ตาม “เซียนไก๋” ไปยูโร / สาวหน้าใสกับหนุ่มดูโอ

ต้องขอเล่าที่มาที่ไปกันก่อน เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่ลา มาไม่ไหว้ ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ เว็บไซด์ผู้จัดการ ในส่วนของ MGR Sport หน้าตาจะต่างจากเดิมเล็กน้อย นั่นก็เพราะเทศกาล ยูโร 2008 ที่มาเยี่ยมเยือนเราจึงต้องปรับกระบวนทัพให้มีกลิ่นอายตลบอบอวลไปด้วยเรื่องราวของลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็จะมี 3 ส่วน คือ บทวิเคราะห์เกมทุกนัดพร้อมฟันธง (ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง) ทุกนัด ซึ่งมีผม “เซียนไก๋ เจริญกรุง” จะสลับสับเปลี่ยนกับ “เกรียนมู Return” มารับใช้แฟนๆ รวมถึง Blog และ Star EURO เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงและหายใจเข้าออกเป็น ยูโร อย่างเดียวตลอดเกือบ 1 เดือนนี้

แต่ที่อยากนำเสนอมากเป็นพิเศษคงเป็นส่วนของ Blog ตามรอย “เซียนไก๋” ที่จะเกี่ยวก้อย “เด็กปั๊ม” ไปฮันนีมูน เอ้ย! ไปทำภารกิจสำคัญยิ่งชีพแบกความหวังของคนทั้งออฟฟิศ (เวอร์ไป) เหินฟ้าไปเก็บบรรยากาศรอบสนามของศึก ยูโร ถึงที่ สวิตเซอร์แลนด์ และ ออสเตรีย มาฝากกัน โดยจะอัปเดตให้อ่านกันทุกวัน

เหตุที่เราทั้งคู่ได้รับเลือกจาก พี่เดื่อ บก.ใหญ่ประจำโต๊ะกีฬา ทั้งที่ความรู้ด้านภาษาอังกฤษ มีแค่หางอึ่ง ประมาณพูดได้แค่ เซตวัน เซตทู ไว้สั่งแมคโดนัลด์กินกันตาย ในส่วนของผมก็เพราะว่าหน้าตาและชาติตระกูลค่อนข้างดี ส่วน “เด็กปั๊ม” เนื่องมาจากว่าเป็นฝ่ายเทคนิคประจำโต๊ะของเรา จึงได้รับหน้าที่ให้ไปเก็บทั้งวิดีโอและภาพนิ่งกลับมา

ก็หวังว่าตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่นทั้งผมและ “เด็กปั๊ม” คงจะไม่ตกระกำลำบากตกทุกข์ได้ยาก จนเห็นใจซึ่งกันและกัน กลับมาเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนร่วมงานเลยเถิดถึงขั้นเป็นเพื่อนใจ พูดง่ายๆ ก็คือ ประมาณ “เพื่อนกูรักมึงวะ” นั่นแหละ คิดแล้วก็คลื่นเหียนอยากจะอ้วกขึ้นมาทันที ได้แต่ภาวนาว่าอย่าเผลอใจเด็ดขาด

เราเผชิญอุปสรรคกันตั้งแต่อยู่ที่นี่ เรื่องของเรื่อง ก็คือ วันที่ไปขอวีซ่า ณ สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ คิดว่า บริสุทธิ์ใจไม่ได้จะไปค้าอาวุธสงคราม ก็คงจะไม่มีปัญหา ที่ไหนได้พนักงานสาวหน้าใสๆ ทำให้ผมและ “เด็กปั๊ม” อึ้งจนพูดไม่ออก เนื่องจากบอกให้เราไปเอาเอกสารมาใหม่ รวมถึงทรัพย์สมบัติที่ยืนยันว่าจะไม่นอนข้างทางเกะกะบ้านเมืองเขา

วันนั้นผมนึกในใจอยากจะบอกน้องสาวคนนั้นว่า “นี่น้องผม เด็กปั๊ม แต่งตัวฟูลออปชันขนาดนี้ รองเท้าหนังงี้ กางเกงผ้า เข็มขัดเวอร์ซาเช่ เสื้อจีคิว ยังไม่ให้ผ่านอีกหรือคุณ” ทำเอาเรากลับมาต้องวิ่งวุ่นกันเป็นวันทั้งโต๊ะกีฬาเพื่อดันให้วีซ่าครั้งนี้ผ่านให้ได้ เพราะประธานสโมสรผู้จัดการเอฟซี (ฮา) อุตส่าห์ไฟเขียวให้โครงการนี้ผ่านฉลุยตั้งแต่แรก

แต่จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรหรอก นำมาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ ผมและ “เด็กปั๊ม” ไม่ได้โกรธแค้นน้องคนนั้นเลย เพราะเข้าใจว่าทำตามหน้าที่อย่างแข็งขัน หากบกพร่องก็จะโดนเจ้านายเอ็ดเอา ถ้าบ้านเมืองเรามีทรัพยากรแบบนี้เยอะๆ ก็คงจะดี ต่อไปต้องลุ้นว่า สถานทูตออสเตรียจะเป็นเช่นไร แล้วไว้ผมจะนำมาเล่าให้ฟังกันในครั้งหน้านะครับ