ทัพนักกีฬาทีมจาเมก้า ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงถูกเรียกให้ไปตรวจโด็ปบ่อยครั้งจนผิดปกตินับตั้งแต่เดินทางมาถึงกรุงปักกิ่ง พร้อมระบุอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของนักกีฬา
ทั้งนี้ ดอน อันเดอร์สัน หัวหน้านักกีฬาทีมจาเมก้า เปิดเผยว่าในช่วง 5 วันที่ผ่านมามีนักกีฬาของทีมมากกว่า 32 คนแล้วที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือดและปัสสาวะ อีกทั้งในช่วง 7 วันมีนักกีฬาจาเมก้าบางรายถูกจับตรวจไปถึง 3 ครั้งเลยทีเดียว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่ทีมเป็นอย่างมาก
"เรากังวลว่ามันจะมีผลกระทบต่อนักกีฬาของเรา" อันเดอร์สัน กล่าวผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ส "เรารู้สึกว่ามีรายชื่อคนที่โดยตรวจมากมายเหลือเกิน และเราเห็นว่ามันผิดปกติอย่างแรง"
ก่อนหน้านี้ อซาฟา พาวล์ อดีตเจ้าของสถิติโลกวิ่ง 100 เมตรของจาเมก้า ออกมาติงว่าเจ้าหน้าที่ไอโอซีเรียกทั้งตัวเขา, มิชาเอล ฟราเตอร์ และ อูเซน โบลต์ ให้ไปตรวจสารกระตุ้นบ่อยครั้งเหลือเกิน ตลอดจนเกรงว่าด้วยจำนวนเลือดที่เสียไปมากอาจส่งผลกระทบต่อศักยภาพและสมรรถภาพร่างกายของตัวเองและเพื่อนร่วมทีม
ขณะที่ หัวหน้านักกีฬาจาเมก้า ยังกล่าวต่ออีกว่า "มันมากเกินไปจริงๆ ไอโอซีเพ่งเล็งมาที่เราพวกเขา (เจ้าหน้าที่) นำตัวอย่างเลือดของนักกีฬาเราไปเป็นจำนวนมาก นี่ไม่ใช่การประท้วงหรือเรียกร้องใดๆ แต่เราต้องการบอกให้รู้ว่ามันผิดปกติมากก็แค่นั้น"
ในศึกโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 29 คณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือไอโอซีเพิ่มจำนวนการตรวจตราการใช้สาระกระตุ้นขึ้นมาเป็น 4,500 ราย ซึ่งมากกว่า เอเธนส์เกมส์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่สุ่มตรวจเพียง 3,500 รายเท่านั้น และจนถึงตอนนี้พบนักกีฬาที่มีผลตรวจเป็นบวกเพียงแค่คนเดียว คือ มาริเบล โมเรโน นักปั่นจักรยานจากสเปน