“เดอะ ซัน” สื่อดังแดนผู้ดี รายงานว่า หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี กุนซือทีม เชลซี ออกอาการหัวเสียที่บอร์ดบริหารของทีมไม่ยอมเพิ่มเงินอีกแค่ 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 248 ล้านบาท) จนทำให้เสีย โรบินโญ เป้าหมายคนสำคัญไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี คู่ปรับร่วมพรีเมียร์ลีกแบบหน้าตาเฉย
เดิมที “สิงห์บลูส์” เป็นทีมที่มีโอกาสคว้าตัวสตาร์ชาวบราซิเลียนมาร่วมทีมมากที่สุด หลังเจ้าตัวแสดงความปรารถนาย้ายออกจาก รีล มาดริด เพื่อมาเล่นยังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึงขนาดที่ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงค่าตัวกันได้แล้วที่ 28.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,760 ล้านบาท) ทว่า ทีมดังจากกรุงลอนดอน กลับแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม จัดแจงผลิตเสื้อที่ปักชื่อของ โรบินโญ นำออกขายทางอินเทอร์เน็ต จนสร้างความโกรธแค้นให้กับบอร์ดบริหารทีม “ชุดขาว” เป็นอย่างมาก ถึงขั้นดำเนินการล้มเลิกข้อตกลงดังกล่าวในที่สุด
แม้ก่อนหน้านี้ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติบราซิล จะกัดฟันยืนยันว่า การไม่ได้ตัวแกนรุกจอมเทคนิควัย 24 ปี มาร่วมทีม ไม่ส่งผลกระทบต่อโอกาสในการลุ้นแชมป์
จนกระทั่งในวันสุดท้ายที่ตลาดซื้อขายจะปิดลง ผลปรากฏว่า มหาอำนาจลูกหนังแดนกระทิงดุ ตอบตกลงขาย โรบินโญ ให้กับ “เรือใบสีฟ้า” ด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,015 ล้านบาท) ส่งผลให้ “บิ๊กฟิล” ตั้งข้อสงสัยไปถึงทั้ง ปีเตอร์ เคนยอน ซีอีโอสโมสร และ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม ว่า เหตุใดถึงไม่กล้าเพิ่มเงินอีกแค่ 4 ล้านปอนด์ เพื่อแย่งชิงตัวอดีตดาวเตะซานโตสมาร่วมทีม
โดยแหล่งข่าววงในทีม เชลซี เปิดเผยผ่าน เดอะ ซัน ว่า “เขา (สโคลารี) พยายามเป็นมืออาชีพที่สุดด้วยการไม่ไปยุ่งกับบอร์ดบริหาร แต่ในที่สุดทีมก็เสียโอกาสไป เชลซี ไม่เคยมีปัญหากับการจ่ายเงินในระดับนี้เพื่อซื้อนักเตะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าบางคนอาจจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม”
“เฟลิเป เข้าใจว่า เงินมีจำนวนจำกัด แต่ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกว่าบางทีเขาอาจไม่ได้เน้นย้ำให้สโมสรได้ทราบถึงความต้องการของเขามากนัก เขาซื้อ เดโก มาด้วยราคา 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 496 ล้านบาท) ตลอดจนแสดงให้เห็นมาตลอดว่า โรบินโญ สำคัญต่อแผนการสร้างทีมในซีซันนี้ของเขาเพียงใด ดังนั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของสโมสรที่ไม่ยอมเพิ่มเงินกับอีกแค่ 4 ล้านปอนด์ เพื่อให้ได้นักเตะมาร่วมทีม” แหล่งข่าวคนเดิม ระบุ
