แม้ฝูงชนชาวจีนในสนาม ฉีจง มหานครเซี่ยงไฮ้ จะเทใจเชียร์ ดาวิเดนโก ออกนอกหน้าจน ยอโควิช เสียสมาธิปรบมือประชดไปหลายจังหวะ แต่บทสรุปก็ยังสามารถเอาชนะไปได้อีกอยู่ดี 7-5 ส่งผลให้แชมป์ออสเตรเลียน โอเพนคนล่าสุดคว้าแชมป์มาสเตอร์ส คัพ 2008 พร้อมของกำนัลเต็มมือไม่ว่าจะเป็นเงินรางวัลรวมทั้งหมดตั้งแต่รอบแรก 1,240,000 เหรียญสหรัฐฯหรือราว 42.2 ล้านบาท รวมทั้งรถยนต์อเนกประสงค์เมอร์ซิเดส-เบนซ์ อาร์ 500 ราคาขายในเมืองไทยประมาณ 12 ล้านบาท
นับเป็นการทำหน้าที่สมบูรณ์แบบจริงๆสำหรับ ยอโควิช ที่จัดการเปิดศักราช 2008 ด้วยตำแหน่งแชมป์ออสเตรเลียน โอเพน ในเดือนมกราคม จากนั้น 11 เดือนให้หลังก็กลับมาซีกโลกตะวันออกฟาดแชมป์รายการสุดท้ายอย่าง มาสเตอร์ส คัพ ส่งสัญญานรูดม่านปิดฤดูกาลอย่างเป็นทางการ
จากนี้วงการเทนนิสอาชีพจะหยุดพักยาวประมาณ 30 วัน ก่อนที่ช่วงปลายเดือนธันวาคม เอทีพี ทัวร์จะเป่านกหวีดเรียกรวมพลกลับมาที่เส้นสตาร์ตเพื่อเตรียมพบกับปฏิทินแข่งขันใหม่ในปี 2009 โดยมีแกรนด์สแลมรายการแรกในเดือนมกราคมเป็นเป้าหมายใหญ่ของการชิงชัยพร้อมกันนี้พวกเขาก็ต้องเตรียมถนอมร่างกายให้แข็งแรงพอที่จะติด 1 ใน 8 ของโลกรับสิทธิ์ลงแข่ง มาสเตอร์ส คัพ ภายใต้ชื่อใหม่ “เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์” ณ สังเวียน โอทู อารีนา กลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษต่อไปในฤดูกาลหน้า