สตีเวน เจอร์ราร์ด ซัดประตูที่ 100 ของตัวเองได้สำเร็จ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ พีเอสวี ไอน์โฮเฟน ไปอย่างไม่ยากเย็น 3-1 ขณะที่ เชลซี ปืนฝืดทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอกับ ซีเอฟอาร์ คลูจ 0-0 ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
ลิเวอร์พูล 3-1 พีเอสวี ไอน์โฮเฟน
ลิเวอร์พูล ได้กลับมาเล่นที่แอนฟิลด์และตัวผู้เล่นก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทำให้ ราฟาเอล เบนิเตซ จัดทีมได้อย่างเต็มที่ โดยเกมนี้ยังส่ง เฟอร์นันโด ตอร์เรส, ร็อบบี คีน และ เดิร์ก เคาท์ ลงทำเกมรุกร่วมกันในแดนหน้าเหมือนเดิม ขณะที่ พีเอสวี ไอน์โฮเฟน แพ้มาที่บ้านตัวเองในนัดแรกส่งผลให้ทีมต้องเก็บอย่างน้อย 1 แต้มให้ได้ โดยเกมนี้มี นอร์ดิน อัมราบัต กองหน้าตัวเก่งเป็นตัวความหวังของทีม
เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาที ลิเวอร์พูล ก็มาทำประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วจากจังหวะลูกเตะมุม บอลเปิดเข้ามาถึง ตอร์เรส ได้ยิงก่อนในจังหวะแรก อิซัคส์สัน ใช้ขาป้องกันไว้ได้ แต่บอลเป็นใจให้เจ้าถิ่นกระดอนมาเข้าทาง เคาท์ ยิงซ้ำอีกครั้ง คราวนี้นายด่านทีมเยือนหมดสิทธิ์ป้องกันแม้บอลจะถูกปัดปลายมือแต่ก็ยังแรงพอที่จะเข้าประตูไปทำให้หงส์แดงออกนำไปก่อน 1-0
พีเอสวี พยายามทำเกมบุกบ้างแต่ก็หาทางเจาะเกมรับอันเหนียวแน่นของหงส์แดงไม่ได้ อัมราบัต พยายามยิงไกลจากนอกเขตโทษแต่บอลก็เหินข้ามคานออกหลังไปไม่ได้ลุ้น เกมมาถึง น. 25 เจอร์ราร์ด ได้บอลบริเวณมุมเขตโทษด้านขวา ก่อนตัดสินใจสับไกด้วยขวาบอลพุ่งแรงจน อิซัคส์สัน รับไม่อยู่แต่ก็ไม่มีนักเตะลิเวอร์พูลตามมาซ้ำทัน กองหลังจึงสกัดออกมาได้
เจ้าถิ่นยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องและเกือบทำประตูหนีห่างใน น. 30 จากจังหวะเตะมุมอีกครั้ง โดย ออเรลิโอ รับหน้าที่เปิดบอลเข้ามาให้ ตอร์เรส ซึ่งกระโดดได้สูงกว่ากองหลัง พีเอสวี แต่ศูนย์หน้าสแปนิชโหม่งบอลหลุดเสาออกหลังไป
แต่อีก 4 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล ก็มาทำประตูหนีห่างจนได้จากจังหวะที่ ตอร์เรส ได้บอลบริเวณริมเส้นด้านขวา หลอกล่อกองหลังทีมเยือนหนึ่งจังหวะก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางและเป็น ร็อบบี คีน โฉบมายิงเข้าไปเป็นประตูแรกของตัวเองในชุดหงส์แดงและให้ทีมหนีห่างออกไปเป็น 2-0 หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ทำให้จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้สองนาที พีเอสวี มีโอกาสลุ้นทำประตูก่อนจากการที่ทีมต่อบอลกันขึ้นมาอย่างสวยงาม ก่อนที่ในจังหวะสุดท้ายบอลจะหลุดมาถึง อักคาล ได้ยิงนอกกรอบเขตโทษระยะ 20 หลาแต่วางเท้าไม่ดีทำให้ยิงหลุดเสาออกหลังไป
ลิเวอร์พูล ยังครองเกมบุกได้เหนือกว่าและเกือบทำประตูหนีห่างไปอีกครั้งใน น. 65 เมื่อ ครอมแคมป์ ของทีมเยือนจ่ายบอลคืนหลังพลาดมาเข้าเท้า ตอร์เรส กระชากขึ้นไปในกรอบเขตโทษพยายามดีดบอลด้วยขวาหวังจะให้หนีตัว อิซัคส์สัน แต่เนื่องจากมุมแคบทำให้บอลผ่านหน้าประตูออกไป
เกมมาถึง น.76 เจอร์ราร์ด ก็มาทำประตูที่ 100 ของตัวเองได้สำเร็จจากการยิงฟรีคิกที่เพื่อนร่วมทีมเขี่ยบอลเปลี่ยนจุดมาให้ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษวิ่งมาซัดเต็มๆด้วยขวาจากระยะ 22 หลา หมดปัญญาที่ อิซัคส์สัน จะพุ่งตัวปัดได้ทันทำให้ ลิเวอร์พูล หนีห่างออกไปเป็น 3-0
แต่ พีเอสวี ก็ยังไม่ยอมถอดใจเมื่อทำประตูไล่ตีตื้นขึ้นมาจากจังหวะที่ อัมราบัต ได้บอลบริเวณริมเส้นด้านขวาก่อนจะเปิดมายังเขตโทษของเจ้าถิ่นและเป็น แดนนี โคเวอร์มันส์ ตัวสำรองที่เพิ่งจะลงสนามโฉบมาถึงบอลก่อนที่ สเคอร์เทล จะสกัดได้ทันทำให้ทีมเยือนจากฮอลแลนด์ ไล่ตามมา 1-3
แม้จะเสียประตูไล่ขึ้นมาแต่ ลิเวอร์พูล ก็ไม่รวนแต่อย่างใดยังคงครองบอลได้เหนือกว่าทีมเยือนอย่างเห็นได้ชัดและยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้อีกทำให้จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 3-1 พร้อมเก็บสามแต้มมาครองได้สำเร็จ
ขณะที่ผลการแข่งขันในกลุ่มเอ เชลซี ทีมยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษอีกทีมไม่สามารถทำประตูคู่แข่งที่เป็นรองอย่าง ซีเอฟอาร์ คลูจ ได้ทำให้เสมอกันไป 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรนา, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา, เฟอร์นันโด ตอร์เรส, ร็อบบี คีน, เดิร์ก เคาท์
พีเอสวี : อันเดรียส อีซัคส์สัน, เยเรมี เบรเชต์, เดิร์ก มาร์เซลลิส, แยน ครอมแคมป์, คาร์ลอส ซัลซิโด, เจสัน คูลินา, สติจน์ วุยเตนส์, เอดิสัน เมนเดซ, ทิมมี ซิมอนส์, ออตมัน บักเกล, นอร์ดิน อัมราบัต
ผลการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
กลุ่มเอ
บอร์กโดซ์ แพ้ เอเอส โรมา 1-3 (1-0 กูร์คุฟฟ์ น.18), (1-1 วูซินิช น.64), (1-2 บาปติสตา น.71), (1-3 บาปติสตา)
ซีเอฟอาร์ คลูจ เสมอ เชลซี 0-0
กลุ่มบี
อนอร์โธซิส ชนะ พานาธิไนกอส 3-1 (1-0 ซาร์ริย์กี ทำเข้าประตูตัวเอง น.11), (2-0 โดบราซิโนวิช น.15), (2-1 ซัลปินจิดิส จากการยิงจุดโทษ น.28), (3-1 โมฮัมเหม็ด น.78)
อินเตอร์ มิลาน เสมอ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-1 (1-0 ไมคอน น.13), (1-1 ปิซาร์โร น.62)
กลุ่มซี
ชัคเนอร์ โดเนตส์ แพ้ บาร์เซโลนา 1-2 (1-0 อิลซินโญ น.45), (1-1 เมสซี น.87), (1-2 เมสซี น.90)
สปอร์ติง ลิสบอน ชนะ บาเซิล 2-0 (1-0 ซานนี ทำเข้าประตูตัวเอง น.55), (2-0 แดร์เลอิ น.86)
กลุ่มดี
แอตเลติโก มาดริด ชนะ มาร์กเซย 2-1 (1-0 อกูโร น.4), (1-1 เนียง น.16), (2-1 การ์เซีย น.22)
ลิเวอร์พูล ชนะ พีเอสวี ไอน์โฮเฟน 3-1 (1-0 เคาท์ น.4), (2-0 คีน น.34), (3-0 เจอร์ราร์ด น.76), (3-1 โคเวอร์มันส์ น.78)
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
ลิเวอร์พูล 3-1 พีเอสวี ไอน์โฮเฟน
ลิเวอร์พูล ได้กลับมาเล่นที่แอนฟิลด์และตัวผู้เล่นก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทำให้ ราฟาเอล เบนิเตซ จัดทีมได้อย่างเต็มที่ โดยเกมนี้ยังส่ง เฟอร์นันโด ตอร์เรส, ร็อบบี คีน และ เดิร์ก เคาท์ ลงทำเกมรุกร่วมกันในแดนหน้าเหมือนเดิม ขณะที่ พีเอสวี ไอน์โฮเฟน แพ้มาที่บ้านตัวเองในนัดแรกส่งผลให้ทีมต้องเก็บอย่างน้อย 1 แต้มให้ได้ โดยเกมนี้มี นอร์ดิน อัมราบัต กองหน้าตัวเก่งเป็นตัวความหวังของทีม
เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาที ลิเวอร์พูล ก็มาทำประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วจากจังหวะลูกเตะมุม บอลเปิดเข้ามาถึง ตอร์เรส ได้ยิงก่อนในจังหวะแรก อิซัคส์สัน ใช้ขาป้องกันไว้ได้ แต่บอลเป็นใจให้เจ้าถิ่นกระดอนมาเข้าทาง เคาท์ ยิงซ้ำอีกครั้ง คราวนี้นายด่านทีมเยือนหมดสิทธิ์ป้องกันแม้บอลจะถูกปัดปลายมือแต่ก็ยังแรงพอที่จะเข้าประตูไปทำให้หงส์แดงออกนำไปก่อน 1-0
พีเอสวี พยายามทำเกมบุกบ้างแต่ก็หาทางเจาะเกมรับอันเหนียวแน่นของหงส์แดงไม่ได้ อัมราบัต พยายามยิงไกลจากนอกเขตโทษแต่บอลก็เหินข้ามคานออกหลังไปไม่ได้ลุ้น เกมมาถึง น. 25 เจอร์ราร์ด ได้บอลบริเวณมุมเขตโทษด้านขวา ก่อนตัดสินใจสับไกด้วยขวาบอลพุ่งแรงจน อิซัคส์สัน รับไม่อยู่แต่ก็ไม่มีนักเตะลิเวอร์พูลตามมาซ้ำทัน กองหลังจึงสกัดออกมาได้
เจ้าถิ่นยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องและเกือบทำประตูหนีห่างใน น. 30 จากจังหวะเตะมุมอีกครั้ง โดย ออเรลิโอ รับหน้าที่เปิดบอลเข้ามาให้ ตอร์เรส ซึ่งกระโดดได้สูงกว่ากองหลัง พีเอสวี แต่ศูนย์หน้าสแปนิชโหม่งบอลหลุดเสาออกหลังไป
แต่อีก 4 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล ก็มาทำประตูหนีห่างจนได้จากจังหวะที่ ตอร์เรส ได้บอลบริเวณริมเส้นด้านขวา หลอกล่อกองหลังทีมเยือนหนึ่งจังหวะก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางและเป็น ร็อบบี คีน โฉบมายิงเข้าไปเป็นประตูแรกของตัวเองในชุดหงส์แดงและให้ทีมหนีห่างออกไปเป็น 2-0 หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ทำให้จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้สองนาที พีเอสวี มีโอกาสลุ้นทำประตูก่อนจากการที่ทีมต่อบอลกันขึ้นมาอย่างสวยงาม ก่อนที่ในจังหวะสุดท้ายบอลจะหลุดมาถึง อักคาล ได้ยิงนอกกรอบเขตโทษระยะ 20 หลาแต่วางเท้าไม่ดีทำให้ยิงหลุดเสาออกหลังไป
ลิเวอร์พูล ยังครองเกมบุกได้เหนือกว่าและเกือบทำประตูหนีห่างไปอีกครั้งใน น. 65 เมื่อ ครอมแคมป์ ของทีมเยือนจ่ายบอลคืนหลังพลาดมาเข้าเท้า ตอร์เรส กระชากขึ้นไปในกรอบเขตโทษพยายามดีดบอลด้วยขวาหวังจะให้หนีตัว อิซัคส์สัน แต่เนื่องจากมุมแคบทำให้บอลผ่านหน้าประตูออกไป
เกมมาถึง น.76 เจอร์ราร์ด ก็มาทำประตูที่ 100 ของตัวเองได้สำเร็จจากการยิงฟรีคิกที่เพื่อนร่วมทีมเขี่ยบอลเปลี่ยนจุดมาให้ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษวิ่งมาซัดเต็มๆด้วยขวาจากระยะ 22 หลา หมดปัญญาที่ อิซัคส์สัน จะพุ่งตัวปัดได้ทันทำให้ ลิเวอร์พูล หนีห่างออกไปเป็น 3-0
แต่ พีเอสวี ก็ยังไม่ยอมถอดใจเมื่อทำประตูไล่ตีตื้นขึ้นมาจากจังหวะที่ อัมราบัต ได้บอลบริเวณริมเส้นด้านขวาก่อนจะเปิดมายังเขตโทษของเจ้าถิ่นและเป็น แดนนี โคเวอร์มันส์ ตัวสำรองที่เพิ่งจะลงสนามโฉบมาถึงบอลก่อนที่ สเคอร์เทล จะสกัดได้ทันทำให้ทีมเยือนจากฮอลแลนด์ ไล่ตามมา 1-3
แม้จะเสียประตูไล่ขึ้นมาแต่ ลิเวอร์พูล ก็ไม่รวนแต่อย่างใดยังคงครองบอลได้เหนือกว่าทีมเยือนอย่างเห็นได้ชัดและยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้อีกทำให้จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 3-1 พร้อมเก็บสามแต้มมาครองได้สำเร็จ
ขณะที่ผลการแข่งขันในกลุ่มเอ เชลซี ทีมยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษอีกทีมไม่สามารถทำประตูคู่แข่งที่เป็นรองอย่าง ซีเอฟอาร์ คลูจ ได้ทำให้เสมอกันไป 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรนา, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา, เฟอร์นันโด ตอร์เรส, ร็อบบี คีน, เดิร์ก เคาท์
พีเอสวี : อันเดรียส อีซัคส์สัน, เยเรมี เบรเชต์, เดิร์ก มาร์เซลลิส, แยน ครอมแคมป์, คาร์ลอส ซัลซิโด, เจสัน คูลินา, สติจน์ วุยเตนส์, เอดิสัน เมนเดซ, ทิมมี ซิมอนส์, ออตมัน บักเกล, นอร์ดิน อัมราบัต
ผลการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
กลุ่มเอ
บอร์กโดซ์ แพ้ เอเอส โรมา 1-3 (1-0 กูร์คุฟฟ์ น.18), (1-1 วูซินิช น.64), (1-2 บาปติสตา น.71), (1-3 บาปติสตา)
ซีเอฟอาร์ คลูจ เสมอ เชลซี 0-0
กลุ่มบี
อนอร์โธซิส ชนะ พานาธิไนกอส 3-1 (1-0 ซาร์ริย์กี ทำเข้าประตูตัวเอง น.11), (2-0 โดบราซิโนวิช น.15), (2-1 ซัลปินจิดิส จากการยิงจุดโทษ น.28), (3-1 โมฮัมเหม็ด น.78)
อินเตอร์ มิลาน เสมอ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-1 (1-0 ไมคอน น.13), (1-1 ปิซาร์โร น.62)
กลุ่มซี
ชัคเนอร์ โดเนตส์ แพ้ บาร์เซโลนา 1-2 (1-0 อิลซินโญ น.45), (1-1 เมสซี น.87), (1-2 เมสซี น.90)
สปอร์ติง ลิสบอน ชนะ บาเซิล 2-0 (1-0 ซานนี ทำเข้าประตูตัวเอง น.55), (2-0 แดร์เลอิ น.86)
กลุ่มดี
แอตเลติโก มาดริด ชนะ มาร์กเซย 2-1 (1-0 อกูโร น.4), (1-1 เนียง น.16), (2-1 การ์เซีย น.22)
ลิเวอร์พูล ชนะ พีเอสวี ไอน์โฮเฟน 3-1 (1-0 เคาท์ น.4), (2-0 คีน น.34), (3-0 เจอร์ราร์ด น.76), (3-1 โคเวอร์มันส์ น.78)
