อิตาลีหลังพิงฝา-ไก่ดวลอัศวินส้ม / เซียนไก๋

สตาร์ทนัดแรกก็พลิกล็อกไปแล้วสำหรับ “กรุ๊ป ออฟ เดธ” กลุ่ม ซี ใน ยูโร 2008 หนนี้ มาถึงเกมนัดสองในคืนวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายนนี้ ถือว่ามีความสำคัญยิ่งยวดเมื่อ “แชมป์โลก” อิตาลี ดวลกับ โรมาเนีย โดยที่จะแพ้ไม่ได้ในเวลา 5 ทุ่มตรง ส่วน ฝรั่งเศส จะเจองานหนักกับ ฮอลแลนด์ ม้าหนุ่มที่กำลังคึกในเวลาตี 01.45 น.

อิตาลี พบ โรมาเนีย - ที่สนาม เลทซิกรันด์ สตาดิโอน เมืองซูริค

ไม่เหลือลายแชมป์โลก 2006 สำหรับ อิตาลี เมื่อตกไปอยู่บ๊วยของกลุ่ม หลังถูก ฮอลแลนด์ พลังหนุ่มถลุงยับ 0-3 กุนซือ โรแบร์โต โดนาโดนี โดนจวกยับทั้งในเรื่องแทกติกการจัดตัว รวมถึงอายุเฉลี่ยนักเตะที่เลือกมาล้วนสูงวัย เกมนี้จึงจำเป็นต้องชนะ โรมาเนีย เพื่อจะได้ไม่ต้องลุ้นหนักเลือดตาแทบกระเด็นในนัดสุดท้ายที่จะพบกับ ฝรั่งเศส

ทำให้เกมนี้ อิตาลี คงผ่าตัดเปลี่ยนทีมหลายจุด ไล่ตั้งแต่กองหลัง มาร์โก มาเตรัซซี ที่เจ็บจากนัดแรก หากไม่พร้อมอาจต้องหุบ คริสเตียน ปานุชชี มาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ อันเดรีย บาร์ซาญี หรืออาจเป็น จอร์โจ คิเอลลินี ด้านแบ็กซ้ายจะเป็น ฟาบิโอ กรอสโซ หลังลงสำรองแล้วเล่นได้ดีในเกมแพ้ “เครื่องจักรสีส้ม”

ขยับขึ้นมาที่แผงมิดฟิลด์ ดานิเอเล เด รอสซี ได้รับเสียงเรียกร้องให้ลงมาเติมความดุดันในแนวรุก โดยน่าจะมาแทน เจนนาโร กัตตูโซ ที่ไม่ฟิตเต็มร้อย ดังนั้นคู่กลางจะเป็น อันเดรีย ปิร์โล กับ มัสซิโม อัมโบรซินี เช่นเดียวกัน อเลสซานโดร เดล ปิเอโร จะสตาร์ทตัวจริงแทน อันโตนิโอ ดิ นาตาเล

ทางฝั่ง โรมาเนีย พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ใช่ไม้ประดับประจำกลุ่ม เมื่อยันเสมอกับ ฝรั่งเศส 0-0 แต่เกมนี้ถือเป็นงานสุดหินของกุนซือ วิคเตอร์ ปิตูร์กา จะต้องพลิกตำรามาสู้กับ อิตาลี เนื่องจากว่านัดแรกนั้นรูปเกมสู้ทางด้าน “ตราไก่” ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย กองกลางสร้างโอกาสให้คู่หน้าอย่าง อาเดรียน มูตู และ ดาเนียล นิคูเล น้อยเกินไป

มิหนำซ้ำเกมนี้อาจจะหมดสิทธิใช้งานของ ซิเปรียน มาริกา ดาวยิงที่ถูกกระทบกระเทือนศีรษะขณะซ้อมจนต้องนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ดูแล้วน่าหนักใจสำหรับ โรมาเนีย เพราะพึ่ง มูตู มากเกินไป อีกทั้งเกมนี้น่าจะถูกจับตาย ส่วนดาวดังคนอื่นอย่าง คริสเตียน คิวู และ คอสมิน คอนทรา ก็ไปเด่นในเรื่องของเกมรับมากกว่า

ที่ผ่านมาทั้งสองทีมเจอกันมาแล้ว 14 ครั้ง อิตาลี ชนะ 10 ส่วน โรมาเนีย ชนะ 2 นัด ครั้งล่าสุดคือ ในศึก ยูโร 2000 รอบ 8 ทีม “อัซซูรี” เอาชนะไปได้ 2-0 จากประตูของ ฟรานเชสโก ต็อตติ และ ฟิลิปโป อินซากี นักเตะชุดนั้นที่เหลือมาติดทีมชุดนี้ก็มี จิอันลูกา ซามบร็อตตา, เดล ปิเอโร และ อัมโบรซินี

ผลการแข่งขันที่คาด - อัซซูรี สอย 2-0

ฮอลแลนด์ พบ ฝรั่งเศส - ที่สนาม สต๊าด เดอ ซุสซี วังก์ดอร์ฟ เมืองเบอร์เน

ฟอร์มสุดไฉไลสำหรับ ฮอลแลนด์ เมื่อยำใหญ่ อิตาลี เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี เกมนี้ขอแค่ไม่แพ้ ฝรั่งเศส โอกาสเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายค่อนข้างสดใส ที่สำคัญ จะเป็นการพิสูจน์แนวรับที่ถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนด้วย เพราะจะต้องรับมือกับแนวรุกสุดจัดจ้านของ “ตราไก่” ทั้ง คาริม เบนเซมา, ฟรองค์ ริเบรี และ ฟลอรองด์ มาลูดา

เกมนี้ มาร์โก แวน บาสเทน กุนซือ ฮอลแลนด์ คงใช้บริการแนวรุกชุดเดิมทั้ง รุด ฟาน นิสเตลรอย, เดิร์ก เคาท์, เวสลีย์ ชไนเดอร์ และ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ต่อไป ส่วน อาร์เยน ร็อบเบน และ โรบิน ฟาน เพอรซี นั้นยังไม่ฟิตเต็มร้อยน่าจะหายกลับมาเป็นทีเด็ดในรอบน็อกเอาท์มากกว่า

ฝรั่งเศส ของ เรย์มองด์ โดเมอเน็ค น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่า หลังเล่นได้ไม่ประทับใจในนัดแรกที่เสมอ โรมาเนีย โดยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะเปลี่ยน 4 ตำแหน่ง เธียร์รี อองรี ดาวยิง และ ปาทริค วิเอรา กองกลาง ที่เจ็บออดๆ แอดๆ อยู่ก่อนหน้านี้น่าจะลงมาแทน นิโกลาส์ อเนลกา และ เฌเรมี ตูลาล็อง ตามลำดับ

แต่อีกสองตำแหน่ง โดเมอเน็ค ยังลังเลเพราะแนวรับดีอยู่แล้ว คือ แบ็กซ้ายขวา วิลลี ซาฌอล และ เอริค อบิดัล เพียงแต่ดูเชื่องช้าในเกมแรก โดยมี ฟรองซัวส์ แกลร์ค และ ปาทริช เอวรา เป็นตัวสอดแทรก แต่อีกหนึ่งคนที่อาจพลิกโผได้ออกสตาร์ทคือ ซาเมียร์ นาสรี กองกลางที่เล่นได้ดีในเกมอุ่นเครื่องพบกับนักเตะเยาวชนใน ฌาแตล-แซงต์-เดอนีส์

สถิติที่ผ่านมาของทั้งสองทีมสุดสูสีเจอกันมาแล้ว 21 ครั้ง ฮอลแลนด์ ชนะ 9 ฝรั่งเศส ชนะ 8 นัด เกมสุดท้ายที่เจอกัน คือ ในปี 2004 เป็นนัดกระชับมิตรเสมอกันไป 0-0 แต่ใน ยูโร 2000 ที่ “อัศวินสีส้ม” เป็นเจ้าภาพร่วมเฉือนชนะไปอย่างสุดมัน 3-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม

ผลการแข่งขันที่คาด - ตราไก่ จิกชัย 1-0