เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารหุ่นยีราฟออกมาประกาศว่าขอเฝ้าเสาประตูให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งฤดูกาลก่อนประกาศแขวนถุงมือ พร้อมยอมรับว่าบทอำลาทีมชาติฮอลแลนด์ของตนจบลงแบบชอกช้ำ
“น้าซาร์” วัย 37 ปี เพิ่งอกหักอย่างรุนแรง หลังจากอัศวินสีส้มหยุดเส้นทางในศึกยูโร 2008 เอาไว้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากการปราชัยให้กับ รัสเซีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-3 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทัพลูกหนังดัตช์โชว์ฟอร์มร้อนแรงด้วยการกวาดชัยชนะ 3 นัดรวดในรอบแรก
หลังจบเกม ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับถึงอนาคตการค้าถุงมือกับ “ปิศาจแดง” ว่า “ผมรู้สึกสนุกสนานกับอาชีพนักฟุตบอลตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้มันถึงเวลาอันควรที่ผมจะยุติแต่เพียงเท่านี้ ผมจะเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลสุดท้ายแล้ว”
นอกจากนี้ จอมหนึบซึ่งเติบโตมาจากทีมเยาวชนของ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เผยความรู้สึกที่นัดสุดท้ายในการเล่นทีมชาติลงเอยด้วยความปราชัยต่อ “หมีขาว” ว่า “ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น เราได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก ทว่าสุดท้ายเรากลับไม่สามารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงนะเลิศได้ นั่นเป็นความจริงที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง”
“วันนี้เราไม่รู้สึกคึกคักเหมือนเคย และยังถูก รัสเซีย กดดันตั้งแต่ครึ่งแรกอีกด้วย ซึ่งในช่วงต่อเวลาพิเศษเราคิดเอาไว้ว่าถ้ายื้อเกมออกไปจนถึงช่วงยิงจุดโทษตัดสินก็มีสิทธิเป็นผู้ชนะได้ แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้น”
สำหรับ ฟาน เดอร์ ซาร์ ย้ายจาก ฟูแล่ม มาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2005 โดยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิป 2 สมัย, คาร์ลิง คัพ 1 ครั้ง และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง ส่วนในทีมชาติฮอลแลนด์ก็ทำสถิติติดธงมากที่สุด 128 นัด โดยเริ่มเฝ้าเสาให้กับ “กังหันลมสีส้ม” ครั้งแรกเมื่อปี 1995 ภายใต้ยุคของ กุส ฮิดดิงค์ กุนซือรัสเซียคนปัจจุบัน
“น้าซาร์” วัย 37 ปี เพิ่งอกหักอย่างรุนแรง หลังจากอัศวินสีส้มหยุดเส้นทางในศึกยูโร 2008 เอาไว้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากการปราชัยให้กับ รัสเซีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-3 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทัพลูกหนังดัตช์โชว์ฟอร์มร้อนแรงด้วยการกวาดชัยชนะ 3 นัดรวดในรอบแรก
หลังจบเกม ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับถึงอนาคตการค้าถุงมือกับ “ปิศาจแดง” ว่า “ผมรู้สึกสนุกสนานกับอาชีพนักฟุตบอลตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้มันถึงเวลาอันควรที่ผมจะยุติแต่เพียงเท่านี้ ผมจะเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลสุดท้ายแล้ว”
นอกจากนี้ จอมหนึบซึ่งเติบโตมาจากทีมเยาวชนของ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เผยความรู้สึกที่นัดสุดท้ายในการเล่นทีมชาติลงเอยด้วยความปราชัยต่อ “หมีขาว” ว่า “ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น เราได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก ทว่าสุดท้ายเรากลับไม่สามารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงนะเลิศได้ นั่นเป็นความจริงที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง”
“วันนี้เราไม่รู้สึกคึกคักเหมือนเคย และยังถูก รัสเซีย กดดันตั้งแต่ครึ่งแรกอีกด้วย ซึ่งในช่วงต่อเวลาพิเศษเราคิดเอาไว้ว่าถ้ายื้อเกมออกไปจนถึงช่วงยิงจุดโทษตัดสินก็มีสิทธิเป็นผู้ชนะได้ แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้น”
สำหรับ ฟาน เดอร์ ซาร์ ย้ายจาก ฟูแล่ม มาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2005 โดยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิป 2 สมัย, คาร์ลิง คัพ 1 ครั้ง และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง ส่วนในทีมชาติฮอลแลนด์ก็ทำสถิติติดธงมากที่สุด 128 นัด โดยเริ่มเฝ้าเสาให้กับ “กังหันลมสีส้ม” ครั้งแรกเมื่อปี 1995 ภายใต้ยุคของ กุส ฮิดดิงค์ กุนซือรัสเซียคนปัจจุบัน
