เวส บราวน์ ทำเข้าประตูตัวเองทำให้ทีมถูกตามตีเสมอ 1-1 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะมาทำประตูชัยในช่วงครึ่งหลังทำให้สุดท้าย “หงส์แดง” เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ในศึกพรีเมียร์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
ลิเวอร์พูล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล ในฐานะเจ้าบ้าน แม้ว่า สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมและ เฟร์นันโด ตอร์เรส กองหน้าชาวสแปนิชจะหายเจ็บกลับมาแล้วแต่เกมนี้เป็นตัวสำรองก่อน ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าส่ง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กองหน้าตัวใหม่ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้
เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาที แมนฯ ยูไนเต็ดก็เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ อันเดอร์สัน จ่ายบอลมาให้ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้ากรอบเขตโทษไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะตวัดเรียดเข้ากลางมาและเป็น เตเบซ วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาเข้าไปให้ทีมเยือนขึ้นนำก่อน 1-0
น. 11 จากจังหวะเตะมุมของ ลิเวอร์พูล เปิดบอลเข้ามา ฟาน เดอร์ ซาร์ ของทีมเยือนพยายามปัดบอลทิ้งแต่บอลยังหลุดมาถึงเสาสองมี เดิร์ก เคาท์ ยืนอยู่ กองหน้าชาวดัตช์พยายามตวัดยิงเข้าไป แต่นายด่านผีแดงยังตามมาปัดไว้ได้ แต่แล้วเจ้าถิ่นก็มาทำประตูตีเสมอได้อย่างไม่คาดฝันใน น. 26 จากจังหวะที่ อลอนโซ ยิงไกลจากนอกกรอบแล้วบอลแฉลบลอยโด่งเข้ามาในเขตโทษ โกล์แชมป์เก่าพยายามพุ่งปัดทิ้งแต่ดันไปติดขา เวส บราวน์ บอลกระดอนกลับเข้าประตูไปให้หงส์แดงตีเสมอ 1-1
นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบทำประตูหนีห่างออกไปอีกครั้ง หลังจากมีการต่อบอลกันสวยบริเวณริมเขตโทษของเจ้าถิ่น ก่อนจะจ่ายบอลเข้ากลางมาและเป็น เตเบซ เข้ามาซัดด้วยขวาแต่บอลเหินข้ามคานไป หลังจากนั้นกลายเป็นเจ้าถิ่นครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่สุดท้ายทั้งสองทีมก็ทำประตูเพิ่มกันอีกไม่ได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 1-1
เริ่มเกมครึ่งหลัง เจ้าถิ่นมีโอกาสก่อนในน.55 จากจังหวะที่ เดิร์ก เคาท์ ลุยขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงไกลระยะ 35 หลาแต่บอลเรียดเกินไป ฟาน เดอร์ ซาร์ รับสบาย หงส์แดงยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องและนาทีต่อมาจากจังหวะวางบอลยาวไปให้ เบนายูน หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่มุมแคบเกินไปทำให้นายทวารทีมเยือนออกมาปิดมุมไว้ได้
น.61 สเคอร์เทล กองหลังเจ้าถิ่นเติมเกมสูงขึ้นมาได้ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษเต็มแรงแต่บอลก็ยังไปตรงตัวนายทวารชาวดัชต์อีกครั้ง อีก 7 นาทีต่อมา แชมป์เก่ามาได้โอกาสบ้างจากจังหวะที่บอลหลุดมาเข้าทาง ไรอัน กิกส์ ที่เพิ่งจะลงสนามมาในครึ่งหลังได้ซัดลูกใบไม้ร่วงจากนอกกรอบ บอลย้อยเกือบมุดใต้คานเข้าประแต่ เปเป้ เรนา ถอยหลังมาปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
แต่แล้วเจ้าถิ่นก็มาทำประตูขึ้นนำจนได้ใน น.77 จากจังหวะที่ มาสเชราโน ลุยขึ้นมาทางด้านขวาจนถึงเส้นหลัง บอลพันแข้งพันขากองหลังผีแดงก่อนจะหลุดมาเข้าทาง เดิร์ก เคาท์ ที่ขยันวิ่งมาเอาบอลได้ ก่อนจะเปิดเข้ากลางมาให้ บาเบล ที่ยืนอยู่โล่งๆแปด้วยขวาเข้าประตูไปให้ ลิเวอร์พูล นำ 2-1 และจบเกมไปด้วยสกอร์นี้
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรนา, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ชาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ยอสซี เบนายูน, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์, ร็อบบี คีน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินาน, ปาทริซ เอฟรา, เวส บราวน์, เนมันยา วิดิชล, ไมเคิล คาร์ริก, อันเดอร์สัน, พอล สโคลส์, คาร์ลอส เตเบซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
ลิเวอร์พูล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล ในฐานะเจ้าบ้าน แม้ว่า สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมและ เฟร์นันโด ตอร์เรส กองหน้าชาวสแปนิชจะหายเจ็บกลับมาแล้วแต่เกมนี้เป็นตัวสำรองก่อน ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าส่ง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กองหน้าตัวใหม่ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้
เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาที แมนฯ ยูไนเต็ดก็เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ อันเดอร์สัน จ่ายบอลมาให้ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้ากรอบเขตโทษไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะตวัดเรียดเข้ากลางมาและเป็น เตเบซ วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาเข้าไปให้ทีมเยือนขึ้นนำก่อน 1-0
น. 11 จากจังหวะเตะมุมของ ลิเวอร์พูล เปิดบอลเข้ามา ฟาน เดอร์ ซาร์ ของทีมเยือนพยายามปัดบอลทิ้งแต่บอลยังหลุดมาถึงเสาสองมี เดิร์ก เคาท์ ยืนอยู่ กองหน้าชาวดัตช์พยายามตวัดยิงเข้าไป แต่นายด่านผีแดงยังตามมาปัดไว้ได้ แต่แล้วเจ้าถิ่นก็มาทำประตูตีเสมอได้อย่างไม่คาดฝันใน น. 26 จากจังหวะที่ อลอนโซ ยิงไกลจากนอกกรอบแล้วบอลแฉลบลอยโด่งเข้ามาในเขตโทษ โกล์แชมป์เก่าพยายามพุ่งปัดทิ้งแต่ดันไปติดขา เวส บราวน์ บอลกระดอนกลับเข้าประตูไปให้หงส์แดงตีเสมอ 1-1
นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบทำประตูหนีห่างออกไปอีกครั้ง หลังจากมีการต่อบอลกันสวยบริเวณริมเขตโทษของเจ้าถิ่น ก่อนจะจ่ายบอลเข้ากลางมาและเป็น เตเบซ เข้ามาซัดด้วยขวาแต่บอลเหินข้ามคานไป หลังจากนั้นกลายเป็นเจ้าถิ่นครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่สุดท้ายทั้งสองทีมก็ทำประตูเพิ่มกันอีกไม่ได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 1-1
เริ่มเกมครึ่งหลัง เจ้าถิ่นมีโอกาสก่อนในน.55 จากจังหวะที่ เดิร์ก เคาท์ ลุยขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงไกลระยะ 35 หลาแต่บอลเรียดเกินไป ฟาน เดอร์ ซาร์ รับสบาย หงส์แดงยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องและนาทีต่อมาจากจังหวะวางบอลยาวไปให้ เบนายูน หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่มุมแคบเกินไปทำให้นายทวารทีมเยือนออกมาปิดมุมไว้ได้
น.61 สเคอร์เทล กองหลังเจ้าถิ่นเติมเกมสูงขึ้นมาได้ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษเต็มแรงแต่บอลก็ยังไปตรงตัวนายทวารชาวดัชต์อีกครั้ง อีก 7 นาทีต่อมา แชมป์เก่ามาได้โอกาสบ้างจากจังหวะที่บอลหลุดมาเข้าทาง ไรอัน กิกส์ ที่เพิ่งจะลงสนามมาในครึ่งหลังได้ซัดลูกใบไม้ร่วงจากนอกกรอบ บอลย้อยเกือบมุดใต้คานเข้าประแต่ เปเป้ เรนา ถอยหลังมาปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
แต่แล้วเจ้าถิ่นก็มาทำประตูขึ้นนำจนได้ใน น.77 จากจังหวะที่ มาสเชราโน ลุยขึ้นมาทางด้านขวาจนถึงเส้นหลัง บอลพันแข้งพันขากองหลังผีแดงก่อนจะหลุดมาเข้าทาง เดิร์ก เคาท์ ที่ขยันวิ่งมาเอาบอลได้ ก่อนจะเปิดเข้ากลางมาให้ บาเบล ที่ยืนอยู่โล่งๆแปด้วยขวาเข้าประตูไปให้ ลิเวอร์พูล นำ 2-1 และจบเกมไปด้วยสกอร์นี้
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรนา, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ชาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ยอสซี เบนายูน, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์, ร็อบบี คีน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินาน, ปาทริซ เอฟรา, เวส บราวน์, เนมันยา วิดิชล, ไมเคิล คาร์ริก, อันเดอร์สัน, พอล สโคลส์, คาร์ลอส เตเบซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์