คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
ในโลกแห่งการติดต่อสื่อสารอันไร้ขอบเขตเหมือนทุกวันนี้ แน่นอนว่าต้องมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงของกระแสทางด้านความคิดและการกระทำ ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวได้กระทบชิ่งมายังศึกยัดห่วงระดับโลกอย่าง NBA ลีกที่นักบาสเกตบอลทุกคนใฝ่ฝันขอเข้าไปมีส่วนร่วมสักครั้งในชีวิต
นอกเหนือจากพรสวรรค์ที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่มวลมนุษย์มากน้อยไม่เท่ากัน ต้องยอมรับในส่วนของกายภาค “เทคโนโลยี” ณ วันนี้สามารถแปลงสภาพจากคนเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ได้ในระยะเวลาไม่นาน ด้านวงการกีฬา องค์ความรู้ทาง “วิทยาศาสตร์การกีฬา” มีส่วนช่วยให้นักกีฬาหลายคนพัฒนาฝีมือขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ นี่จึงเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่มีนักบาสฯ จากทั่วโลกมีโอกาสหลั่งไหลเข้าสู่ NBA มากขึ้น
อีกทั้งด้วยนโยบายการเปิดตลาดให้ครอบคลุมในหลายทวีป นักกีฬาจาก เอเชีย, ยุโรป หรือแม้แต่ แอฟริกา ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางธุรกิจ หลายคนจึงได้เข้ามาสั่งสมประสบการณ์ใน NBA ถ้าของพี่ดีจริง ก็มีโอกาสปักหลักโกยเงินโกยทองเข้ากระเป๋ากันยาวๆ แต่ถ้าฝีมือไม่ถึงขั้น พวกเขาเหล่านั้นยังพอมีทางเลือกเมื่อลีกอาชีพในยุโรปพร้อมรับเทิร์นของมือ 2 ไปดัดเหลี่ยมดัดฝีมือ
แม้ชื่อชั้นของหลายทีมยุโรปอาจเทียบไม่ได้กับเฟรนไชส์แบรนด์ดังๆ ใน NBA อย่าง แอลเอ เลเกอร์ส, ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส หรือ บอสตัน เซลติกส์ ที่สามารถเรียกเงินจากกระเป๋าของแฟนๆ ได้นักต่อนัก แต่หากมองกันให้ดี ทีมเหล่านั้นมีรากฐานที่แข็งแกร่งจากแฟนยัดห่วงที่ให้การสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นไม่แพ้ฟุตบอล ที่สำคัญยังมี “เงินถุงเงินถัง” ที่สามารถโน้มน้าวใจให้สตาร์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเล่นให้อีกด้วย
บอสยาน นัคบาร์ ไม่ประสบความสำเร็จใน NBA นับตั้งแต่ถูกดราฟท์เข้าลีกในอันดับ 15 เมื่อหกปีก่อนโดย ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ แต่ตอนนี้ผู้เล่นวัย 28 ปี สลัดคราบผู้เล่น นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ ย้ายไปเล่นให้ ดินาโม มอสโค เซ็นสัญญา 3 ปี รับทรัพย์กันไป 14.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 470 ล้านบาท) เป็นค่าจ้างก้อนโตที่ฟอร์เวิร์ดนำเข้าจากสโลวีเนีย คงหาไม่ได้มากขนาดนี้อีกแล้วหากยังปักหลักเล่นในลีกเมืองมะกัน
ล่าสุด จอช ชิลด์เดรสส์ สวิงแมนดาวรุ่งเมินข้อเสนอจาก แอตแลนตา ฮอว์คส เป็นสัญญา 5 ปี 34 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1,100 ล้านบาท) เก็บกระเป๋าโยกไปอยู่กับ โอลิมเปียกอส ยอดทีมแห่งลีกกรีซ โดยมีการเซ็นสัญญากันแค่ 3 ปี แต่ค่าจ้างสูงเหยียบ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 660 ล้านบาท) พร้อมอ็อปชั่นที่น่าสนใจคือ ชิลด์เดรสส์ ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่สตางค์แดงเดียว และก็ได้สิทธิย้ายทีมได้หลังจบแต่ละฤดูกาล
ดังนั้น ผู้เล่นระดับเกรด 2 หรือสำรองดีๆ ไม่จำเป็นต้องง้อให้ต้นสังกัดใน NBA ยื่นข้อเสนอ Mid-level exception ระดับ 5.585 ล้านเหรียญสหรัฐในฤดูกาล 2008/09 มาให้อีกแล้วในเมื่อทางเลือกเป็นราชสีห์และมหาเศรษฐีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
นอกจาก นัคบาร์ และ ชิลด์เดรสส์ นักบาสฯ ระดับไฮสคูลอย่าง แบรนดอน เจนกินส์ ปฏิเสธการเข้าสู่ NBA ไปหาความท้าทายและเสริมสร้างความมั่นใจกับ เวอร์ตุส โรมา ในลีกอิตาเลียน ดูเหมือนกระแสดังกล่าวอาจไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะ ฮวน คาร์ลอส นาบาร์โร ตกเป็นข่าวเตรียมผละ โตรอนโต แร็พเตอร์ส คืนบ้านเก่าใน บาร์เซโลนา ขณะที่ เดลอนเต เวสต์, ฮอร์เก การ์บายอซา หรือ คาร์ลอส เดลฟิโน ต่างก็ตกเป็นเป้าหมายของทีมดังจาก รัสเซีย, สเปน, กรีซ รวมถึง อิตาลี
เมื่อกระแสถูกปลุกเป็นประเด็นร้อน นักข่าวจึงนำเรื่องนี้ไปถามไถ่ เจสัน คิดด์ โดยการ์ดจอมเก๋าวัย 35 ปี แสดงท่าทีอาจตัดสินใจเดินออกจาก ดัลลัส (แมฟเวอร์ริกส์) ไปปิดฉากอาชีพในยุโรปพร้อมรับค่าจ้างงวดสุดท้ายก้อนโต และที่น่าตกใจคือ ดีเวน เหว็ด การ์ดแม่ทัพ ไมอามี ฮีท ถึงกับครางฮือ เพราะถ้าได้ค่าจ้างระดับ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 990 ล้านบาท) ต่อซีซั่นแบบปราศจากภาษีมาวางไว้ตกหน้า ใครไม่บ้าคว้าไว้ก็เพี้ยนแล้ว
นี่จึงทำให้ผู้เขียนนึกข้ามช็อตไปถึงปี 2010 ฤดูกาลที่ เหว็ด รวมถึง เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส และ คริส บอช เซ็นเตอร์ โตรอนโต แร็พเตอร์ส มีคิวหมดสัญญากับต้นสังกัดพอดี อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามีข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ลงถูกหยิบยื่นเข้ามาจากฟากฝั่งยุโรป
ถึงเวลานั้น เดวิด สเติร์น ประธานลีกอาจต้องปรับกลยุทธ์เข้าสู้ เพราะ “สมองที่ไหล” ออกไปอาจไม่ใช่แค่เซลล์ที่เพิ่งเติบใหญ่หรือใกล้ปลดระวาง เมื่อใดที่เนื้อสมองส่วน “ซูเปอร์สตาร์” เกิดเห็นเงินค่าจ้างยูโรที่ค่อนข้างเสถียรกว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ NBA ลีกซึ่งทะนงตัวมาโดยตลอดว่าข้านี่แหละต้นตำรับแห่งวงการยัดห่วงอาจถึงคราวสั่นสะเทือนก็เป็นได้
ในโลกแห่งการติดต่อสื่อสารอันไร้ขอบเขตเหมือนทุกวันนี้ แน่นอนว่าต้องมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงของกระแสทางด้านความคิดและการกระทำ ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวได้กระทบชิ่งมายังศึกยัดห่วงระดับโลกอย่าง NBA ลีกที่นักบาสเกตบอลทุกคนใฝ่ฝันขอเข้าไปมีส่วนร่วมสักครั้งในชีวิต
นอกเหนือจากพรสวรรค์ที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่มวลมนุษย์มากน้อยไม่เท่ากัน ต้องยอมรับในส่วนของกายภาค “เทคโนโลยี” ณ วันนี้สามารถแปลงสภาพจากคนเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ได้ในระยะเวลาไม่นาน ด้านวงการกีฬา องค์ความรู้ทาง “วิทยาศาสตร์การกีฬา” มีส่วนช่วยให้นักกีฬาหลายคนพัฒนาฝีมือขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ นี่จึงเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่มีนักบาสฯ จากทั่วโลกมีโอกาสหลั่งไหลเข้าสู่ NBA มากขึ้น
อีกทั้งด้วยนโยบายการเปิดตลาดให้ครอบคลุมในหลายทวีป นักกีฬาจาก เอเชีย, ยุโรป หรือแม้แต่ แอฟริกา ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางธุรกิจ หลายคนจึงได้เข้ามาสั่งสมประสบการณ์ใน NBA ถ้าของพี่ดีจริง ก็มีโอกาสปักหลักโกยเงินโกยทองเข้ากระเป๋ากันยาวๆ แต่ถ้าฝีมือไม่ถึงขั้น พวกเขาเหล่านั้นยังพอมีทางเลือกเมื่อลีกอาชีพในยุโรปพร้อมรับเทิร์นของมือ 2 ไปดัดเหลี่ยมดัดฝีมือ
แม้ชื่อชั้นของหลายทีมยุโรปอาจเทียบไม่ได้กับเฟรนไชส์แบรนด์ดังๆ ใน NBA อย่าง แอลเอ เลเกอร์ส, ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส หรือ บอสตัน เซลติกส์ ที่สามารถเรียกเงินจากกระเป๋าของแฟนๆ ได้นักต่อนัก แต่หากมองกันให้ดี ทีมเหล่านั้นมีรากฐานที่แข็งแกร่งจากแฟนยัดห่วงที่ให้การสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นไม่แพ้ฟุตบอล ที่สำคัญยังมี “เงินถุงเงินถัง” ที่สามารถโน้มน้าวใจให้สตาร์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเล่นให้อีกด้วย
บอสยาน นัคบาร์ ไม่ประสบความสำเร็จใน NBA นับตั้งแต่ถูกดราฟท์เข้าลีกในอันดับ 15 เมื่อหกปีก่อนโดย ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ แต่ตอนนี้ผู้เล่นวัย 28 ปี สลัดคราบผู้เล่น นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ ย้ายไปเล่นให้ ดินาโม มอสโค เซ็นสัญญา 3 ปี รับทรัพย์กันไป 14.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 470 ล้านบาท) เป็นค่าจ้างก้อนโตที่ฟอร์เวิร์ดนำเข้าจากสโลวีเนีย คงหาไม่ได้มากขนาดนี้อีกแล้วหากยังปักหลักเล่นในลีกเมืองมะกัน
ล่าสุด จอช ชิลด์เดรสส์ สวิงแมนดาวรุ่งเมินข้อเสนอจาก แอตแลนตา ฮอว์คส เป็นสัญญา 5 ปี 34 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1,100 ล้านบาท) เก็บกระเป๋าโยกไปอยู่กับ โอลิมเปียกอส ยอดทีมแห่งลีกกรีซ โดยมีการเซ็นสัญญากันแค่ 3 ปี แต่ค่าจ้างสูงเหยียบ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 660 ล้านบาท) พร้อมอ็อปชั่นที่น่าสนใจคือ ชิลด์เดรสส์ ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่สตางค์แดงเดียว และก็ได้สิทธิย้ายทีมได้หลังจบแต่ละฤดูกาล
ดังนั้น ผู้เล่นระดับเกรด 2 หรือสำรองดีๆ ไม่จำเป็นต้องง้อให้ต้นสังกัดใน NBA ยื่นข้อเสนอ Mid-level exception ระดับ 5.585 ล้านเหรียญสหรัฐในฤดูกาล 2008/09 มาให้อีกแล้วในเมื่อทางเลือกเป็นราชสีห์และมหาเศรษฐีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
นอกจาก นัคบาร์ และ ชิลด์เดรสส์ นักบาสฯ ระดับไฮสคูลอย่าง แบรนดอน เจนกินส์ ปฏิเสธการเข้าสู่ NBA ไปหาความท้าทายและเสริมสร้างความมั่นใจกับ เวอร์ตุส โรมา ในลีกอิตาเลียน ดูเหมือนกระแสดังกล่าวอาจไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะ ฮวน คาร์ลอส นาบาร์โร ตกเป็นข่าวเตรียมผละ โตรอนโต แร็พเตอร์ส คืนบ้านเก่าใน บาร์เซโลนา ขณะที่ เดลอนเต เวสต์, ฮอร์เก การ์บายอซา หรือ คาร์ลอส เดลฟิโน ต่างก็ตกเป็นเป้าหมายของทีมดังจาก รัสเซีย, สเปน, กรีซ รวมถึง อิตาลี
เมื่อกระแสถูกปลุกเป็นประเด็นร้อน นักข่าวจึงนำเรื่องนี้ไปถามไถ่ เจสัน คิดด์ โดยการ์ดจอมเก๋าวัย 35 ปี แสดงท่าทีอาจตัดสินใจเดินออกจาก ดัลลัส (แมฟเวอร์ริกส์) ไปปิดฉากอาชีพในยุโรปพร้อมรับค่าจ้างงวดสุดท้ายก้อนโต และที่น่าตกใจคือ ดีเวน เหว็ด การ์ดแม่ทัพ ไมอามี ฮีท ถึงกับครางฮือ เพราะถ้าได้ค่าจ้างระดับ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 990 ล้านบาท) ต่อซีซั่นแบบปราศจากภาษีมาวางไว้ตกหน้า ใครไม่บ้าคว้าไว้ก็เพี้ยนแล้ว
นี่จึงทำให้ผู้เขียนนึกข้ามช็อตไปถึงปี 2010 ฤดูกาลที่ เหว็ด รวมถึง เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส และ คริส บอช เซ็นเตอร์ โตรอนโต แร็พเตอร์ส มีคิวหมดสัญญากับต้นสังกัดพอดี อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามีข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ลงถูกหยิบยื่นเข้ามาจากฟากฝั่งยุโรป
ถึงเวลานั้น เดวิด สเติร์น ประธานลีกอาจต้องปรับกลยุทธ์เข้าสู้ เพราะ “สมองที่ไหล” ออกไปอาจไม่ใช่แค่เซลล์ที่เพิ่งเติบใหญ่หรือใกล้ปลดระวาง เมื่อใดที่เนื้อสมองส่วน “ซูเปอร์สตาร์” เกิดเห็นเงินค่าจ้างยูโรที่ค่อนข้างเสถียรกว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ NBA ลีกซึ่งทะนงตัวมาโดยตลอดว่าข้านี่แหละต้นตำรับแห่งวงการยัดห่วงอาจถึงคราวสั่นสะเทือนก็เป็นได้
