ร็อบบี คีน เบิลสกอร์ช่วยให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังจิกเอาชนะ “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน สบายเกือก 3-0 พร้อมกระโดดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
ราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจใส่ชื่อ เฟอร์นานโด ตอร์เรส กลับมาเป็นสำรองในนัดที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน โดยยังวางใจให้ ร็อบบี คีน ล่าตาข่ายร่วมกับ เดิร์ก เคาท์ ส่วนแดนกลางพัก ชาบี อลอนโซ ให้ ยอสซี เบนายูน มาขึ้นเกมบ้าง ด้าน โทนี โมวเบรย์ ขาดแผงรับอย่าง ลีออน บาร์เนตต์ และ อับดูลาย เมอิเต จึงต้องใช้บริการของ ไรอัน ดองก์ กับ โยนาส โอลส์สัน ต่อไป
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ยังดูเชิงไม่เร่งเข้าทำเร็ว ผ่านสิบนาทีแรกเจ้าถิ่นลองทักทายก่อนจากลูกยิงไกลของ สตีเวน เจอราร์ด แต่ไม่เป็ปัญหาสำหรับ สกอตต์ คาร์สัน สามนาทีถัดมา ฮาเวียร์ มาสเชราโน ทิ่มบอลเข้ากรอบโทษ ร็อบบี คีน ตวัดยิงตามน้ำเบาเกินไปนายทวาร เวสต์บรอม รับกินสบาย นาทีที่ 16 ทีมเยือนเกือบได้ลุ้นเหมือนกันแต่ บอร์ฆา บาเลโร โดนทาง เจมี คาร์ราเกอร์ เบียดล้มไปในเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ส่งสัญญาณให้เล่นกันต่อไป
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก “หงส์แดง” เริ่มเร่งเกมขึ้นเป็นลำดับ คีน โชว์ลีลาตอกส้นให้ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เติมขึ้นมาสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายตบเข้ากลางหมายให้ เดิร์ก เคาท์ เข้าฮอสแต่โดน โยนาส โอลส์สัน สกัดออกหลังหวุดหวิด นาทีที่ 29 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูนำ เคาท์ จ่ายทะลุให้ ยอสซี เบนายูน ยิงติดเซฟ คาร์สัน บอลกระดอนไปโดนมือ โอลส์สัน แต่เชิ้ตดำยังใจแข็งไม่ให้จุดโทษในเกมนี้
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 34 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จนได้ เจอร์ราร์ด ทางทะลุช่องให้ คีน วิ่งฉีกหนี โอลส์สัน เข้าไปชิปบอลข้ามตัว คาร์สัน ที่พยายามล้มปิดมุมเข้าประตูไป และนี่เป็นประตูแรกในลีกภายใต้สีเสื้อ “หงส์แดง” ของหอกชาวไอริชอีกด้วย อีกห้านาทีถัดมาเจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง มาสเชราโน กระหน่ำบอลเรียดพุ่งเข้าซองนายทวาร “แบ็กกีส์” ก่อนหมดครึ่งแรก 2 นาที เจ้าบ้านนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะสวนกลับ ออเรลิโอ จ่ายทะลุให้ คีน หลุดไปแตะหลบ คาร์สัน ก่อนป้ายบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายและก็จบ 45 นาทีแรกไป
เปิดฉากครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังเดินหน้าต่อไปแม้นำห่าง แต่ก็เกือบโดนทีเด็ดของผู้มาเยือนเช่นกัน แต่ โฮเซ เรนา รับบอลติดหนึบจากลูกยิงไกของ โรเบิร์ต โคเรน จากนั้น โทนี โมวเบรย์ มีการปรับแนวรุกใส่ ลุค มัวร์ ไปยืนแดนหน้าแทน โรมัน เบ็ดนาร์ ที่แทบไม่มีบทบาทกับเกม พร้อมกับหยอด เฟลิเป เตเซรา ลงมาขึ้นเกมแทน คิม โด เฮือน แข้งเกาหลีเช่นกัน นาทีที่ 57 เวสต์บรอมวิช ทิ้งโอกาสทองในการตีไข่แตก เมื่อ ดาเนียล แอกเกอร์ ปล่อยบอลข้ามหัวไปทว่า อิสมาเอล มิลเลอร์ ดันจับบอลยาวพลาดหลุดเข้าไปล่อเป้า เรนา หนึ่งชั่วโมงพอดี คีน สลัดหลุด ไรอัน ดองก์ เข้าเขตโทษแต่ คาร์สัน ออกมาตัดบอลได้เร็วมิเช่นนั้นกองหน้าทีมชาติไอร์แลนด์มีสิทธิทำแฮตทริกได้สำเร็จ
ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ ปรับหมากให้ ลิเวอร์พูล เช่นกันส่ง ไรอัน บาเบล มาเติมสีสันทางกราบและก็ถอด อัลเบิร์ต ริเอรา ออกมาพัก 20 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมปรับทัพอีกครั้ง ทีมเยือนให้ คริส บรันท์ มาเล่นแทน มิลเลอร์ ขณะที่เจ้าถิ่นส่ง เฟอร์นานโด ตอร์เรส มายืดเส้นยืดสายและก็ถอด คีน ออกมา แต่ เวสต์บรอมวิช เกือบได้ประตูตีไข่แตกทว่าลูกปั่นฟรีคิกของ บรันท์ เข้าแค่ข้างตาข่าย นาทีที่ 79 ตอร์เรส ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแต่งบอลก่อนยิงไกลไปเข้ามือ คาร์สัน
ท้ายเกม เวสต์บรอม พยายามฮึดตีไข่แตกแต่ ลิเวอร์พูล ค้ำยันได้ครบ 90 นาที แถมช่วงทดเจ็บ อัลวาโร อาร์เบลัว ยังเติมขึ้นมายิงด้วยซ้ายส่งลูกหนังโค้งเข้าประตูอย่างสวยงามช่วยให้ “หงส์แดง” ถล่มชัย 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 29 คะแนนจากการลงสนาม 12 นัด กระโดดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง โดยทิ้ง “สิงห์บลูส์” เชลซี 3 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ “เดอะ แบ็กกีส์” ยังรั้งรองบ๊วยมีเพียง 11 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลวาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอกเกอร์ , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , ยอสซี เบนายูน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , อัลเบิร์ต ริเอรา , เดิร์ก เคาท์ , ร็อบบี คีน
เวสต์บรอม : สกอตต์ คาร์สัน , จิอันนี ซุยเวอร์ลูน , ไรอัน ดองก์ , โยนาส โอลส์สัน , พอล โรบินสัน , โจนาธาน กรีนนิง , บอร์ฆา บาเลโร , โรเบิร์ต โคเรน , คิม โด เฮือน , โรมัน เบ็ดนาร์ , อิสมาเอล มิลเลอร์
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
ราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจใส่ชื่อ เฟอร์นานโด ตอร์เรส กลับมาเป็นสำรองในนัดที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน โดยยังวางใจให้ ร็อบบี คีน ล่าตาข่ายร่วมกับ เดิร์ก เคาท์ ส่วนแดนกลางพัก ชาบี อลอนโซ ให้ ยอสซี เบนายูน มาขึ้นเกมบ้าง ด้าน โทนี โมวเบรย์ ขาดแผงรับอย่าง ลีออน บาร์เนตต์ และ อับดูลาย เมอิเต จึงต้องใช้บริการของ ไรอัน ดองก์ กับ โยนาส โอลส์สัน ต่อไป
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ยังดูเชิงไม่เร่งเข้าทำเร็ว ผ่านสิบนาทีแรกเจ้าถิ่นลองทักทายก่อนจากลูกยิงไกลของ สตีเวน เจอราร์ด แต่ไม่เป็ปัญหาสำหรับ สกอตต์ คาร์สัน สามนาทีถัดมา ฮาเวียร์ มาสเชราโน ทิ่มบอลเข้ากรอบโทษ ร็อบบี คีน ตวัดยิงตามน้ำเบาเกินไปนายทวาร เวสต์บรอม รับกินสบาย นาทีที่ 16 ทีมเยือนเกือบได้ลุ้นเหมือนกันแต่ บอร์ฆา บาเลโร โดนทาง เจมี คาร์ราเกอร์ เบียดล้มไปในเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ส่งสัญญาณให้เล่นกันต่อไป
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก “หงส์แดง” เริ่มเร่งเกมขึ้นเป็นลำดับ คีน โชว์ลีลาตอกส้นให้ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เติมขึ้นมาสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายตบเข้ากลางหมายให้ เดิร์ก เคาท์ เข้าฮอสแต่โดน โยนาส โอลส์สัน สกัดออกหลังหวุดหวิด นาทีที่ 29 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูนำ เคาท์ จ่ายทะลุให้ ยอสซี เบนายูน ยิงติดเซฟ คาร์สัน บอลกระดอนไปโดนมือ โอลส์สัน แต่เชิ้ตดำยังใจแข็งไม่ให้จุดโทษในเกมนี้
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 34 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จนได้ เจอร์ราร์ด ทางทะลุช่องให้ คีน วิ่งฉีกหนี โอลส์สัน เข้าไปชิปบอลข้ามตัว คาร์สัน ที่พยายามล้มปิดมุมเข้าประตูไป และนี่เป็นประตูแรกในลีกภายใต้สีเสื้อ “หงส์แดง” ของหอกชาวไอริชอีกด้วย อีกห้านาทีถัดมาเจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง มาสเชราโน กระหน่ำบอลเรียดพุ่งเข้าซองนายทวาร “แบ็กกีส์” ก่อนหมดครึ่งแรก 2 นาที เจ้าบ้านนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะสวนกลับ ออเรลิโอ จ่ายทะลุให้ คีน หลุดไปแตะหลบ คาร์สัน ก่อนป้ายบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายและก็จบ 45 นาทีแรกไป
เปิดฉากครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังเดินหน้าต่อไปแม้นำห่าง แต่ก็เกือบโดนทีเด็ดของผู้มาเยือนเช่นกัน แต่ โฮเซ เรนา รับบอลติดหนึบจากลูกยิงไกของ โรเบิร์ต โคเรน จากนั้น โทนี โมวเบรย์ มีการปรับแนวรุกใส่ ลุค มัวร์ ไปยืนแดนหน้าแทน โรมัน เบ็ดนาร์ ที่แทบไม่มีบทบาทกับเกม พร้อมกับหยอด เฟลิเป เตเซรา ลงมาขึ้นเกมแทน คิม โด เฮือน แข้งเกาหลีเช่นกัน นาทีที่ 57 เวสต์บรอมวิช ทิ้งโอกาสทองในการตีไข่แตก เมื่อ ดาเนียล แอกเกอร์ ปล่อยบอลข้ามหัวไปทว่า อิสมาเอล มิลเลอร์ ดันจับบอลยาวพลาดหลุดเข้าไปล่อเป้า เรนา หนึ่งชั่วโมงพอดี คีน สลัดหลุด ไรอัน ดองก์ เข้าเขตโทษแต่ คาร์สัน ออกมาตัดบอลได้เร็วมิเช่นนั้นกองหน้าทีมชาติไอร์แลนด์มีสิทธิทำแฮตทริกได้สำเร็จ
ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ ปรับหมากให้ ลิเวอร์พูล เช่นกันส่ง ไรอัน บาเบล มาเติมสีสันทางกราบและก็ถอด อัลเบิร์ต ริเอรา ออกมาพัก 20 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมปรับทัพอีกครั้ง ทีมเยือนให้ คริส บรันท์ มาเล่นแทน มิลเลอร์ ขณะที่เจ้าถิ่นส่ง เฟอร์นานโด ตอร์เรส มายืดเส้นยืดสายและก็ถอด คีน ออกมา แต่ เวสต์บรอมวิช เกือบได้ประตูตีไข่แตกทว่าลูกปั่นฟรีคิกของ บรันท์ เข้าแค่ข้างตาข่าย นาทีที่ 79 ตอร์เรส ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแต่งบอลก่อนยิงไกลไปเข้ามือ คาร์สัน
ท้ายเกม เวสต์บรอม พยายามฮึดตีไข่แตกแต่ ลิเวอร์พูล ค้ำยันได้ครบ 90 นาที แถมช่วงทดเจ็บ อัลวาโร อาร์เบลัว ยังเติมขึ้นมายิงด้วยซ้ายส่งลูกหนังโค้งเข้าประตูอย่างสวยงามช่วยให้ “หงส์แดง” ถล่มชัย 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 29 คะแนนจากการลงสนาม 12 นัด กระโดดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง โดยทิ้ง “สิงห์บลูส์” เชลซี 3 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ “เดอะ แบ็กกีส์” ยังรั้งรองบ๊วยมีเพียง 11 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลวาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอกเกอร์ , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , ยอสซี เบนายูน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , อัลเบิร์ต ริเอรา , เดิร์ก เคาท์ , ร็อบบี คีน
เวสต์บรอม : สกอตต์ คาร์สัน , จิอันนี ซุยเวอร์ลูน , ไรอัน ดองก์ , โยนาส โอลส์สัน , พอล โรบินสัน , โจนาธาน กรีนนิง , บอร์ฆา บาเลโร , โรเบิร์ต โคเรน , คิม โด เฮือน , โรมัน เบ็ดนาร์ , อิสมาเอล มิลเลอร์
