แอนดี รอดดิก มือ 8 ของโลกจากสหรัฐอเมริกาเปิดเผยหลังจากชนะฟาบริช ซองโตโร จอมเก๋าวัย 35 ปี ผ่านเข้ารอบ 2 เทนนิส ยูเอส โอเพน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า จอห์น รอดดิก พี่ชายแท้ๆของเขาได้หมดหน้าที่ของการเป็นโค้ชส่วนตัวไปตั้งแแต่จบทัวร์เมนต์ที่ วอชิงตัน เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเเล้ว โดย "เอ-ร็อด" เปิดเผยว่า การแยกทางดังกล่าวเป็นการจากกันด้วยดีโดยที่ความสัมพันธ์ในครอบครัวยังคงเหมือนเดิม
"ตามความคิดผมนะ เขาได้รับค่าชดเชย ส่วนผมก็ต้องเดินหน้าต่อไป บทสนทนาระหว่างเราจบลงง่ายมาก" รอดดิก กล่าวหลังจากถล่ม ซองโตโร 3 เซตรวด
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี รอดดิก ก็เพิ่งจะเเยกทางกับอดีตโค้ช จิมมี่ คอนเนอร์ส ซึ่งเคยเป็นมือ 1 โลกไป ก่อนที่ จอห์น รอดดิก อดีตนักเทนนิสวัย 32 ปีจะเข้ามาโค้ชให้และแยกทางไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
โดยระหว่างการแข่งขัน ยูเอส โอเพนในปีนี้ รอดดิก ได้แพตทริก เเม็คเอนโรว์ กัปตันทีมเดวิส คัพสหรัฐมาช่วยโค้ชให้โดยเฉพาะ