"เจ๊มิ่ง" หรือนามจริง "ขวัญมิ่ง แสงทองดำอร่ามตู๊ด" แจ้งเกิดทางสาธารณชนด้วยการเริ่มต้นเป็นเซลส์ (แอ๊บ) แมนขายรถพะยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งโฆษณาว่ามีบั้นหรือกระบะท้ายเยี่ยมยอดที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา เพราะไม่ว่าจะระดมอัด อัด อัดสรรพสิ่งของเข้าไปเท่าไร แต่กระบะหรือบั้นท้ายของรถพะยี่ห้องดังกล่าวกลับ "รองรับ"ได้ราวแรดสายพันธุ์อีที
กำลังทำหน้าที่เป็นเซลส์ (แอ๊บ) แมน ร้องแรกแหกกระเชอขายบั้นท้ายรถอยู่ๆ ดี วันหนึ่งเจ๊มิ่ง หรือขวัญมิ่ง แสงทองดำอร่ามตู๊ด ก็ยักย้ายส่ายตูดคล้ำๆ เข้ามาทำหน้าที่ปลุกและปล้ำจนสถานีวิทยุ "ซี้ดอูยยย์เรดิโอ" ส่งเสียงครางกระหึ่มไปทั่วแคว้นแดนสนธยา โดยผู้ที่ทำหน้าที่กุมบังเหียนโขยกและขย่มจนคลื่นวิทยุซี้ดอูยยย์เรดิโอติดเรตอ้า โอว์ ฮันนี พลีส คัมมอน...โอมายก็อด โอ้...เย เย้ เย้ ได้แก่ "ตุ้ยตุ๋ย" ลูกชายของอดีตผู้จัดการทีมลูกหนังชื่อดัง ที่พักหลังๆ ผันผายตัวเองมาเล่นการเมือง
จากตำแหน่งใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มที่สร้างชื่อและเครดิตไว้ในอดีต ปัจจุบัน "เจ๊มิ่ง" หรือขวัญมิ่ง แสงทองดำอร่ามตู๊ด ก็กำลังจะได้รับโบนัสพิเศษจากเสี่ยใหญ่-นายแม้ว ดูแลเศรษฐกิจให้กับรัฐบาล "หมัก ณ นอมินี"
ด้วยเหตุนี้เจ๊มิ่ง-ขวัญมิ่ง แสงทองดำอร่ามตู๊ด จึงนำเสนอนโยบายหลักออกมาให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบ เป็น 3 ลำดับประเดิมเริ่มแรก คือ
1. จัดโรดโชว์ขายสินค้า-อาหารราคาถูกตระเวนไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่เปลี่ยนจากโครงการธงฟ้า เป็น "ธงม่วง" โดยมีสโลแกนกิ๊บเก๋เท่โคตรๆ ว่า "เห็นธงม่วงที่ไหน สัมผัสความลึกเร้นของลำไส้ใหญ่ได้ที่นั่น"
2. เปลี่ยนนโยบาย "ครัวไทยไปครัวโลก" เป็น "กะเทยไทยทัวร์โลก" ภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีสโลแกนโมเดิร์นเกินคาดว่า "กะเทยไทย ไม่ลองไม่รู้ ดูสิว่าคุณจะเลือกสิ่งไหน มีแต่ชายที่รู้ซึ้งถึงความเป็นชายด้วยกัน" (อ้วก!)
3. ประกันราคา "ถั่วดำ" ให้เทียบเท่ากับราคาทองคำแท่ง
ทั้งนี้แล้วก็ทั้งนั้น เจ๊มิ่งหรือขวัญมิ่งตอกย้ำกำชับอย่างหนักแน่นว่า เขาจะให้ความสำคัญกับนโยบายประกันราคาถั่วดำมากที่สุด อันเนื่องมาจากความคิดเห็นที่ว่า
"ถ้าโลกนี้ไม่มีถั่วดำ ผมคิดว่าชีวิตจะไม่มีอะไรให้อภิรมย์สำราญได้อีกแล้ว
ดังนั้น ราคาถั่วดำในยุคที่มีผมเป็นกุนซือเศรษฐกิจ จึงต้องมีดัชนีสูงสุดเทียบเท่ากับทุเรียนชะนี ชะอุ้ย! พูดผิดไปนี้ดดดดนึง ความจริงผมจะบอกว่าดัชนีถั่วดำของไทยต้องเทียบได้กับราคาทองคำแท่ง อันนี้ขวัญมิ่งรับประกันนะฮ้า ฮี้ฮี้ฮี้"