"ฉลามขาว" เกร็ก นอร์แมน อดีตโปรหมายเลขหนึ่งของโลกชาวออสเตรเลีย มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่คว้าแชมป์ดิ โอเพ่น หลังแซงขึ้นมานั่งแท่นจ่าฝูงได้สำเร็จในการออกรอบวันที่ 3 โดยมีสกอร์นำอยู่ 2 สโตรก
ศึกดวลวงสวิง เมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 137 ประจำปี 2008 ชิงเงินรางวัลรวม 8.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 268 ล้านบาท) ที่สนาม รอยัล เบิร์กเดล ระยะ 7,173 หลา พาร์ 70 ในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เข้าสู่การแข่งขันรอบ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา
การออกรอบเต็มไปด้วยอุปสรรคเรื่องสภาพอากาศ เนื่องจากมีลมพัดแรงตลอดทั้งวัน ทำให้วันนี้ไม่มีนักกอล์ฟรายใดที่ทำสกอร์ต่ำกว่าพาร์เลย โดย “ฉลามขาว” เกร็ก นอร์แมน โปรวัยดึกชาวออสซี่ที่เกาะกลุ่มนำมาตลอด 2 วันแรก ขึ้นรั้งจ่าฝูงได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2 โอเวอร์พาร์ นำหน้า พาเดร็ก แฮร์ริงตัน แชมป์เก่าจากไอร์แลนด์ และ เค.เจ.ชอย ผู้นำวันที่ 2 ชาวเกาหลีใต้อยู่ 2 สโตรก
หลังเสร็จสิ้นการดวลวงสวิงรอบ 3 นอร์แมน วัย 53 ปี ซึ่งมีลุ้นเป็นก้านเหล็กอายุมากที่สุดที่คว้าแชมป์ดิ โอเพ่น แทนที่ ทอม มอร์ริส ที่เคยทำได้เมื่อปี 1867 ด้วยวัย 46 ปี 99 วัน ให้สัมภาษณ์ว่า “สามรอบที่ผ่านมาอาจเป็นการแข่งขันที่ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นมาก็ว่าได้ ซึ่งสภาพอากาศทำให้การเล่นกอล์ฟเป็นไปอย่างสาหัส”
“ถึงตอนนี้ผมมีโอกาสไม่น้อยที่จะคว้าแชมป์ แต่ต้องไม่ลืมว่าการแข่งขันยังไม่จบ และ พาเดร็ก ก็กำลังเล่นได้ดี เช่นเดียวกับ เค.เจ. ที่ผมประทับใจในวงสวิงของเขา สิ่งสำคัญตอนนี้คือสภาพร่างกายและจิตใจ ผมจะพยายามทำให้เต็มที่เหมือนเดิมและมีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องสนใจผลงานของคนอื่น” อดีตแชมป์ 2 สมัยทิ้งท้าย
ขณะที่ ชอย ตัวแทนจากเอเชียที่มีลุ้นแชมป์ในวันสุดท้ายกล่าวว่า “คืนนี้ผมอาจจะนอนไม่หลับ แต่ผมยังเชื่อว่าสภาพอากาศในวันอาทิตย์จะเป็นใจให้กับผมมากกว่าวันนี้ ในส่วนของผู้ชมถือว่าน่าทึ่งมาก และผมก็มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องตามลุ้นผลงานของผมอย่างใกล้ชิด”
สำหรับโปรในอันดับรองลงมาที่ยังคงมีลุ้นในรอบสุดท้ายประกอบด้วย ไซมอน เวคฟิลด์ ที่อยู่อันดับ 4 สกอร์ 5 โอเวอร์พาร์ ตามด้วย เบน เคอร์ติส, รอสส์ ฟิชเชอร์, แอนโธนี่ คิม และ อเล็กซานเดอร์ นอเรน ซึ่งรั้งที่ 5 ร่วม สกอร์ 7 โอเวอร์พาร์
ศึกดวลวงสวิง เมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 137 ประจำปี 2008 ชิงเงินรางวัลรวม 8.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 268 ล้านบาท) ที่สนาม รอยัล เบิร์กเดล ระยะ 7,173 หลา พาร์ 70 ในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เข้าสู่การแข่งขันรอบ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา
การออกรอบเต็มไปด้วยอุปสรรคเรื่องสภาพอากาศ เนื่องจากมีลมพัดแรงตลอดทั้งวัน ทำให้วันนี้ไม่มีนักกอล์ฟรายใดที่ทำสกอร์ต่ำกว่าพาร์เลย โดย “ฉลามขาว” เกร็ก นอร์แมน โปรวัยดึกชาวออสซี่ที่เกาะกลุ่มนำมาตลอด 2 วันแรก ขึ้นรั้งจ่าฝูงได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2 โอเวอร์พาร์ นำหน้า พาเดร็ก แฮร์ริงตัน แชมป์เก่าจากไอร์แลนด์ และ เค.เจ.ชอย ผู้นำวันที่ 2 ชาวเกาหลีใต้อยู่ 2 สโตรก
หลังเสร็จสิ้นการดวลวงสวิงรอบ 3 นอร์แมน วัย 53 ปี ซึ่งมีลุ้นเป็นก้านเหล็กอายุมากที่สุดที่คว้าแชมป์ดิ โอเพ่น แทนที่ ทอม มอร์ริส ที่เคยทำได้เมื่อปี 1867 ด้วยวัย 46 ปี 99 วัน ให้สัมภาษณ์ว่า “สามรอบที่ผ่านมาอาจเป็นการแข่งขันที่ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นมาก็ว่าได้ ซึ่งสภาพอากาศทำให้การเล่นกอล์ฟเป็นไปอย่างสาหัส”
“ถึงตอนนี้ผมมีโอกาสไม่น้อยที่จะคว้าแชมป์ แต่ต้องไม่ลืมว่าการแข่งขันยังไม่จบ และ พาเดร็ก ก็กำลังเล่นได้ดี เช่นเดียวกับ เค.เจ. ที่ผมประทับใจในวงสวิงของเขา สิ่งสำคัญตอนนี้คือสภาพร่างกายและจิตใจ ผมจะพยายามทำให้เต็มที่เหมือนเดิมและมีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องสนใจผลงานของคนอื่น” อดีตแชมป์ 2 สมัยทิ้งท้าย
ขณะที่ ชอย ตัวแทนจากเอเชียที่มีลุ้นแชมป์ในวันสุดท้ายกล่าวว่า “คืนนี้ผมอาจจะนอนไม่หลับ แต่ผมยังเชื่อว่าสภาพอากาศในวันอาทิตย์จะเป็นใจให้กับผมมากกว่าวันนี้ ในส่วนของผู้ชมถือว่าน่าทึ่งมาก และผมก็มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องตามลุ้นผลงานของผมอย่างใกล้ชิด”
สำหรับโปรในอันดับรองลงมาที่ยังคงมีลุ้นในรอบสุดท้ายประกอบด้วย ไซมอน เวคฟิลด์ ที่อยู่อันดับ 4 สกอร์ 5 โอเวอร์พาร์ ตามด้วย เบน เคอร์ติส, รอสส์ ฟิชเชอร์, แอนโธนี่ คิม และ อเล็กซานเดอร์ นอเรน ซึ่งรั้งที่ 5 ร่วม สกอร์ 7 โอเวอร์พาร์