"กระทิงดุ" สเปน แชมป์ยุโรปทีมล่าสุด ยังคงครองตำแหน่งทีมลูกหนังเบอร์หนึ่งของโลกเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน จากการประกาศผลการจัดอันดับของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา
ขุนพลจากแดนกระทิง เพิ่งถล่ม เดนมาร์ก 3-0 ในเกมกระชับมิตรเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งแม้ว่าบรรดาทีมในยุโรปจะยังไม่มีกำหนดลงหวดอย่างเป็นทางการจนกระทั่งถึงศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทว่า สเปน ก็ยังคงนั่งแท่นหมายเลขหนึ่งของโลก เหนือ "แชมป์โลก" อิตาลี และ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี รองแชมป์ยูโร 2008
ทั้งนี้ พลพรรคอัซซูรี ขยับขึ้นรั้งอันดับ 2 จากผลงานเก่าๆ ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดทำได้แค่เสมอ ออสเตรีย 2-2 ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” ที่เพิ่งชนะ เบลเยียม 2-0 เมื่อเดือนที่แล้ว แต่กลับร่วงหล่นลงสู่อันดับ 3
ส่วนหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ ตุรกี ที่ได้ขยับเข้าสู่ท็อปเทนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี จากผลงานเข้าถึงรอบตัดเชือกยูโร 2008 โดยมาแทน รัสเซีย ที่ร่วงไปอยู่อันดับ 12
ด้าน “แซมบ้า” บราซิล เป็นทีมที่ไม่ได้มาจากทวีปยุโรปที่มีอันดับสูงสุด โดยอยูในอันดับที่ 6 ตามมาด้วย "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา คู่ปรับร่วมถิ่นอเมริกาใต้ ที่แม้จะเพิ่งคว้าเหรียญทอง "ปักกิ่งเกมส์" มาครอง แต่ศึกลูกหนังชายโอลิมปิกกำหนดใช้ชุดผู้เล่นอายุต่ำกว่า 23 ปี ดังนั้นจึงไม่นับคะแนนตามระบบการจัดอันดับของฟีฟ่า
สำหรับทีมชาติไทยยังมีอันดับสูงที่สุดจากทีมในย่านอาเซียน โดยหล่นลงมา 2 อันดับจาก 112 ไปอยู่ที่อันดับ 114 ส่วนอันดับสูงที่สุดของเอเชียคือ ญี่ปุ่น อยู่ในอันดับ 35
ผลการจัดอันดับทีมฟุตบอลโลกของฟีฟ่าที่ประกาศเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2551 มีดังนี้ (ในวงเล็กคืออันดับเมื่อเดือนที่แล้ว)
1. (1) สเปน
2. (3) อิตาลี
3. (2) เยอรมนี
4. (4) ฮอลแลนด์
5. (5) โครเอเชีย
6. (6) บราซิล
7. (7) อาร์เจนตินา
8. (8) สาธารณรัฐเช็ก
9. (9) โปรตุเกส
10. (13) ตุรกี
11. (12) ฝรั่งเศส
12. (10) รัสเซีย
13. (11) โรมาเนีย
14. (15) แคเมอรูน
15. (14) อังกฤษ
16. (16) สกอตแลนด์
16. (17) บัลแกเรีย
18. (18) กรีซ
19. (20) อิสราเอล
20. (19) กานา
35. (35) ญี่ปุ่น
51. (53) เกาหลีใต้
114. (112) ไทย
ขุนพลจากแดนกระทิง เพิ่งถล่ม เดนมาร์ก 3-0 ในเกมกระชับมิตรเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งแม้ว่าบรรดาทีมในยุโรปจะยังไม่มีกำหนดลงหวดอย่างเป็นทางการจนกระทั่งถึงศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทว่า สเปน ก็ยังคงนั่งแท่นหมายเลขหนึ่งของโลก เหนือ "แชมป์โลก" อิตาลี และ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี รองแชมป์ยูโร 2008
ทั้งนี้ พลพรรคอัซซูรี ขยับขึ้นรั้งอันดับ 2 จากผลงานเก่าๆ ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดทำได้แค่เสมอ ออสเตรีย 2-2 ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” ที่เพิ่งชนะ เบลเยียม 2-0 เมื่อเดือนที่แล้ว แต่กลับร่วงหล่นลงสู่อันดับ 3
ส่วนหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ ตุรกี ที่ได้ขยับเข้าสู่ท็อปเทนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี จากผลงานเข้าถึงรอบตัดเชือกยูโร 2008 โดยมาแทน รัสเซีย ที่ร่วงไปอยู่อันดับ 12
ด้าน “แซมบ้า” บราซิล เป็นทีมที่ไม่ได้มาจากทวีปยุโรปที่มีอันดับสูงสุด โดยอยูในอันดับที่ 6 ตามมาด้วย "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา คู่ปรับร่วมถิ่นอเมริกาใต้ ที่แม้จะเพิ่งคว้าเหรียญทอง "ปักกิ่งเกมส์" มาครอง แต่ศึกลูกหนังชายโอลิมปิกกำหนดใช้ชุดผู้เล่นอายุต่ำกว่า 23 ปี ดังนั้นจึงไม่นับคะแนนตามระบบการจัดอันดับของฟีฟ่า
สำหรับทีมชาติไทยยังมีอันดับสูงที่สุดจากทีมในย่านอาเซียน โดยหล่นลงมา 2 อันดับจาก 112 ไปอยู่ที่อันดับ 114 ส่วนอันดับสูงที่สุดของเอเชียคือ ญี่ปุ่น อยู่ในอันดับ 35
ผลการจัดอันดับทีมฟุตบอลโลกของฟีฟ่าที่ประกาศเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2551 มีดังนี้ (ในวงเล็กคืออันดับเมื่อเดือนที่แล้ว)
1. (1) สเปน
2. (3) อิตาลี
3. (2) เยอรมนี
4. (4) ฮอลแลนด์
5. (5) โครเอเชีย
6. (6) บราซิล
7. (7) อาร์เจนตินา
8. (8) สาธารณรัฐเช็ก
9. (9) โปรตุเกส
10. (13) ตุรกี
11. (12) ฝรั่งเศส
12. (10) รัสเซีย
13. (11) โรมาเนีย
14. (15) แคเมอรูน
15. (14) อังกฤษ
16. (16) สกอตแลนด์
16. (17) บัลแกเรีย
18. (18) กรีซ
19. (20) อิสราเอล
20. (19) กานา
35. (35) ญี่ปุ่น
51. (53) เกาหลีใต้
114. (112) ไทย