เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ “ราชินีคืนบัลลังก์”

“เพียงแค่ได้มายืนอยู่ในรอบสุดท้ายของการแข่งขันฉันก็มีความสุขแล้ว ที่สำคัญนี่คือแมทช์ที่ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะนี่คืออีกครั้งหนึ่งที่นักเทนนิสอเมริกันได้กลับมายืนอยู่ในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันยูเอสโอเพ่น” นี่คือคำให้สัมภาษณ์ของเซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ก่อนหน้าที่เธอจะลงสนามในรอบชิงชนะเลิศ และกลายเป็นเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลมสุดท้ายของฤดูกาลคนล่าสุด

นับตั้งแต่คว้าแชมป์ออสเตรเลี่ยนโอเพ่นในปี 2007 นี่คืออีกครั้งที่แฟนเทนนิสได้เห็น เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ โยน แร็กเก็ตขึ้นฟ้าพร้อมกระโดดโลดเต้นและกรีดร้องด้วยความยินดีประหนึ่งว่านี่คือแกรนด์สแลมแรกในชีวิต ทั้งที่ในความเป็นจริงนี่คือโทรฟี่ ยูเอส โอเพ่นใบที่สามของเซเรน่า (1999,2002 และ 2008) เป็นแชมป์แกรนด์สแลมครั้งที่ 9 แต่ความที่ห่างหายจากเซนเตอร์คอร์ตของสนาม บิลลี่ จีน คิงส์มานานนี่คือผลงานที่มิได้สร้างความสุขใจให้กับเธอเพียงคนเดียวหากแต่ยังเพื่อแผ่ไปถึงบรรดาเพื่อนร่วมชาติที่อยากเห็นวงการเทนนิสหญิงอเมริกันกลับมาเกรียงไกรอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ แกรนด์สแลมที่มีชื่อว่า “ยูเอส โอเพ่น”

ย้อนกลับไปที่ชัยชนะครั้งสุดท้ายของ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ กับโทรฟี่ยูเอส โอเพ่น ดูเหมือนว่าความสำเร็จดังกล่าวจะไม่หมุนกลับมาหาตัวเธอเลย เพราะหลังจากนั้นอีกสองปี ชื่อและอันดับของนักเทนนิสผิวสีจากฟลอริด้า ก็ร่วงกราวส่วนหนึ่งมาจากอาการบาดเจ็บ อีกส่วนมาจากความสนใจของเธอเริ่มหันเหไปสู่วงการบันเทิง ร่วมไปถึงกิจการส่วนตัวกับเสื้อผ้าแบรนด์ตนเองที่ใช้ชื่อว่า เอเรเนส (Arenes) จนกระทั่ง วีนัส วิลเลี่ยมส์ พี่สาวที่ยังคงสร้างผลงานอย่างต่อเนื่องในแวดวงลูกสักหลาดถึงกับเคยออกปากว่า “อยากให้น้องสาวกลับมามีความมุ่งมั่นในเทนนิสเหมือนเมื่อก่อน”

จากเซเรน่า ที่ห่างหายไปเพราะอาการบาดเจ็บเธอหวนคืนสู่ความสำเร็จอีกครั้งในปี 2005 ด้วยแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น และพยายามรักษาอันดับของตนเองในดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ไม่ให้ร่วงหลุดจากท้อปร้อยแม้ว่าในฤดูกาล 2006 เธอจะไม่สามารถไปถึงเพชรยอดมงกุฎของแกรนด์สแลมทั้งสี่รายการได้ แต่รุ่งขึ้นในปี 2007 เซเรน่า ก็กลับมาทำให้ผู้คนในวงการพากันแปลกใจอีกครั้งหลังจากล้มนักเทนนิสสาวผู้ร้อนแรงแห่งวงการอย่าง มาเรีย ชาราโปว่า พร้อมคว้าแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่นมาครองได้อีกหนึ่งสมัย

สำหรับยูเอส โอเพ่น 2008 เซเรน่า เดินลงสู่สนามในรอบแรกในฐานะมือวางอันดับที่ 4 ของรายการขณะที่อันดับของเธอในดับเบิ้ลยูทีเอนั้นอยู่ในลำดับที่ 3 ของโลกแม้ว่าเธอจะเป็นหนึ่งในตัวเก็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์แต่ชื่อของเซเรน่า ก็ยังไม่โดดเด่นไปกว่าดาวรุ่งสองรายจากเซอร์เบีย อนา อิวาโนวิช ในฐานะมือหนึ่งของโลกและเยเลน่า แยนโควิช ซึ่งรายแรกนั้นพลาดท่าร่วงตกจากดรอว์ชีตส์ไปตั้งแต่รอบสอง ขณะที่ เยเลน่า ผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศ

ส่วนเซเรน่านั้น ยูเอส โอเพ่นครั้งนี้เธอผ่านเข้าสู่เซนเตอร์คอร์ตบิลลี่ จีน คิงส์ ชนิดไม่เสียเซตมีใกล้เคียงอยู่เพียงครั้งเดียวเมื่อครั้งลงดวบแร็กเก็ตกับพี่สาว วีนัส วิลเลี่ยมส์ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนที่เธอจะเอาชนะไปด้วยการเล่นสองไทเบรกจนกระทั่งมาเจอกับ จอมเสิร์ฟหนักอย่าง “เจเจ” ซึ่งการต่อสู้กันตลอดทั้งสองเซต นั้นเซเรน่า ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นใช้ประสบการณ์และชั้นเชิงที่เหนือกว่าต้อนสาวเซิร์บจนหมดรูป พ่ายไปด้วยสกอร์ 2 -0 เซตสกอร์ 6-4 และ 7-5

วินาทีแห่งความดีใจ เซเรน่า แสดงความรู้สึกออกมาจนหมดหัวใจทำให้เธอต้องเอ่ยปากเอ่ยปากขอโทษต่อ แยนโควิช ที่ออกอาการมากเกินไป แต่ทุกคนเข้าใจความรู้สึกจากนักเทนนิสสาววัย 26 ปีจากฟลอริด้าเป็นอย่างดีและต่างก็คิดเหมือนกันว่านี่คือความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่น เธอไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากขอโทษแต่อย่างใด เพราะนี่คือการคว้าแชมป์ใน ฟลัชชิ่ง เมโดวส์ เป็นสมัยที่สาม นับตั้งแต่ปี 2002 ชื่อ “เซเรน่า วิลเลี่ยมส์”ไม่ได้ปรากฏในรอบชิงชนะเลิศอีกเลยจนถึงการแข่งขันในครั้งนี้

ที่สำคัญความสำเร็จจากแชมป์แกรนด์สแลมรายการสุดท้ายของปียังการันตีด้วยว่านักเทนนิสหญิงจากสหรัฐฯ จะขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2003 ทั้งหมดนี้คือความสำเร็จและการหวนคืนสู่บัลลังก์ราชินีลูกสักหลาดดังที่ เยเลน่า แยนโควิช กล่าวทิ้งท้ายถึง แชมป์หญิงเดี่ยวยูเอสโอเพ่น คนล่าสุดไว้ว่า “"การแข่งขันนัดนี้ เซเรน่า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเธอเล่นได้ดีชนิดไม่มีที่ติเลยทีเดียว"