ทีมนักวิทยาศาสตร์เยอรมันบังเอิญพบสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไม่ต่ำกว่า 32 สปีชีส์ สามารถเรืองแสงสีแดงได้ด้วยตัวเอง มีทั้งแดงเชอร์รี แดงเลือดนก แดงทับทิม นักวิจัยคาดว่าเป็นวิธีสื่อสารระหว่างพวกเดียวกัน
สำหนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นิโก มิชิเอลส์ (Nico Michiel) และทีมนักชีววิทยา มหาวิทยาลัยทูบิงเกน (University of Tubingen) ประเทศเยอรมนี บังเอิญพบปลาบางขนิดที่อยู่ใต้ทะเลสามารถเรืองแสงสีแดงได้ และยังมีสิ่งมีชีวิตเรืองแสงโทนสีแดงได้อีกหลายชนิด อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 32 สปีชีส์
มิชิเอลส์และทีมงานสังเกตเห็นปลาและสิ่งมีชีวิตอื่นที่เรืองแสงสีแดงได้โดยบังเอิญ ขณะดำน้ำสำรวจใต้ท้องทะเล เมื่อเขามองผ่านเครื่องกรองที่ปิดกั้นไม่ให้คลื่นแสงสีเขียวและสีน้ำเงินผ่านได้ ทำให้มีเพียงคลื่นแสงสีแดงเท่านั้นที่ผ่านเครื่องกรองและสามารถมองเห็นได้ และทันใดนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็น โลกสีครามใต้ทะเลเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากชนิดที่เปล่งประกายเรืองแสงโทนสีแดงออกมา มีทั้งสีแดงเชอร์รี แดงเลือดนก แดงทับทิม และแดงสนิม
"ตามแนวปะการังใกล้ๆ กับปลาเหล่านั้น เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตเรืองแสงสีแดงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสาหร่าย ปะการัง และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน" มิชิเอลส์ เผย
ทั้งนี้ นักวิจัยได้นำปลาบางชนิดไปทดสอบในห้องทดลอง ก็พบว่าปลาดังกล่าวสามารถเปล่งแสงสีแดงได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เกิดจากการสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์แน่นอน เพราะว่าแสงของดวงอาทิตย์ที่ตามองเห็นและมีความยาวคลื่นมากที่สุดไม่สามารถทะลุผ่านไปใต้ทะเลได้ลึกเกินกว่า 10 เมตร
อย่างไรก็ตาม พวกเขาสันนิษฐานว่าที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เรืองแสงออกมา อาจเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งเพื่อการหาคู่หรือเป็นสัญญาณเตือนภัยให้แก่กัน หรืออาจเป็นวิธีพลางตาจากศัตรูก็เป็นได้
"มันแปลกมากที่ทำให้ตัวเองรอดพ้นสายตาผู้อื่นด้วยการเรืองแสง แต่ปลาที่อาศัยอยู่แถวแนวปะการังมักมีแสงเรืองๆ อยู่รอบๆ ตัวมันอยู่แล้ว ทำให้พวกมันดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ" มิชิเอลส์ กล่าว ซึ่งทีมวิจัยของเขาได้รายงานผลการศึกษาในเรื่องดังกล่าวลงในวารสารบีเอ็มซี อีโคโลจี (BMC Ecology)
สำหนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นิโก มิชิเอลส์ (Nico Michiel) และทีมนักชีววิทยา มหาวิทยาลัยทูบิงเกน (University of Tubingen) ประเทศเยอรมนี บังเอิญพบปลาบางขนิดที่อยู่ใต้ทะเลสามารถเรืองแสงสีแดงได้ และยังมีสิ่งมีชีวิตเรืองแสงโทนสีแดงได้อีกหลายชนิด อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 32 สปีชีส์
มิชิเอลส์และทีมงานสังเกตเห็นปลาและสิ่งมีชีวิตอื่นที่เรืองแสงสีแดงได้โดยบังเอิญ ขณะดำน้ำสำรวจใต้ท้องทะเล เมื่อเขามองผ่านเครื่องกรองที่ปิดกั้นไม่ให้คลื่นแสงสีเขียวและสีน้ำเงินผ่านได้ ทำให้มีเพียงคลื่นแสงสีแดงเท่านั้นที่ผ่านเครื่องกรองและสามารถมองเห็นได้ และทันใดนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็น โลกสีครามใต้ทะเลเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากชนิดที่เปล่งประกายเรืองแสงโทนสีแดงออกมา มีทั้งสีแดงเชอร์รี แดงเลือดนก แดงทับทิม และแดงสนิม
"ตามแนวปะการังใกล้ๆ กับปลาเหล่านั้น เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตเรืองแสงสีแดงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสาหร่าย ปะการัง และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน" มิชิเอลส์ เผย
ทั้งนี้ นักวิจัยได้นำปลาบางชนิดไปทดสอบในห้องทดลอง ก็พบว่าปลาดังกล่าวสามารถเปล่งแสงสีแดงได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เกิดจากการสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์แน่นอน เพราะว่าแสงของดวงอาทิตย์ที่ตามองเห็นและมีความยาวคลื่นมากที่สุดไม่สามารถทะลุผ่านไปใต้ทะเลได้ลึกเกินกว่า 10 เมตร
อย่างไรก็ตาม พวกเขาสันนิษฐานว่าที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เรืองแสงออกมา อาจเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งเพื่อการหาคู่หรือเป็นสัญญาณเตือนภัยให้แก่กัน หรืออาจเป็นวิธีพลางตาจากศัตรูก็เป็นได้
"มันแปลกมากที่ทำให้ตัวเองรอดพ้นสายตาผู้อื่นด้วยการเรืองแสง แต่ปลาที่อาศัยอยู่แถวแนวปะการังมักมีแสงเรืองๆ อยู่รอบๆ ตัวมันอยู่แล้ว ทำให้พวกมันดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ" มิชิเอลส์ กล่าว ซึ่งทีมวิจัยของเขาได้รายงานผลการศึกษาในเรื่องดังกล่าวลงในวารสารบีเอ็มซี อีโคโลจี (BMC Ecology)