โฮเซ มูรินโญ กุนซือคนใหม่ของ อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งเซเรีย อา อิตาลี ยันตนเองไม่ใช่ “เดอะ สเปเชียล วัน” อีกต่อไป แต่ทัพ “งูใหญ่” ต่างหากที่เป็นสโมสรสุดพิเศษ
สร้างชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่ววงการลูกหนังเมื่อพา เอฟซี ปอร์โต ผงาดครองจ้าวยุโรปเมื่อปี 2004 จากนั้น โฮเซ มูรินโญ ก็ได้โอกาสมาทำงานกับ เชลซี และก็พา “สิงห์บลูส์” ซิวแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ถึงสองสมัยจนแฟนๆ ต่างยกให้เป็น “เดอะ สเปเชียล วัน”
อย่างไรก็ตาม “เฮียมู” โดนเตะตกเก้าอี้ เชลซี ไปเมื่อปลายปีก่อน จนมาถึงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมากุนซือชาวโปรตุกีสก็ได้รับการแต่งให้เข้ามาคุมบังเหียน อินเตอร์ มิลาน แชมป์เซเรีย อา สามสมัยติดต่อกัน ซึ่งเมื่อคืนวันอังคาร มูรินโญ ออกมาเปิดปากในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
มูรินโญ เผย “ ผมคือ โฮเซ มูรินโญ ไม่ใช่อื่นใดทั้งนั้น เป็นทาง อินเตอร์ มิลาน ต่างหากที่เป็นอะไรที่พิเศษสุด ผมคิดว่าตัวเองเป็นโค้ชที่ดีแต่ไม่ได้ต้องการเป็นคนพิเศษสุดอีกต่อไป ผมยังคงเป็นผมเองไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ยังคงมีความกระหายในการทำงาน ”
“ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นโค้ชให้สโมสรใหญ่ในอิตาลี ผมอยากขอบคุณ มัสซิโม โมรัตติ ประธานสโมสรและมาร์โก บรังกา ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคที่มอบโอกาสนี้ให้แก่ผม นี่ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ยิ่งสำหรับตัวผมเอง ” เฮียมู กล่าวต่อ
นอกจากนี้กุนซือวัย 45 ปียังปัดข่าวลือที่ว่าตัวเองเตรียมปฏิวัติทัพ “งูใหญ่” เสียใหม่ด้วยการดึงลูกน้องเก่าที่เชลซีอย่าง ริคคาร์โด คาร์วัลโญ, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิคาเอล เอสเซียง และดิดิเยร์ ดร็อกบา รวมถึง เดโก ซูซา และซามูเอล เอโต สองแข้ง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา รวมทั้งนักเตะโปรตุกีสรายอื่นๆ เข้าสู่ถิ่นจูเซ็ปเป เมียซซา
“ เมื่อผมอ่านข่าวที่ว่าตัวเองเตรียมทำงานกับนักเตะราว 60 คนนั้นมันไม่เป็นความจริงเลย ผมพอใจกับผู้เล่นที่เรามีอยู่ พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมผมไม่ต้องการมาเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ผมคิดว่า อินเตอร์ มิลาน แค่อยากได้นักเตะเพิ่มอีกสัก 2-3 รายสำหรับสู้กับศึกต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่วนความสัมพันธ์กับผู้เล่นเชลซี เป็นธรรมดาที่พวกเขาอยากมาร่วมงานกับผมในอนาคต และผมก็คิดเหมือนๆ กันกับพวกเขา ” มูรินโญ ทิ้งท้าย
สร้างชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่ววงการลูกหนังเมื่อพา เอฟซี ปอร์โต ผงาดครองจ้าวยุโรปเมื่อปี 2004 จากนั้น โฮเซ มูรินโญ ก็ได้โอกาสมาทำงานกับ เชลซี และก็พา “สิงห์บลูส์” ซิวแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ถึงสองสมัยจนแฟนๆ ต่างยกให้เป็น “เดอะ สเปเชียล วัน”
อย่างไรก็ตาม “เฮียมู” โดนเตะตกเก้าอี้ เชลซี ไปเมื่อปลายปีก่อน จนมาถึงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมากุนซือชาวโปรตุกีสก็ได้รับการแต่งให้เข้ามาคุมบังเหียน อินเตอร์ มิลาน แชมป์เซเรีย อา สามสมัยติดต่อกัน ซึ่งเมื่อคืนวันอังคาร มูรินโญ ออกมาเปิดปากในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
มูรินโญ เผย “ ผมคือ โฮเซ มูรินโญ ไม่ใช่อื่นใดทั้งนั้น เป็นทาง อินเตอร์ มิลาน ต่างหากที่เป็นอะไรที่พิเศษสุด ผมคิดว่าตัวเองเป็นโค้ชที่ดีแต่ไม่ได้ต้องการเป็นคนพิเศษสุดอีกต่อไป ผมยังคงเป็นผมเองไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ยังคงมีความกระหายในการทำงาน ”
“ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นโค้ชให้สโมสรใหญ่ในอิตาลี ผมอยากขอบคุณ มัสซิโม โมรัตติ ประธานสโมสรและมาร์โก บรังกา ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคที่มอบโอกาสนี้ให้แก่ผม นี่ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ยิ่งสำหรับตัวผมเอง ” เฮียมู กล่าวต่อ
นอกจากนี้กุนซือวัย 45 ปียังปัดข่าวลือที่ว่าตัวเองเตรียมปฏิวัติทัพ “งูใหญ่” เสียใหม่ด้วยการดึงลูกน้องเก่าที่เชลซีอย่าง ริคคาร์โด คาร์วัลโญ, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิคาเอล เอสเซียง และดิดิเยร์ ดร็อกบา รวมถึง เดโก ซูซา และซามูเอล เอโต สองแข้ง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา รวมทั้งนักเตะโปรตุกีสรายอื่นๆ เข้าสู่ถิ่นจูเซ็ปเป เมียซซา
“ เมื่อผมอ่านข่าวที่ว่าตัวเองเตรียมทำงานกับนักเตะราว 60 คนนั้นมันไม่เป็นความจริงเลย ผมพอใจกับผู้เล่นที่เรามีอยู่ พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมผมไม่ต้องการมาเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ผมคิดว่า อินเตอร์ มิลาน แค่อยากได้นักเตะเพิ่มอีกสัก 2-3 รายสำหรับสู้กับศึกต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่วนความสัมพันธ์กับผู้เล่นเชลซี เป็นธรรมดาที่พวกเขาอยากมาร่วมงานกับผมในอนาคต และผมก็คิดเหมือนๆ กันกับพวกเขา ” มูรินโญ ทิ้งท้าย
