อ็อตโต เรห์ฮาเกล กุนซือทีมแชมป์เก่า กรีซ ออกมายอมรับว่า การคว้าแชมป์ของทีมเมื่อปี 2004 เป็นปาฏิหารย์ที่นานๆจะเกิดขึ้นสักครั้ง ด้าน กุส ฮิดดิงค์ กุนซือ “หมีขาว” รัสเซีย ยินดีที่ลูกทีมเรียนรู้บทเรียนจากการแพ้ในนัดแรกจนทำให้ ทีมเอาชนะ กรีซ ได้ 2-1 ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 กลุ่มดี นัดที่สอง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
เกมนัดดังกล่าว ทีมชาติรัสเซีย ทำประตูชัยในนาทีที่ 33 ของเกม จากจังหวะที่ อันโตนิออส นิโคโพลิดิส ผู้รักษาประตูของกรีซออกมาตัดบอลพลาด จนทำให้ เซอร์เก ซีมัก กองกลางทีมรัสเซีย ตีลังกาเตะบอลกลับมาที่หน้าประตูให้ คอนสแตติน ซิริยานอฟ แปบอลเข้าประตูไป ส่งผลให้ ทีมชาติรัสเซียทำได้ 3 คะแนน จากการลงแข่งสองนัดต้องไปลุ้นเข้ารอบกับทีมชาติสวีเดนในนัดสุดท้าย ซึ่งจะแข่งในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ส่วน กรีซ แข่งสองนัดยังไม่มีคะแนนตกรอบแน่นอน
อ็อตโต เรห์ฮาเกล โค้ชกรีซ ออกมาให้สัมภาษณภายหลังจบเกมว่า " ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2004 อย่างน้อย 30 ปีถึงจะมีซักครั้งหนึ่ง ในปีนั้นทีมของผมโชคดีที่ทีมอย่าง ฝรั่งเศสหรืออิตาลีไม่ผ่านเข้ามาในรอบสี่ทีมสุดท้าย นั้นไงละผมถึงคิดว่าการคว้าแชมป์ของทีมในตอนนั้นถือว่าเป็นปาฏิหาริย์"
ด้าน กุส ฮิดดิงค์ กุนซือทีมชาติรัสเซียออกมาสรรเสริญผลงานของลูกทีมว่า "เราสามารถทำให้เกมจบไปก่อนที่จะหมด 90 นาที เรามีโอกาสทำประตู 5-6 ครั้ง แต่ทำไม่ได้ แต่ทีมของผมก็พัฒนาขึ้น คุณลองเปรียบเทียบการเล่นของเราเมื่อปีที่แล้วกับตอนนี้สิ มันต่างกันเลยนะ ตอนนี้ลูกทีมรู้จักความสามารถของตนเองดีแล้ว"