xs
xsm
sm
md
lg

อัซซูรี่บี้ไก่ 10 คนเข้ารอบ-อัศวินโชว์เหนือสยบผีดิบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“อัซซูรี่” อิตาลี กรุยทางเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูโร 2008 ได้สำเร็จหลังบดเอาชนะ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน 2-0 ด้าน “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ แสดงสปิริตแชมป์กลุ่มพิชิตชัยเหนือ “ผีดิบ” โรมาเนีย 2-0

ศึกฟุตบอลยูโร 2008 นัดสุดท้าย กลุ่มซี
อิตาลี 2-0 ฝรั่งเศส

ริเบรี เจ็บตั้งแต่ต้นเกมทำแนวรุก ตราไก่ ฝืดสนิท
โรแบร์โต โดนาโดนี มีการปรับทัพให้ “แชมป์โลก” อิตาลี ในเกมชี้ชะตาเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโร 2008 โดยแดนกลางใส่ เจนนาโร กัตตูโซ มาตัดเกมอีกครั้งพร้อมกับส่ง อันโตนิโอ คาสซาโน มาสนับสนุนเกมรุกของ ลูกา โทนี ด้าน เรย์มงด์ โดเมอเน็ค ก็เปลี่ยนทีม “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลก 2006 พอสมควรเริ่มจากถอด ลิลิยอง ตูราม กัปตันทีมออกไปและ ฟรองซัวส์ แกลร์ก มาช่วยเกมรับ ขณะที่แดนหน้าเติม คาริม เบนเซมา ช่วยทาง เธียรี อองรี ล่าตาข่ายและก็มี ฟรองค์ ริเบรี กับ ซิดนีย์ โกวู ขึ้นเกมอยู่ทางกราบ
จุดเปลี่ยน อบิดัล โดนใบแดง
เริ่มเกมการแข่งขัน อิตาลี เกือบนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 4 เมื่อ เอริค อบิดัล ที่ถูกโยกเข้าในมายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟพลาดปล่อยให้ ลูกา โทนี ส่องจากนอกกรอบยังดีที่บอลพุ่งไม่ตรงกรอบ สามนาทีถัดมาสถานการณ์ของ ฝรั่งเศส ชักไม่สู้ดีเมื่อ ฟรองค์ ริเบรี ตัวขับเคลื่อนเกมบาดเจ็บเข่าฝืนลงต่อไม่ไหวทำให้ โดเมอเน็ค ต้องส่ง ซาเมียร์ นาสรี ลงมาปั้นเกมแทน ไม่กี่อึดใจถัดมา “อัซซูรี่” เกือบนำอีกครั้ง คริสเตียน ปานุชชี เติมมาโขกลูกเตะมุมลงพื้น โคลด มาเกเลเล ต้องสกัดพ้นโคนเสาออกมา

ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก อิตาลี ครองเกมไว้ได้และนาทีที่ 25 ก็มีจุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นเมื่อ อบิดัล ไปทำฟาล์ว โทนี จากทางด้านหลังในกรอบโทษ ลูบอส มิเชล เชิ้ตดำชาวสโลวักชี้ไปที่จุดโทษพร้อมกับควักใบแดงไล่กองหลัง “ตราไก่” ออกไป ก่อนที่ อันเดรีย ปิร์โล รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปให้ อิตาลี ขึ้นนำดังหวัง 1-0 เมื่อเหลือแค่ 10 คน โดเมอเน็ค ต้องปรับทัพทันควันถอด นาสรี ออกมาและก็ให้ ฌอง อแลง บูมซง ไปยืนในเกมรับ พอเบิกร่องได้สำเร็จและก็มีผู้เล่นมากกว่า นักเตะ “อัซซูรี่” ดูมีความมั่นใจมากขึ้น ดานิเอเล เด รอสซี เติมขึ้นมาตะบันจากบริเวณกรอบโทษส่งลูกหนังเหินข้ามคาน

นาทีที่ 28 แชมป์โลกเกือบทิ้งห่างเมื่อ โทนี ดีดบอลด้วยข้างเท้าจากการเปิดเข้ามาให้ของเพื่อนแต่หลุดกรอบออกไปนิดเดียว อีกไม่กี่นาที โทนี มีโอกาสอีกครั้งตวัดลูกยิงในกรอบโทษไม่ตรงกรอบอีกครั้ง ห้านาทีถัดมา ฝรั่งเศส มีโอกาสครั้งแรกและก็เกือบตีเสมอ เธียรี อองรี หลุดกับดักล้ำหน้าไปยิงบอลเฉียดเสาไกล ท้ายครึ่งแรก อิตาลี ลงไปเล่นเกมรับรัดกุมทำให้ ฝรั่งเศส มีโอกาสดันเกมกันขึ้นมาแต่ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แถมเกือบโดน อิตาลี ฝังไปอีกประตูถ้าลูกยิงฟรีคิกของ ฟาบิโอ กรอสโซ ไม่พุ่งไปชนเสา จบ 45 นาทีแรก “แชมป์โลก” รักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้
เบนเซมา แผงฤทธิ์ไม่ออก
ลงมาลุยต่อในครึ่งหลัง แม้เหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าแต่ ฝรั่งเศส ไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเกมบุกหากยังหวังเข้ารอบและก็ได้ลุ้นเมื่อ เฌเรมี ตูลาลอง เปิดจากกราบขวามาให้ อองรี ยิงไปติดบล็อกกองหลังอิตาเลียนกระเด้งมาเข้าทาง คาริม เบนเซมา ซัดเต็มข้อข้ามคาน หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมตกเป็นของ “ตราไก่” โดยทาง อิตาลี ลงไปตั้งรับในแดนตัวเองและคอยหาจังหวะสวนกลับขึ้นไปซึ่ง โทนี เกือบเข้าถึงในจังหวะหลุดขึ้นหน้าแต่ เกรกอรี กูเปต์ อ่านเกมออกมาดักได้ทัน

อย่างไรก็ตาม ในนาทีที่ 62 แฟนๆ “อัซซูรี่” ได้เฮกันลั่นสนามเลทซิกรันด์ ในเมืองซูริค เมื่อ เด รอสซี กระหน่ำฟรีคิกระยะกว่า 35 หลาบอลพุ่งแฉลบเท้า อองรี เปลี่ยนทางเข้าประตูไปส่งแชมป์โลกนำห่าง 2-0 และโดนาโดนี ก็มีการปรับทีมบ้างถอน ซิโมเน แปร์รอตตา ออกมาให้ทาง เมาโร คาโมนาเรซี ไปเล่นแทน ด้านฝรั่งเศส ก็ปรับเช่นกันเสี่ยงส่ง นิโกลาส์ อเนลกา มาช่วยลุ้นทำประตูและก็ถอด ซิดนีย์ โกวู ตัวริมเส้นออกมา แต่ก็ยังเป็นโอกาสของอิตาลีเมื่อ โทนี หลุดเข้าไปโดน วิลเลียม กัลลาส ตามมาบล็อกไว้ได้หวุดหวิด

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย “ตราไก่” ยังตามหาประตูตีไข่แตก เบนเซมา สบโอกาสปั่นบอลบริเวณหัวกะโหลกและกำลังจะเสียบเสาทว่า จิอันลุยจิ บุฟฟอน บินมาปัดพ้นอันตรายไปได้ ท้ายเกม อิตาลี มีโอกาสบ้าง คาโมนาเรซี หลุดขึ้นไปทางขวาก่อนหักยิงแฉลบเท้า ปาทริซ เอวรา ออกหลังไป ครบ 90 นาที “อัซซูรี่” พลิกสถานการณ์เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศหวุดหวิด ด้วยการมี 4 คะแนนจากการลงสนาม 3 นัด คว้าอันดับ 2 ของกลุ่มซี เตรียมไปชนเกือก “กระทิงดุ” สเปน แชมป์กลุ่มดี ต่อไปในคืนวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน ส่วน ฝรั่งเศส จมบ๊วยเก็บได้แค่แต้มเดียว

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อิตาลี : จิอันลุยจิ บุฟฟอน , จิอันลูกา ซามบรอตตา , คริสเตียน ปานุชชี , จอร์โจ คิเอลลินี , ฟาบิโอ กรอสโซ , เจนนาโร กัตตูโซ , อันเดรีย ปิร์โล , ดานิเอเล เด รอสซี , ซิโมเน แปร์รอตตา , อันโตนิโอ คาสซาโน , ลูกา โทนี

ฝรั่งเศส : เกรกอรี กูเปต์ , ฟรองซัวส์ แกลร์ก , วิลเลียม กัลลาส , เอริค อบิดัล , ปาทริซ เอวรา , ซิดนีย์ โกวู , เฌเรมี ตูลาลอง , โคลด มาเกเลเล , ฟรองค์ ริเบรี , เธียรี อองรี , คาริม เบนเซมา
อัศวินสีส้ม ไม่มีอ่อยถีบ ผีดิบ ร่วงรอบแรก
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งใน “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ปรากฏว่า ฮอลแลนด์ ที่ส่งสำรองลงสนามเกือบทั้งทีมบี้เอาชนะ โรมาเนีย 2-0 โดยได้ประตูจาก คลาส แยน ฮุนเตลาร์ นาทีที่ 54 และโรบิน ฟาน เพอร์ซี ก่อนหมดเวลาแค่สามนาที ทำให้ “อัศวินสีส้ม” ครองแชมป์กลุ่มซี อย่างเต็มภาคภูมิด้วยการคว้า 9 คะแนนเต็มจากชัยชนะทั้ง 3 นัดที่ลงสนาม ขณะที่ขุนพลแข้ง “ผีดิบ” ตกรอบไปตามระเบียบเนื่องจากมีเพียง 2 คะแนน
กำลังโหลดความคิดเห็น