เหลืออีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ที่รถแข่งทั้ง 20 คันจะถูกปล่อยลงสู่สังเวียน มารินาเบย์ สตรีทเซอร์กิต ในศึกรถสูตรหนึ่งไนท์เรซ ที่ประเทศสิงคโปร์ ในรอบฝึกซ้อมวันศุกร์ที่ 26 กันยายน ซึ่งก่อนที่เอฟวันครั้งวัติศาสตร์จะเริ่มขึ้น MGR Sport ได้รวบรวม10 ข้อมูลน่ารู้ มาเป็นการเรียกน้ำย่อยสำหรับคอกีฬาความเร็วได้รับทราบกัน
-สิงคโปร์ คือเจ้าภาพจัดแข่งฟอร์มูลา วัน ตอนกลางคืนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากเอฟวันแข่งมาทั้งหมด 800 เรซ ในช่วง 59 ปี ที่มีการรับรองการแข่งขันโดยสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ(เอฟไอเอ)
- มารินาเบย์ สตรีทเซอร์กิต ใช้การแข่งขันแบบขับทวนเข็มนาฬิกา ด้วยระยะทางต่อรอบ 5.067 กิโลเมตร มีโค้งทั้งหมด 23 โค้ง (ซ้าย 13 ,ขวา 10)
-ทางตรงที่ยาวที่สุดในสนามแห่งนี้ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในช่วงออกโค้ง 6 บริเวณ Raffles Boulevard โดยมีจุดแซงที่น่าติดตามอยู่ 3 จุด คือ โค้ง 1 สุดทางตรงยาว,โค้ง 7 บริเวณ Raffles Boulevard และโค้ง 14 บนเส้นทาง Esplanade Drive
- สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ เป็น 1 ใน 3 สนามของรถสูตรหนึ่งฤดูกาลนี้ ที่ใช้การขับแบบทวนเข็มนาฬิกา ต่อจากที่สังเวียนที่บราซิล และตุรกี
- สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ จะแข่งทั้งหมด 61 รอบสนาม ระยะทางรวมทั้งหมด 309.087 กิโลเมตร ขณะที่ความเร็วเฉลี่ยทั่วสนามอยู่ที่ 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ฝ่ายจัดการแข่งขันการันตีว่า ความสว่างของสปอร์ตไลท์ที่ใช้ส่องสว่างตอนแข่งขัน สว่างกว่าไฟในสนามฟุตบอลมาตรฐานถึง 4 เท่า โดยมีความแรงของแสงเทียบเท่าความสว่างในช่วงเวลาบ่าย 4 โมงเย็น
- สายเคเบิลความยาวรวม 108 กิโลเมตร ถูกนำมาใช้เพื่อติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ กว่า 240 จุด ขณะที่ใช้สปอร์ตไลท์ส่องสว่างจำนวนถึง 1,500 ดวงติดตั้งทั่วสนาม โดยใช้กำลังไฟทั้งหมดกว่า 3 ล้านวัตต์
- ธงไฟอิเล็กทรอนิกส์เรืองแสง ถูกนำมาใช้แทนธงสัญลักษณ์สีต่างๆ สำหรับเจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันเป็นครั้งแรก เพื่อความสะดวกของนักขับขณะแข่งขันตอนกลางคืน
-บริดจ์สโตน ค่ายยางยักษ์ใหญ่ ก็เตรียมลงสีสะท้อนแสงชนิดพิเศษลงบนยางทุกเส้นของรถทั้ง 20 คัน เพื่อที่จะให้ผู้ชมที่ชมจากการถ่ายทอดสดได้เห็นถึงความแตกต่างของยางแต่ละชนิดได้ชัดเจนระหว่างวิ่งอยู่ในสนาม
-ผู้ชมที่เข้าชมการแข่งขันรายการนี้ น่าจะมีสูงถึง 100,600 คนต่อวัน และจะทะลุหลัก 300,000 คน ในการแข่งขันทั้ง 3 วัน ตั้งแต่รอบฝึกซ้อมวันศุกร์ ,รอบควอลิฟายวันเสาร์ และรอบแข่งขันจริงวันอาทิตย์