นักเตะ “อัซซูรี่” อิตาลี หวังมีโชคบ้างเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ขณะที่ จิอันลุยจิ บุฟฟอน กระตุ้นเพื่อนคืนฟอร์มเก่งกลับมาล้ม “ตราไก่” ฝรั่งเศส เพื่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโร 2008
อิตาลี พกศักดิ์ศรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 มาเยือนสวิตเซอร์แลนด์-ออสเตรีย โม่เกือกยูโร 2008 อย่างไรก็ตาม ผ่านพ้นไปสองนัดแรกปรากฏว่าลูกทีมของ โรแบร์โต โดนาโดนี เพิ่งเก็บได้แต้มเดียวจากการเสมอ โรมาเนีย 1-1 โดยก่อนหน้านั้นโดน “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ยำใหญ่ 3-0
ซึ่งทั้งสองนัดขุนพลแข้ง “อัซซูรี่” โชคไม่เข้าข้างเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของเชิ้ตดำ โดยนัดแรกประตูเบิกร่องของ รุด ฟาน นิสเตลรอย หอกชาวดัตช์เป็นประเด็นถกเถียงว่าล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนที่ยูฟ่าจะยืนยันคำตัดสินของ ปีเตอร์ ฟรอจ์ดเฟลด์ท เชิ้ตดำชาวสวีดิช ส่วนในนัดที่สอง อิตาลี เจ๊า “ผีดิบ” นั้นทีมก็ออกมาโวยการตัดสินของ ทอม เฮนนิง โอเวรโบ จากนอร์เวย์ที่ไม่ให้ลูกโขกของ ลูกา โทนี เป็นประตู แถมยังมาเป้าจุดโทษน่ากังขาใส่ คริสเตียน ปานุชชี อีกต่างหาก
เรื่องดังกล่าว จอร์โจ คิเอลลินี ปราการหลังดาวรุ่งอิตาลี ออกมาก่น “ ตอนนี้ผู้ตัดสินทำให้เรารู้สึกว่าโชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลยจากเกมกับฮอลแลนด์ และโรมาเนีย ผมหวังว่าความผิดพลาดต่างๆ ที่มีต่อ อิตาลี คงหมดไปเสียที ”
ด้าน จิอันลุยจิ บุฟฟอน ที่ช่วยเซฟลูกโทษของ อาเดรียน มูตู ศูนย์หน้าโรมาเนีย ทำให้อิตาลียังมีหวังผ่านเข้ารอบ ออกมากระตุ้นเพื่อน “ น่าจะมีการประกันได้บ้างว่าเราควรได้รับความเคารพนับถือในเกมสำคัญ แต่ทีมต้องนำเอาการตัดสินใจของผู้ตัดสินไว้เบื้องหลัง เราต้องออกไปแสดงความเป็นตัวตนที่แท้จริงออกมาในเกมกับฝรั่งเศส และทีมคงทราบดีถึงคุณภาพของพวกเขาเพราะหลายคนก็เป็นเพื่อนร่วมทีมในระดับสโมสร ”
สำหรับ อิตาลี กับ ฝรั่งเศส มีอยู่หนึ่งคะแนนเท่ากัน ซึ่งผู้ชนะมีโอกาสผ่านเข้ารอบหาก โรมาเนีย ที่มีอยู่ 2 แต้มไปพ่ายให้แก่ ฮอลแลนด์ แชมป์กลุ่มซี ในคืนวันอังคารนี้ โดยเชิ้ตดำผู้กุมชะตากรรมขุนพลแข้ง “อัซซูรี่” และ “ตราไก่” ได้แก่ ลูบอส มิเชล มือดีชาวสโลวัก
อิตาลี พกศักดิ์ศรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 มาเยือนสวิตเซอร์แลนด์-ออสเตรีย โม่เกือกยูโร 2008 อย่างไรก็ตาม ผ่านพ้นไปสองนัดแรกปรากฏว่าลูกทีมของ โรแบร์โต โดนาโดนี เพิ่งเก็บได้แต้มเดียวจากการเสมอ โรมาเนีย 1-1 โดยก่อนหน้านั้นโดน “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ยำใหญ่ 3-0
ซึ่งทั้งสองนัดขุนพลแข้ง “อัซซูรี่” โชคไม่เข้าข้างเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของเชิ้ตดำ โดยนัดแรกประตูเบิกร่องของ รุด ฟาน นิสเตลรอย หอกชาวดัตช์เป็นประเด็นถกเถียงว่าล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนที่ยูฟ่าจะยืนยันคำตัดสินของ ปีเตอร์ ฟรอจ์ดเฟลด์ท เชิ้ตดำชาวสวีดิช ส่วนในนัดที่สอง อิตาลี เจ๊า “ผีดิบ” นั้นทีมก็ออกมาโวยการตัดสินของ ทอม เฮนนิง โอเวรโบ จากนอร์เวย์ที่ไม่ให้ลูกโขกของ ลูกา โทนี เป็นประตู แถมยังมาเป้าจุดโทษน่ากังขาใส่ คริสเตียน ปานุชชี อีกต่างหาก
เรื่องดังกล่าว จอร์โจ คิเอลลินี ปราการหลังดาวรุ่งอิตาลี ออกมาก่น “ ตอนนี้ผู้ตัดสินทำให้เรารู้สึกว่าโชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลยจากเกมกับฮอลแลนด์ และโรมาเนีย ผมหวังว่าความผิดพลาดต่างๆ ที่มีต่อ อิตาลี คงหมดไปเสียที ”
ด้าน จิอันลุยจิ บุฟฟอน ที่ช่วยเซฟลูกโทษของ อาเดรียน มูตู ศูนย์หน้าโรมาเนีย ทำให้อิตาลียังมีหวังผ่านเข้ารอบ ออกมากระตุ้นเพื่อน “ น่าจะมีการประกันได้บ้างว่าเราควรได้รับความเคารพนับถือในเกมสำคัญ แต่ทีมต้องนำเอาการตัดสินใจของผู้ตัดสินไว้เบื้องหลัง เราต้องออกไปแสดงความเป็นตัวตนที่แท้จริงออกมาในเกมกับฝรั่งเศส และทีมคงทราบดีถึงคุณภาพของพวกเขาเพราะหลายคนก็เป็นเพื่อนร่วมทีมในระดับสโมสร ”
สำหรับ อิตาลี กับ ฝรั่งเศส มีอยู่หนึ่งคะแนนเท่ากัน ซึ่งผู้ชนะมีโอกาสผ่านเข้ารอบหาก โรมาเนีย ที่มีอยู่ 2 แต้มไปพ่ายให้แก่ ฮอลแลนด์ แชมป์กลุ่มซี ในคืนวันอังคารนี้ โดยเชิ้ตดำผู้กุมชะตากรรมขุนพลแข้ง “อัซซูรี่” และ “ตราไก่” ได้แก่ ลูบอส มิเชล มือดีชาวสโลวัก