xs
xsm
sm
md
lg

เยี่ยมวิมานลอย “โอลิมปิกวิลเลจ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลายชาติเจ้าภาพโอลิมปิกที่เคยลงทุนมหาศาลแล้วประสบปัญหาหนักในเรื่องของการถอนทุนคืนจากเม็ดเงินก่อสร้างระบบขนส่ง สาธารณูปโภค สนามกีฬา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หมู่บ้านนักกีฬา” แต่คงไม่ใช่ในปักกิ่งเกมส์ 2008 แน่นอน เพราะโอลิมปิก วิลเลจ ของปักกิ่ง หลังการแข่งขันทางการจีนได้วางแผนถอนทุนคืนไว้เรียบร้อย นั่นคือ การเตรียมปล่อยให้คนจีนที่สนใจซื้อ ซึ่งตอนนี้เปิดจองไปแล้ว ปรากฏว่า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนแทบไม่มีเหลือ แม้ราคาจะสูงถึงตารางเมตรละกว่าแสนบาทก็ตามที!!

สาเหตุสำคัญที่ทำให้โอลิมปิก วิลเลจ ครั้งนี้ขายดี ก็คือ ทำเลไม่ได้อยู่ไกลปืนเที่ยงเหมือนที่ผ่านๆ มา ซึ่งพอใช้งานกีฬาเสร็จเจ้าภาพก็ไม่ทราบจะเอาไปทำอะไรต่อ แต่จีนเลือกสมรภูมิที่ค่อนข้างอยู่ใกล้ตัวเมืองหลวงพอสมควร เป็นแอเรียใหม่ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่งที่ความแออัดยังไม่มากนัก แถมนำสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยมาเทให้ทั้งหมด ประชาชนก็เลยสนใจ

เรียกได้ว่า หลังจากปักกิ่งเกมส์ และ พาราลิมปิกเกมส์ บ้านนี้จะปิดในวันที่ 20 กันยายน ปี 2008 และผันตัวเองไปเป็นคอนโดมิเนียมสำหรับอยู่อาศัยทันที

ย้อนกลับไปดูรายละเอียดของ เป่ยจิง โอลิมปิก และ พาราลิมปิก วิลเลจ ในครั้งนี้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อให้รองรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ได้ถึง 16,800 คน ในโอลิมปิก และ 7,000 คนในระหว่างพาราลิมปิก ถูกออกแบบเป็นอาคารที่ไม่สูงมากนักประมาณ 6-8 ชั้น มีตัวอาคารทั้งหมด 42 ตึก เทียบความจุได้เท่ากับโรงแรมประมาณ 108 แห่งทีเดียว

แบ่งเป็นโซนหลัก คือ 1.International Zone จะเรียกว่าเป็นโซนสื่อสาร การค้า และบริการก็ว่าได้ บริเวณนี้มีลานต้อนรับนักกีฬาจากชาติต่างๆเป็นพิเศษ รวมทั้ง อินเทอร์เน็ต คาเฟ่, โพสต์ออฟฟิศ, ธนาคาร, ร้านทำผม, ร้านขายของทั่วไป หรือแม้กระทั่งร้านขายดอกไม้ไว้บริการนักกีฬา

2.Residential Zone ส่วนนี้เป็นเขตที่อยู่อาศัยของนักกีฬา ซึ่งเที่ยวนี้ได้ยอดนักเทเบิลเทนนิสชื่อดังของจีนในอดีตอย่าง เติ้ง ย่า ผิง มาเป็นผู้อำนวยการดูแลให้เหมาะสมกับความต้องการของนักกีฬาจริงๆ อาทิ ออกแบบเตียงเพื่อนักบาสเกตบอลให้ยาวเป็นพิเศษ ทางขึ้นลงที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาพิการ รวมทั้งการดูแลไม่ให้เฟอร์นิเจอร์มีมุมแหลม หรือทำอันตรายต่อนักกีฬาได้ และยังต้องมีห้องน้ำในตัวทุกห้องด้วยตามกฎของไอโอซี นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหารขนาดใหญ่ยักษ์จุได้ถึง 6,000 คน โดยอาหาร 70 เปอร์เซ็นต์ ที่จัดเป็นบุฟเฟต์แบบตะวันตก อีก 30 ที่เหลือเป็นอาหารแบบเอเชียน

นอกจากนี้ ยังมีห้องสันทนาการไว้คอยบริการนักกีฬาด้วย อย่างเช่น เกมรูม ห้องชมโทรทัศน์ บริการซักรีด ร้านขายยา สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ให้ผ่อนคลายมีสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส เสมือนวิมานเราดีๆ นี่เอง

มาพูดถึงการออกแบบซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจ โอลิมปิกวิลเลจ ครั้งนี้ถูกวางคอนเซปต์ให้เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยศิลปะตะวันออกที่อิงกับธรรมชาติ การตกแต่งภายในห้องนั้นเน้นลายเส้น ตัวอักษร วัฒนธรรมและภาพเขียนของจีน เพื่อให้นักกีฬาได้ซาบซึ้งกับศิลปะของเจ้าภาพ โดยอพาร์ทเม้นต์ที่อยู่อาศัยทั้งหมดถูกแบ่งเป็น 4 โซน โดยเรียกตามชื่อสัตว์มงคลของจีน นั่นก็คือ นก, ปี่เซียะ, ปลา และมังกร

นอกจากจะแฝงศิลปะให้ชมกันแล้ว เจ้าภาพยังเน้นให้อยู่สบายอีกด้วย สำหรับการดีไซน์ภายในห้องพักนั้นเตียงสำหรับนักกีฬาทุกคนจะต้องยาว 2 เมตร แถมมีเก้าอี้ไว้ให้พาดกรณีขายาวเพิ่มเป็น 2.26 เมตร โดยเลือกโทนสีแบบสบายตา ให้ทุกคนได้นอนหลับฝันดี

ส่วนเรื่องความไฮเทคเจ้าภาพก็มิได้ละเลยเพราะทุกห้องจะมีอินเทอร์เนตบรอดแบนด์, โทรศัพท์ เคเบิ้ลทีวี ระบบล็อคห้องโดยใช้การอ่านลายนิ้วมือ และอินเทอร์เนต คาเฟ่ ซึ่งเป็นบริการฟรีให้เหล่านักกีฬาด้วย

27 ก.ค.นี้แล้วที่จะเป็นวันดีเดย์ “โอลิมปิก วิลเลจ” ในกรุงปักกิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมสำหรับการต้อนรับนักกีฬาทุกคนเข้าบ้าน และจะมีพิธีต้อนรับนักกีฬาทุกชาติที่เดินทางเข้าสู่บ้านนี้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปด้วย

อดใจรอฟังเสียงตอบรับจาก โอลิมปิก วิลเลจ ครั้งนี้ แต่ที่แน่ๆ จีนเตรียมรับทั้งเงินและกล่องแบบสบายมือ ถือเป็นการวางแผนอันเหนือชั้นของประเทศเจ้าภาพอย่างยิ่งยวด !!!



เติ้ง ย่า ผิง
กำลังโหลดความคิดเห็น