เออร์นี เอลส์ สวิงมือ 8 ของโลกจากแอฟริกาใต้ ออกมาแสดงความกังวลว่าการที่ ยูโรเปียน ทัวร์ เพิ่มจำนวนรายการให้สมาชิกต้องลงเล่นเพิ่มเป็น 12 รายการ อาจทำให้บรรดาโปรที่อยู่ใน พีจีเอ ทัวร์ ต้องคิดหนักกับการเปลี่ยนตารางการแข่งขันเพื่อมาเล่นในยุโรปมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการผู้เล่นของ ยูโรเปียน ทัวร์ ประกาศเพิ่มจำนวนทัวร์นาเมนท์ที่สมาชิก ต้องลงเล่นเพิ่มขึ้นจาก 11 เป็น 12 รายการในปีหน้า
ทั้งนี้จากกฎใหม่ดังกล่าวส่งผลต่อบรรดาโปรที่เล่นอยู่ใน พีจีเอ ทัวร์ ที่ต้องการทำเงินให้ติด 60 อันดับแรกใน ยูโรเปียน ทัวร์ เพื่อคว้าสิทธิ์ลงแข่งกอล์ฟรายการใหม่ “ดูไบ เวิลด์ แชมเปียนชิป” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายนปีหน้า ซึ่งถือเป็นรายการกอล์ฟที่มีเงินรางวัลสูงที่สุดในโลก ด้วยจำนวนรวมทั้งหมดกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 340 ล้านบาทเลยทีเดียว
ขณะที่ล่าสุด “บิ๊กอีซี่ย์” เออร์นี เอลส์ ก้านเหล็กจากแอฟริกาใต้ ที่เตรียมลงเล่น ยูโรเปียน ทัวร์ รายการ ดันฮิลล์ ลิงค์ส แชมเปียนชิป ที่สกอตแลนด์ ในสัปดาห์นี้ ออกมาแสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า "ผมคิดว่าคงไม่มีผู้เล่นคนใดในพีจีเอ ทัวร์ ยอมเปลี่ยนตารางการแข่งขันของตัวเองเพื่อมาเล่นในยุโรปให้ครบตามจำนวนที่กำหนด และอยากเสนอให้มีข้อยกเว้นพิเศษสำหรับผู้เล่นนอก ยูโรเปียน ทัวร์ ที่จะมีสิทธิ์ได้ไปแข่งที่ ดูไบ”
สำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ใน ยูโรเปียน ทัวร์ ที่ลงเล่นครบทั้ง 4 รายการเมเจอร์ และอีก 3 รายการในศึก เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป จะต้องลงเล่นในยุโรปอีกอย่างน้อย 5 รายการเพื่อมีสิทธิ์ลุ้นได้ไปเล่นศึก ดูไบ เวิลด์ แชมเปียนชิป
