ฝอยทองไม่ง่าย-สวิส ลุ้นเก็บชัยแรก / เซียนไก๋

เห็นฟอร์มทั้ง 16 ทีมประเดิมสนามไปแล้วในศึก ยูโร 2008 พอจะเห็นเค้าลางบ้างแล้วว่าใครหมู่ใครจ่า เกมในวันพุธที่ 11 มิถุนายน นี้ เป็นนัดที่สองของกลุ่ม เอ “รองแชมป์เก่า” โปรตุเกส จะพบ สาธารณรัฐเช็ก เป็นคู่แรกเวลา 23.00 น.ทุ่ม ตามด้วย “เจ้าภาพ” สวิตเซอร์แลนด์ พบ ตุรกี ในเวลาตี 01.45 น.คู่นี้มีข้อแม้ใครแพ้ตกรอบทันที

โปรตุเกส VS เช็ก - ที่สนาม สต๊าด เดอ เจนีฟ เมือง เจนีวา

ทั้งคู่ต่างคว้าชัยนัดแรกประเดิมสนามมี 3 แต้ม ตุนอยู่ในมือ แต่เกมคู่นี้ค่อนข้างมีความหมายมากพอสมควร เพราะหากทีมใดชนะก็จะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายทันที ที่สำคัญ มีสิทธิ์ที่จะหนี เยอรมนี อดีตแชมป์ 3 สมัย เต็งจ๋าที่น่าจะซิวแชมป์กลุ่ม บี ได้ไม่ยาก ซึ่งนั่นก็แสดงถึงโอกาสทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศที่จะมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ

โปรตุเกส โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจเอาชนะ ตุรกี 2-0 หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี กุนซือชาวบราซิเลียน ก็คงจะไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรคงยึดนักเตะชุดเดิมทั้งหมด แต่มีผู้เล่นหน้าใหม่ที่เดินทางมาสมทบ ก็คือ นูโน เอสปิริโต ซานโต นายทวารที่มาแทน ควิม ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ว่าก็ยังต้องนั่งสำรอง ริคาร์โด ต่อไป

ผิดกับ เช็ก ที่เล่นไม่เอาอ่าวแต่ยังเฉือนชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 เกมนี้ คาเรล บรูคเนอร์ จำต้องแก้ปัญหาในเกมรุกที่ขาดตัวปั้นเกมอย่าง โทมัส โรซิคกี ทำให้ มาเร็ค มาเตยอฟสกี มีลุ้นเบียด ดาวิด ยาโรลิม ลงเล่น ส่วนกองหน้า แยน โคลเลอร์ คงประจำการต่อไปเพื่อใช้ความใหญ่งัดกับ ริคาร์โด คาร์วัลโญ กับ เปเป้ คู่กองหลังของ โปรตุเกส ที่มีความเร็ว

เกมนี้คาดว่า บรูคเนอร์ จะเปลี่ยนแผนจากที่เล่น 4-5-1 ในเกมแรกมาเป็น 4-4-2 โดยจะส่ง มิลาน บารอส ดาวซัลโว 5 ประตูจากหนที่แล้ว มาแทนกองกลางอย่าง ยาโรสลาฟ พลาซิล เพื่อมายืนคู่กับ โคลเลอร์ ส่วน วาคลาฟ สเวอร์คอส กองหน้าที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับยิงเจ้าภาพ จึงยังต้องรอโอกาสที่ม้านั่งสำรองต่อไป

สำหรับสถิติการเจอกันของทั้งสองทีมที่ผ่านมา 11 ครั้ง นับที่ เช็ก ยังรวมกับ เชโกสโลวาเกีย ปรากฎว่า เช็ก ชนะ 4 และ โปรตุเกส ชนะ 3 นัด หนล่าสุดที่เจอกัน คือ ในศึก ยูโร 1996 รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเป็น เช็ก ที่เอาชนะไปได้ 1-0 จากลูกตักมหัศจรรย์ของ คาเรล โพบอร์สกี จนสามารถทะลุเข้าไปคว้ารองแชมป์ได้ในบั้นปลาย

ผลการแข่งขันที่คาด - ถือว่าเป็นเกมที่สูสีน่าดูอย่างมาก แม้ว่าโฉมหน้าทีมของ เช็ก จะเปลี่ยนไปมากก็ตาม แต่ก็น่าจะเป็นรองเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น จุดเด่นอยู่ที่เกมรับที่มีนักเตะประสบการณ์สูงอย่าง ปีเตอร์ เช็ก, โทมัส อูฟาลูซี และ มาเร็ค แยนคูลอฟสกี จบเกมจึงน่าเสมอกันไป 1-1

สวิตเซอร์แลนด์ VS ตุรกี - ที่สนาม เซนต์ จาค็อบ-ปาร์ค เมืองบาเซิล

การที่ทั้งคู่แพ้มาในเกมแรก ทำให้นัดนี้มีทีเด็ดอะไรต้องงัดออกมาให้หมด เพราะว่าผลเสมอไม่ดีสำหรับทั้งสองทีม จำเป็นต้องมีผู้ชนะ แต่หากใครแพ้ก็ตกรอบทันที สถานการณ์จึงถือว่าหน้าสิ่วหน้าขวานพอกัน แต่ว่า สวิตเซอร์แลนด์ ดูดีกว่าเล็กน้อย เนื่องจากเป็นเจ้าถิ่นและฟอร์มนัดแรกก็แจ่มกว่า ส่วน ตุรกี ดูเหมือนจะยังจูนเข้าหากันไม่ได้

ปี 2005 ทั้งสองทีมเคยเจอกันในรอบเพลย์ออฟ เพื่อลุยฟุตบอลโลก 2006 และเกิดตะลุมบอนกันทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ช ที่ อิสตันบลู สเตฟาน กริชติง กองหลัง สวิตเซอร์แลนด์ ถูกหามส่งโรงพยาบาล อัลปาย โอซาลัน และ เอ็มเร เบโลโซกลู สองนักเตะ ตุรกี โดนแบน สุดท้าย สวิส ผ่านเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน หลังสองนัดเสมอกัน 4-4

นัดนี้ สวิตเซอร์แลนด์ อาจมีปัญหาการจบสกอร์ เนื่องจากไม่มี อเล็กซานเดอร์ ฟราย ดาวยิงสูงสุดที่เจ็บเอ็นหัวเข่าหมดโอกาสลงเล่นทั้งทัวร์นาเมนต์ มาร์โก สเตรลเลอร์ จึงต้องยืนเป็นหน้าตัวหลัก แต่ว่า โคบี คูห์น มีทางเลือกคือเล่น 4-5-1 ส่ง ฮาคาน ยาคิน มาเติมกองกลาง หรือให้ โยฮัน ฟอนลันเตน กับ เอเรน เดอร์ดิยอค คนใดคนหนึ่งมายืนหน้าอีกคน

ตุรกี มีปัญหาพอสมควร เมื่อจะไม่มี ก็อคฮาน ซาน กองหลังที่เจ็บเข่าในเกมแรกที่แพ้ โปรตุเกส ทำให้ เอ็มเร เอซิค จะได้ลงเล่นแทน รวมถึง เซอร์เว็ต เซติน เซนเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญ เจ็บที่หัวเข่าต้องลุ้นจนนาทีสุดท้ายว่าจะลงช่วยทีมได้หรือไม่ ถือว่าน่าหนักใจสำหรับ ฟาติห์ เตริม เพราะนัดแรกขุนพลไก่งวง ไม่มีใครเล่นได้โดดเด่นเลย

ผลการแข่งขันที่คาด - แม้ว่าเกมนี้ สวิตเซอร์แลนด์ จะไม่มี ฟราย แต่ว่ารูปเกมยังดูดีกว่า โดยเฉพาะทีมเวิร์กที่บด เช็ก จนอยู่หมัดในนัดแรกแต่ยิงไม่ได้ ผิดกับ ตุรกี ที่เหมือนต่างคนต่างเล่นขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน สุดท้ายแล้ว สวิส น่าจะคว้าชัยได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-1