xs
xsm
sm
md
lg

10 หัวหอกโยก-ย้ายยอดแย่เมืองผู้ดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรดาทีมในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วเรื่องการซื้อนักเตะที่มีราคาแพงเกินฝีเท้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี เพิ่งเจียดเงินกระชากดาวรุ่งอย่าง “โจ” ดาวยิงชาวบราซิเลียนมาด้วยค่าตัวถึง 18 ล้านปอนด์ หรือราว 1,200 ล้านบาท ด้าน โบลตัน ที่เพิ่งรอดตกชั้นมาหมาดๆ ก็กล้าทุ่ม 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท กับนักเตะชื่อไม่คุ้นอย่าง โยฮาน เอลแมนเดอร์ ศูนย์หน้าชาวสวีดิช

10 อันดับการย้ายทีมยอดแย่ด้านล่างจากการจัดของ เดอะ ซัน เป็นหนึ่งในหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ ที่เขียนไว้เป็นบทเรียนว่า “ปริมาณ” (ค่าตัว) ไม่ได้การันตี “คุณภาพ” เสมอไป

10.โฮเซ อันโตนิโอ เรเยส (อาร์เซนอล, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
ทันทีที่ เรเยส เหยียบแผ่นดินผู้ดี บรรดาสื่อท้องถิ่นต่างอยากได้คำตอบจากปากของ อาร์แซน เวนเกอร์ ว่า “หมอนี่คือใคร?” ตลอดการใช้ชีวิตในถิ่น ไฮบิวรี ดาวรุ่งจากแดนกระทิงเล่นได้แบบสามวันดีสี่วันไข้ ตลอดจนไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นดาวเตะระดับซูเปอร์สตาร์ได้อย่างไร โดยเก็บสถิติยิงไปเพียง 16 ลูก จาก 69 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เซบีญา

9. ฌิบลิว ซิสเซ (ลิเวอร์พูล, 17 ล้านปอนด์หรือราว 1,139 ล้านบาท)
“หงส์แดง” ตัดสินใจซื้อกองหน้าเคราแพะ โดยดูจากฟอร์มการถล่มประตูเป็นดาวซัลโวลีก เอง กับต้นสังกัด โอแซร์ แต่ ซิสเซ ที่แฟนบอล “เดอะ คอป” หวังให้เป็น นิว ร็อบบี ฟาวเลอร์ หรือ นิว ไมเคิล โอเวน กลับใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเขียงผ่าตัดมากกว่าบนฟลอหญ้า ตลอดจนถูก ราฟา เบนิเตซ จับเล่นตำแหน่งปีกขวาบ่อยครั้ง ดังนั้นจึงยิงได้เพียง 11 ลูกจาก 49 นัดในถิ่นแอนฟิลด์

8. ดาร์เรน เบนท์ (สเปอร์ส, 17 ล้านปอนด์ หรือราว 1,139 ล้านบาท)
นับตั้งแต่ย้ายจาก ชาร์ลตัน มาร่วมทัพ “ไก่เดือยทอง” กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ ทำได้เพียง 6 ประตูจาก 27 นัดที่ลงเล่น เบนท์ เป็นนักเตะเกรดบีที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาล และไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นมากนัก เนื่องจากทัพ สเปอร์ส มี ร็อบบี คีน และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นคู่หัวหอกอยู่แล้ว

7. อาเดรียน มูตู (เชลซี, 16 ล้านปอนด์หรือราว 1,072 ล้านบาท)
สตาร์ทีมชาติโรมาเนีย ถือเป็นนักเตะคนแรกที่ โรมัน อบราโมวิช ทุ่มซื้อมาร่วมถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่แฟน “สิงห์บลูส์” ดูเหมือนจะจดจำชื่อของ มูตู ในฐานะนักเตะที่ถูกขับออกจากทีมด้วยข้อหาใช้สารเสพติดโคเคน มากกว่า ลีลาการทำ 6 ประตู ตลอด 27 นัดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ปาร์มา ในลีกอิตาลี

6. สตีฟ มาร์กเลย์ (ฟูแลม, 11.5 ล้านปอนด์ หรือราว 770 ล้านบาท)
ฉายา “เจ้าสัวน้อย” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เมื่อในยุคหนึ่ง โมฮัมหมัด อัลฟาเยด เจ้าของทีม ฟูแลม ใช้เงินอย่างมือเติบ โดยหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดง คือ การซื้อ มาร์กเลย์ มาจาก โอลิมปิก ลียง เป็นสถิติสโมสร แต่กลับโชว์ผลงานยิงได้เพียง 11 ลูกจาก 54 นัดเท่านั้น

5.เซอร์เก เรบรอฟ (สเปอร์ส, 11 ล้านปอนด์)
ใครจะคิดว่าสองคู่หูที่ถือเป็นคีย์แมนของ ไดนาโม เคียฟ ในช่วงรุ่งเรืองยุค 90 จะมาล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าบนแผ่นดินผู้ดีเหมือนกัน มีแฟนไก่มากมายไปรอต้อนรับ สตาร์จากยูเครนที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ในวันเปิดตัว แต่กลับผิดหวังกันไปตามๆ กันเมื่อดูจากสถิติยิง 10 ประตูจาก 59 เกมของ เรบรอฟ

4.คริส ซัตตัน (เชลซี, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
หากตอนนี้ เชลซี จะเซ็นสัญญากับศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษสักรายลองคิดดูว่ามันจะเป็นจำนวนเงินมหาศาลเท่าใด เช่นเดียวกับเมื่อ 10 ปี่ที่แล้ว ซัตตัน ถือเป็นอาวุธหนักในแดนหน้าของ แบล็กเบิร์น แต่กลับมาล้มเหลวกับการเล่นในลอนดอน หลังยิงได้เพียงลูกเดียวเท่านั้นจาก 28 นัดในเกมลีก

3.เอล ฮัดจิ ดิยุฟ (ลิเวอร์พูล, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
แม้ตอนนี้ ดิยุฟ จะโชว์ฟอร์มได้ดีกับทีมระดับกลางอย่าง โบลตัน แต่เหล่า “เดอะ ค็อป” ก็ไม่เคยเสียดายที่เสียนักเตะจอมดีเดือดคนนี้ไป หลังทำได้เพียง 3 ลูกจาก 55 เกม โดยตัดสินใจซื้อหลังเห็น ดิยุฟ โชว์ฟอร์มเทฟให้กับทีมชาติเซเนกัล ในศึกฟุตบอลโลก 2002

2.อัลเบิร์ต ลูเก (นิวคาสเซิล, 10 ล้านปอนด์หรือราว 670 ล้านบาท)
ชื่อของ ชอง อแล็ง บูมซง, สเตฟาน กีวาร์ส และมาร์เซลินโญ ต่างอยู่ในข่ายการซื้อตัวยอดแย่ของทีม “สาลิกาดง” แต่ ลูเก ที่อยู่ร่วมทัพ “ทูน” ได้เพียงซีซั่นเดียว ก็เฉือนเข้าวินด้วยผลงานยิงไปลูกเดียวจาก 21 นัดที่ลงเล่นนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลา คอรุญญา

1.อังเดร เชฟเชนโก (เชลซี, 30 ล้านปอนด์หรือราว 2,010 ล้านบาท)
“เชว่า” ไม่เคยแสดงให้ชนชาวอังกฤษเห็นภาพได้เลยว่า เขาเป็นดาวซัลโวของทีมยักษ์ใหญ่ในอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน ได้อย่างไร เชฟเชนโก ดูเชื่องช้าไม่ปราดเปรียวเหมือนก่อน โดยถือสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ แต่กลับยิง 9 ลูกจาก 49 เกม
กำลังโหลดความคิดเห็น