บทเรียนสอนใจ น้องใหม่พรีเมียร์ลีก

ก่อนหน้าที่ฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษปี 2008-2009 จะเปิดฉากขึ้น ทีมน้องใหม่อย่าง ฮัลล์ ซิตี ซึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดจากการคว้าชัยชนะรอบเพลย์ออฟ บรรดาเกจิข้างสนามก็พากันปรามาสด้วยการฟันธงว่า “เดอะไทเกอร์” จะเป็นเต็งหนึ่งที่ร่วงกลับสู่บ้านเก่าแชมเปียนส์ชิปลีกอย่างรวดเร็วภายในซีซั่นเดียว

แต่หลังจากการแข่งขันผ่านมากว่าสองเดือนรูปการกลับมิเป็นเช่นนั้น เมื่อ “พี่เสือ” ภายใต้การคุมทีมของ ฟิล บราวน์ ทำผลงานได้อย่างเปรี้ยงปร้างกลายเป็นข่าวพาดหัวตัวเป้งของสื่อเมืองผู้ดี โดยเฉพาะการบุกไปเอาชนะทีมที่มีภาษีดีกว่าทั้ง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ รวมถึง อาร์เซนอล ทำให้ผลงานหลังจากการลงสนาม 8 นัด สามารถคว้ามาได้ถึง 17 คะแนนพร้อมกับทะยานขึ้นมารั้งอันดับที่ 3 ของตารางเป็นรองทีมลุ้นแชมป์อย่าง เชลซี และ ลิเวอร์พูล เท่านั้น

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ฮัลล์ ซิตี บินสูงอยู่ในขณะนี้คือ การที่นักเตะของทีมมีหัวใจของความเป็นนักสู้ช่วยกันบี้ช่วยกันไล่ในยามที่ฝ่ายตรงข้ามครองเกมบุก ขณะเดียวกันก็อาศัยความอดทนรอจังหวะคอยฉวยโอกาสทำประตูเป็นอาวุธเด็ดในการทำเกมรุก นอกจากนี้การวางแทคติกที่เหมาะสมและรัดกุมของกุนซือก็ส่งผลให้คู่แข่งที่ลงสนามปะทะแข้งด้วยต้องเผชิญกับความยากลำบากที่จะเอาชนะ

ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมเช่นนี้เองทำให้หลายคนมองว่านอกจากลูกทีมของ ฟิล บราวน์ จะรอดพ้นจากการตกชั้นได้อย่างไม่ยากเย็นแล้วยังอาจมีลุ้นยาวๆไปจนกระทั่งนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่จะมีสิทธิ์คว้าตั๋วไปแข่งฟุตบอลถ้วยระดับสโมสรยุโรปในปีหน้าอีกด้วย

ความเห็นดังกล่าวมิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะอดีตที่ผ่านมามีทีมน้องใหม่จำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในปีแรกที่ก้าวขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดดังเช่น เรดดิง ในฤดูกาล 2006-2007 โดยตลอดทั้งปี “เดอะ รอยัล” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีแมตช์ที่น่าจดจำก็คือการเอาชนะ เชลซี แชมป์เก่าไปอย่างพลิกความคาดหมาย 2-0 จนสุดท้ายจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 8

อีกทีมที่น่าสนใจเห็นจะเป็น อิปสวิช ทาวน์ ที่ก้าวขึ้นมาเล่นบนศึกพรีเมียร์ ลีกจากการคว้าชัยในรอบเพลย์ออฟเช่นเดียวกับ ฮัลล์ ซิตี โดยทำผลงานฤดูกาลแรกมีลุ้นเกือบที่จะคว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มาได้ทีเดียว แต่เนื่องจากฟอร์มแผ่วในช่วงท้ายของปีทำให้ถูกทีมอื่นไล่แซงขึ้นไป อย่างไรก็ตามสุดท้าย “ม้าขาว” จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 5 พร้อมกับคว้าสิทธิ์ไปแข่งฟุตบอลยูฟ่า คัพได้สำเร็จ

ส่วน ซันเดอร์แลนด์ เลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อปี 1999-2000 และจากผลงานการถล่มประตูอย่างมากมายของ เควิน ฟิลลิปส์ จนทำให้เจ้าตัวก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษและทำให้ต้นสังกัดอย่าง “แมวดำ” จบด้วยอันดับที่ 7 ของตารางถึงสองฤดูกาลติดต่อกัน

จากตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ฮัลล์ ซิตี ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จบนลีกสูงสุดในฤดูกาลแรกได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกแง่มุมหนึ่งที่จำเป็นต้องตระหนักถึง เนื่องจากการแข่งขันฤดูกาลต่อๆมาของทั้ง 4 ทีมข้างต้นกลับเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายดายนัก เพราะจะมีเหตุปัจจัยหลายประการมากระทบต่อทีมจนทำให้ฟอร์มการเล่นที่ดีเยี่ยมช่วงก่อนหน้านี้พลิกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

“ประการแรก” นักเตะของทีมน้องใหม่ที่ทำผลงานอย่างโดดเด่นจะตกเป็นเป้าหมายของสโมสรยักษ์ใหญ่ที่จ้องจะกระชากตัวไปร่วมทีม ซึ่งจะทำให้นักเตะเสียสมาธิจนส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นแล้ว สุดท้ายก็ไม่สามารถรั้งตัวนักเตะอยู่กับทีมได้ “ประการที่สอง” ทีมน้องใหม่มีขนาดของจำนวนผู้เล่นเล็กเกินไปทำให้ไม่สามารถรับมือกับการแข่งขันที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นได้ ซึ่ง อิปสวิช ทาวน์ เจอกับอุปสรรคในข้อนี้หลังจากสามารถผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า คัพ เมื่อไม่สามารถส่งผู้เล่นสำรองที่มีฝีเท้าเท่าเทียมกันมาลงสนามแทนได้ สุดท้ายนอกจาก “ม้าขาว” จะตกรอบฟุตบอลยูฟ่า คัพ แล้วยังต้องกลับไปตั้งหลักใหม่ในศึกแชมเปียนส์ชิปอีกครั้ง

“ประการที่สาม” ทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมายังขาดชื่อเสียงและแรงดึงดูดผู้เล่นฝีเท้าดีเข้ามาร่วมทีม ซันเดอร์แลนด์ ประสบปัญหานี้อย่างจังเมื่อ เควิน ฟิลลิปส์ เจออาการบาดเจ็บเล่นงาน แม้ว่าจะแก้ไขด้วยการซื้อกองหน้ารายใหม่เข้ามาทดแทนแต่ก็มีศักยภาพที่ด้อยกว่าทำให้ประสิทธิภาพการทำประตูของทีมลดลง “ประการสุดท้าย” คือเรื่องของรายได้เมื่อพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จเหมือนช่วงแรกที่ได้ขึ้นชั้น ทำให้ทีมต้องขายผู้เล่นชื่อดังออกไป สุดท้าย ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องตกชั้นไป

อุปสรรคข้างต้นนับเป็นขวากหนามที่ยากยิ่งสำหรับทีมน้องใหม่ ถึงเวลานี้ก็คงได้แต่หวังว่าขุนพลลูกหนัง ฮัลล์ ซิตี จะนำเอาอดีตดังกล่าวมาเป็นบทเรียนสอนใจและพาให้ทีมเอาตัวรอดไปได้จนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งส่วนหนึ่งนอกจากจะทำให้ทีมเล็กได้แจ้งเกิดแล้ว ผลสำเร็จของ "เดอะไทเกอร์" น่าจะช่วยให้ศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มีสีสันเพิ่มขึ้นจากเดิม เพราะในระยะหลังนั้น ลีกลูกหนังเมืองผู้ดีนั้นรสชาติกร่อยลงไปไม่น้อยที่ปล่อยให้บรรดาบิ๊กโฟร์จับจองพื้นที่แต่เพียงอย่างเดียว