เอมมานูเอล อเดบายอร์ ซัดแฮตทริกช่วยให้ อาร์เซนอล บุกเอาชนะ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 4-0 ขณะที่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่กำลังอยู่ช่วงวิกฤตภายในสโมสรถูก ฮัลล์ ซิตี้ ทีมน้องใหม่บุกมาเอาชนะ 2-1 ในศึกพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 0-4 อาร์เซนอล
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เก็บมาได้แล้ว 4 คะแนนจากการลงสนาม 3 นัดหลังสุดและเกมนี้พร้อมเต็มที่เมื่อผู้เล่นตัวจริงอยู่กันครบทีม โดยมี โรเก ซานตา ครูซ กองหน้าปารากวัยเป็นตัวความหวัง ขณะที่ อาร์เซนอล นักเตะในทีมเล่นกันได้อย่างเข้าขาอีกครั้ง พร้อมกับ ธีโอ วัลคอตต์ กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มทำให้เกมรุกของปืนโตวูบวาบทีเดียว
เริ่มเกมขึ้นมาไม่ถึง 8 นาที อาร์เซนอล ก็มาทำประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ วัลคอตต์ รับบอลได้จากบริเวณริมเส้นด้ายซ้าย ก่อนจะเลี้ยงบอลตัดเข้ากลางมาจ่ายให้ ฟาน เพอร์ซี หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษซัดสวนตัวผ่าน โรบินสัน นายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปให้ปืนโตบุกมานำก่อน 1-0
อีกสองนาทีต่อมา แบล็กเบิร์น ทำเกมรุกขึ้นมาบ้างและต่อบอลกันมาถึงเขตโทษของทีมเยือน ก่อนที่ในจังหวะสุดท้ายบอลจะหลุดมาเข้าทาง ซานตา ครูซ ซัดโล่งๆในกรอบเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกไป ด้าน อาร์เซนอล สวนกลับทันทีเมื่อ วัลคอตต์ ได้บอลเลี้ยงขึ้นมาและพยายามปั่นด้วยขวาให้บอลเลี้ยวหนีมือนายด่านเจ้าถิ่นแต่บอลกลับหลุดเสาประตูออกหลังไป
น.32 เจสัน โรเบิร์ต รับบอลได้หน้ากรอบเขตโทษพยายามบังบอลกองหลังของปืนโต ก่อนจะจ่ายย้อนกลับมาให้ เอเมอร์ตัน ซัดด้วยขวาแต่ไปตรงตัว อัลมูเนีย เจ้าถิ่นมามีลุ้นทำประตูตีเสมออีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกระยะ 25 หลา มอร์เทน กัมส์ ปีเตอร์เซน รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายแต่บอลหลุดออกหลังไปอีก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือนก็ทำประตูหนีห่างจากจังหวะที่ เดนิลสัน หลุดเข้ามาทางขวาของกรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้ อเดบายอร์ โถมโหม่งเข้าไปให้ อาร์เซนอล หนีห่าง 2-0 พร้อมกับจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เกมครึ่งหลัง ทีมเยือนยังเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าเมื่อ วัลคอตต์ หลุดขึ้นมาทางเส้นเขตโทษด้านขวาก่อนจะซัดด้วยขวาเต็มแรงแต่เนื่องจากมุมแคบเกินไปทำให้ โรบินสัน ที่ยืนปิดมุมอยู่ป้องกันเอาไว้ได้ อาร์เซนอล ยังเดินเครื่องบุกอย่างต่อเนื่องและเป็นโอกาสของ วัลคอตต์ อีกครั้งเมื่อได้บอลเบิลเร็วมาจาก ฟาน เพอร์ซี แต่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษซัดด้วยขวาหลุดเสาออกไปอีก
หลังจากนั้นเมื่อเจ้าถิ่นเริ่มตั้งเกมได้ทำให้ปืนโตหาโอกาสเจาะเข้าทำประตูลำบาก แต่แล้ว น.79 อาร์เซนอล ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เอบูเอ เติมเกมรุกขึ้นมาหลุดเข้าไปในเขตโทษจนถูกกองหลัง แบล็กเบิร์น สกัดล้มลงไป กรรมการไม่รอช้าเป่าเป็นจุดโทษทันที โดย อเดบายอร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ทีมหนีห่าง 3-0
อีก 5 นาทีต่อมา แบล็กเบิร์น มาได้ลุ้นทำประตูไล่ขึ้นมาจากจังหวะที่ ซานตา ครูซ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือนก่อนจะจ่ายบอลให้ เจสัน โรเบิร์ต ได้ซัดเต็มแรงทำให้ อัลมูเนีย ต้องพุ่งปัดออกหลังไป เกมมาถึงช่วงทดเวลาเจ็บ น.92 อาร์เซนอลก็มาได้ประตูย้ำชัยชนะ เมื่อ อเดบายอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ โรบินสัน กระชากบอลหนีไปได้ก่อนบรรจงยิงเข้าไปทำให้จบเกม อาร์เซนอล บุกมาเอาชนะ 4-0 พร้อมกับคว้าสามแต้มสำคัญ
ส่วนผลการแข่งขันของคู่อื่น นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่กำลังมีปัญหาภายในทีม แพ้ให้กับ น้องใหม่อย่าง ฮัลล์ ซิตี้ 1-2 ขณะที่ เดโฟ ซัดประตูชัยในช่วงก่อนหมดเวลาช่วยให้ ปอร์ทสมัธ เปิดบ้านเอาชนะ มิดเดิลสโบรห์ 2-1 ส่วน เวสต์ บรอมวิช อัลเบียนส์ เปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดไปอย่างสุดมัน 3-2
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แบล็กเบิร์น : พอล โรบินสัน, คริสโตเฟอร์ แซมบา, สตีเฟน วอร์น็อค, เบรตต์ เอเมอร์ตัน, แดนนี ซิมป์สัน, ไรอัน เนลเซน, คีธ แอนดรูส์, สตีเวน รีด, มอร์เทน กัมส์ ปีเตอร์เซน, โรเก ซานตา ครูซ, เจสัน โรเบิร์ตส์
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, โคโล ตูเร, กาเอล กลีชี, บาการี ซานญา, วิลเลียม กัลลาส, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, เอมมานูเอล เอบูเอ, ธีโอ วัลคอตต์, เอมมานูเอล อเดบายอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 (0-1 เตเบซ น.3), (1-1 บราวน์ ทำเข้าประตูตัวเอง น.26), (2-1 บาเบล น.77)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ อาร์เซนอล 0-4 (0-1 ฟาน เพอร์ซี น.8), (0-2 อเดบายอร์ น.45), (0-3 อเดบายอร์ น.82), (0-4 อเดบายอร์ น.92)
ฟูแล่ม ชนะ โบลตัน 2-1 (1-0 เกรา น.15), (2-0 ซาโมรา น.42), (2-1 เดวีย์ส น.82)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ ฮัลล์ ซิตี้ 1-2 (0-1 คิง จากการยิงจุดโทษ น.34), (0-2 คิง น.54), (1-2 ซิสโก น.81)
ปอร์ทสมัธ ชนะ มิดเดิลสโบรห์ 2-1 (0-1 มิโด น.24), (1-1 เดโฟ น.59), (2-1 เดโฟ น.87)
เวสต์ บรอมวิช อัลเบียนส์ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-2 (1-0 มอริสัน น.3), (1-1 โนเบิล น.29), (1-2 นีลล์ น.35), (2-2 เบดนาร์ น.37), (3-2 บรันท์ น.83)
วีแกน แอธเลติก เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 (0-1 บรัมเบิล ทำเข้าประตูตัวเอง น.15), (1-1 ซากี น.78)
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 0-4 อาร์เซนอล
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เก็บมาได้แล้ว 4 คะแนนจากการลงสนาม 3 นัดหลังสุดและเกมนี้พร้อมเต็มที่เมื่อผู้เล่นตัวจริงอยู่กันครบทีม โดยมี โรเก ซานตา ครูซ กองหน้าปารากวัยเป็นตัวความหวัง ขณะที่ อาร์เซนอล นักเตะในทีมเล่นกันได้อย่างเข้าขาอีกครั้ง พร้อมกับ ธีโอ วัลคอตต์ กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มทำให้เกมรุกของปืนโตวูบวาบทีเดียว
เริ่มเกมขึ้นมาไม่ถึง 8 นาที อาร์เซนอล ก็มาทำประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ วัลคอตต์ รับบอลได้จากบริเวณริมเส้นด้ายซ้าย ก่อนจะเลี้ยงบอลตัดเข้ากลางมาจ่ายให้ ฟาน เพอร์ซี หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษซัดสวนตัวผ่าน โรบินสัน นายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปให้ปืนโตบุกมานำก่อน 1-0
อีกสองนาทีต่อมา แบล็กเบิร์น ทำเกมรุกขึ้นมาบ้างและต่อบอลกันมาถึงเขตโทษของทีมเยือน ก่อนที่ในจังหวะสุดท้ายบอลจะหลุดมาเข้าทาง ซานตา ครูซ ซัดโล่งๆในกรอบเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกไป ด้าน อาร์เซนอล สวนกลับทันทีเมื่อ วัลคอตต์ ได้บอลเลี้ยงขึ้นมาและพยายามปั่นด้วยขวาให้บอลเลี้ยวหนีมือนายด่านเจ้าถิ่นแต่บอลกลับหลุดเสาประตูออกหลังไป
น.32 เจสัน โรเบิร์ต รับบอลได้หน้ากรอบเขตโทษพยายามบังบอลกองหลังของปืนโต ก่อนจะจ่ายย้อนกลับมาให้ เอเมอร์ตัน ซัดด้วยขวาแต่ไปตรงตัว อัลมูเนีย เจ้าถิ่นมามีลุ้นทำประตูตีเสมออีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกระยะ 25 หลา มอร์เทน กัมส์ ปีเตอร์เซน รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายแต่บอลหลุดออกหลังไปอีก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือนก็ทำประตูหนีห่างจากจังหวะที่ เดนิลสัน หลุดเข้ามาทางขวาของกรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายเข้ากลางให้ อเดบายอร์ โถมโหม่งเข้าไปให้ อาร์เซนอล หนีห่าง 2-0 พร้อมกับจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เกมครึ่งหลัง ทีมเยือนยังเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าเมื่อ วัลคอตต์ หลุดขึ้นมาทางเส้นเขตโทษด้านขวาก่อนจะซัดด้วยขวาเต็มแรงแต่เนื่องจากมุมแคบเกินไปทำให้ โรบินสัน ที่ยืนปิดมุมอยู่ป้องกันเอาไว้ได้ อาร์เซนอล ยังเดินเครื่องบุกอย่างต่อเนื่องและเป็นโอกาสของ วัลคอตต์ อีกครั้งเมื่อได้บอลเบิลเร็วมาจาก ฟาน เพอร์ซี แต่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษซัดด้วยขวาหลุดเสาออกไปอีก
หลังจากนั้นเมื่อเจ้าถิ่นเริ่มตั้งเกมได้ทำให้ปืนโตหาโอกาสเจาะเข้าทำประตูลำบาก แต่แล้ว น.79 อาร์เซนอล ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เอบูเอ เติมเกมรุกขึ้นมาหลุดเข้าไปในเขตโทษจนถูกกองหลัง แบล็กเบิร์น สกัดล้มลงไป กรรมการไม่รอช้าเป่าเป็นจุดโทษทันที โดย อเดบายอร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ทีมหนีห่าง 3-0
อีก 5 นาทีต่อมา แบล็กเบิร์น มาได้ลุ้นทำประตูไล่ขึ้นมาจากจังหวะที่ ซานตา ครูซ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือนก่อนจะจ่ายบอลให้ เจสัน โรเบิร์ต ได้ซัดเต็มแรงทำให้ อัลมูเนีย ต้องพุ่งปัดออกหลังไป เกมมาถึงช่วงทดเวลาเจ็บ น.92 อาร์เซนอลก็มาได้ประตูย้ำชัยชนะ เมื่อ อเดบายอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ โรบินสัน กระชากบอลหนีไปได้ก่อนบรรจงยิงเข้าไปทำให้จบเกม อาร์เซนอล บุกมาเอาชนะ 4-0 พร้อมกับคว้าสามแต้มสำคัญ
ส่วนผลการแข่งขันของคู่อื่น นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่กำลังมีปัญหาภายในทีม แพ้ให้กับ น้องใหม่อย่าง ฮัลล์ ซิตี้ 1-2 ขณะที่ เดโฟ ซัดประตูชัยในช่วงก่อนหมดเวลาช่วยให้ ปอร์ทสมัธ เปิดบ้านเอาชนะ มิดเดิลสโบรห์ 2-1 ส่วน เวสต์ บรอมวิช อัลเบียนส์ เปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดไปอย่างสุดมัน 3-2
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แบล็กเบิร์น : พอล โรบินสัน, คริสโตเฟอร์ แซมบา, สตีเฟน วอร์น็อค, เบรตต์ เอเมอร์ตัน, แดนนี ซิมป์สัน, ไรอัน เนลเซน, คีธ แอนดรูส์, สตีเวน รีด, มอร์เทน กัมส์ ปีเตอร์เซน, โรเก ซานตา ครูซ, เจสัน โรเบิร์ตส์
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, โคโล ตูเร, กาเอล กลีชี, บาการี ซานญา, วิลเลียม กัลลาส, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, เอมมานูเอล เอบูเอ, ธีโอ วัลคอตต์, เอมมานูเอล อเดบายอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 (0-1 เตเบซ น.3), (1-1 บราวน์ ทำเข้าประตูตัวเอง น.26), (2-1 บาเบล น.77)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ อาร์เซนอล 0-4 (0-1 ฟาน เพอร์ซี น.8), (0-2 อเดบายอร์ น.45), (0-3 อเดบายอร์ น.82), (0-4 อเดบายอร์ น.92)
ฟูแล่ม ชนะ โบลตัน 2-1 (1-0 เกรา น.15), (2-0 ซาโมรา น.42), (2-1 เดวีย์ส น.82)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ ฮัลล์ ซิตี้ 1-2 (0-1 คิง จากการยิงจุดโทษ น.34), (0-2 คิง น.54), (1-2 ซิสโก น.81)
ปอร์ทสมัธ ชนะ มิดเดิลสโบรห์ 2-1 (0-1 มิโด น.24), (1-1 เดโฟ น.59), (2-1 เดโฟ น.87)
เวสต์ บรอมวิช อัลเบียนส์ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-2 (1-0 มอริสัน น.3), (1-1 โนเบิล น.29), (1-2 นีลล์ น.35), (2-2 เบดนาร์ น.37), (3-2 บรันท์ น.83)
วีแกน แอธเลติก เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 (0-1 บรัมเบิล ทำเข้าประตูตัวเอง น.15), (1-1 ซากี น.78)