xs
xsm
sm
md
lg

คนจีนกำลังคลั่งโอลิมปิก (2) / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์ ล้ำหน้า โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี (จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์)

ค้างไว้จากสัปดาห์ที่แล้วเรื่องคนจีนกำลังอยู่ในกระแสตื่นตัวรับโอลิมปิก การเปิดประเทศและปรับตัวเพื่อต้อนรับชาวต่างชาติของพวกเขาเพื่อเทศกาลนี้ รวมทั้งอนาคตและแนวทางพัฒนาประเทศเป็นเรื่องที่น่าจับตามากๆ

ยิ่งใกล้เวลาประชาชนชาวจีนต่างหายใจหายคอเป็นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ทุกคนอยากมีส่วนร่วมอาสาสมัครนักศึกษานับแสนคนจากทั่วประเทศต้องการผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้ามามีส่วนกับงานสำคัญ

ด้านของที่ระลึกก็มีทั้งคนจีนและชาวต่างชาติให้ความสนใจกันอย่างคับคั่งหลังจากที่ออฟฟิเชียล สโตร์ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในปักกิ่ง เพราะเจ้าภาพตัดสินใจถูกไม่กั๊ก ให้เปิดแบบคอนวีเนียนสโตร์ไปเลย ตามห้างสรรพสินค้าหรือสาขาย่อยบริเวณแหล่งชอปปิงมีหมด ตอนนี้ใครไปปักกิ่ง จะหาซื้อของฝากให้เพื่อนหรือญาติมิตรไม่ต้องคิดอะไรมาก ตรงเข้าร้านเหล่านี้ได้เลยราคาเดียวกันหมด

กระแสเกิดขึ้นได้ต้องชมรัฐบาลจีนที่ระดมทั้งเม็ดเงิน ความตั้งใจ และการฝึกฝนบุคลากร มาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน เอาแค่เรื่องสนามแข่งขัน 30 แห่งในหลายเมือง อย่างเช่น สเตเดี้ยมรังนก, บาสเกตบอลยิมเนเซียมวุคซอง กับอีก 44 เทรนนิงเซนเตอร์หรือศูนย์ฝึกซ้อมและหมู่บ้านนักกีฬา ลงทุนไปทั้งสิ้น 13,000 หยวน ประมาณ 65,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากทุ่มเททำงานหนักมาตั้งแต่ปลายปี 2003 โครงสร้างส่วนใหญ่ของสเตเดี้ยมทั้งหลายล้วนเสร็จสิ้นพร้อมใช้งาน

ไม่เพียงแต่เรื่องของสนามกีฬา จีนยังต้องลงทุนเรื่องของสาธารณูปโภคระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งแต่การเพิ่มจำนวนรถเมล์ต่อด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายที่ 5 และสายที่ 10 ซึ่งเป็นสายด่วนจากสนามบินเหมือนในฮ่องกงกำลังจะเปิดก่อนงานโอลิมปิก

แต่คีย์โปรเจ็คต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั่นก็คือการเพิ่มเทอร์มินัล 3 ให้กับแอร์พอร์ตของพวกเขา ซึ่งเป็นโครงการณ์ที่เริ่มสร้างตั้งแต่เมื่อปี 2004 แล้วเสร็จธันวาคม 2007 ก่อนจะมีการเทสต์ระบบจนถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2008 ทว่าโครงสร้างเต็มๆ ที่วางแผนไว้จริงๆ คือปี 2015 จะมีทั้งเทอร์มินัล T3A, T3B และ T3C เขื่อมต่อกันหมด และจะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 60 ล้านคน โดยรัฐบาลจีนลงทุนไป 27,000 ล้านหยวน ประมาณ 135,000 บาทกับโครงการนี้

อยากจะกล่าวว่า "ไม่มีอะไรเล็กในเมืองนี้" คนที่ไม่ได้ไปปักกิ่งมานานถึง 15 ปีอย่างผมย่อมต้องตกตะลึงเป็นธรรมดาต่อความเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวงของจีน ความเจริญทางวัตถุเหล่านี้อาจไม่สำคัญเท่าสิ่งที่อยู่ในจิตใจหรือมันสมองของเยาวชนรุ่นใหม่ของจีน แต่มันคือพยานหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่าผู้นำของเขาจริงจังเพียงใดต่อการพัฒนาประเทศ

ถึงเวลานี้ในกรุงปักกิ่งอาจมีจักรยานไม่ถึง 9 ล้านคัน (เหลือประมาณ 4.5 ล้านคันตามที่พี่น้องสื่อจีนสันนิษฐานให้) แต่ถูกแทนที่ด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้า และการเดินทางต่างๆที่ทันสมัยกว่านั้น เรียกได้ว่าโลกของจีนหมุนเร็วขึ้น คนของเขาต้องพยายามตามให้ทัน ซึ่งผมดูแล้วกลับกันกับบ้านเรา ที่คนของเราเอกชนของเราส่วนหนึ่งพัฒนาไปไกลแล้ว แต่ยังมีผู้บริหารประเทศหรือนักการเมืองประเภทไดโนเสาร์เต่าล้านปี เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ประเทศเรามันก็เลยย่ำเท้าอยู่เท่านี้!
กำลังโหลดความคิดเห็น