พลิกปูมสถิติแข้งไทย ปะทะ บาห์เรน สถิติสุดสูสี พบกัน 4 ครั้ง ชนะ-เสมอ-แพ้ เท่ากัน ด้าน "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา และ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย มั่นใจศึกบอลโลกจันทร์นี้มีเฮ
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มบี ระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติบาห์เรน ในวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2551 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
ซึ่งเกมนัดดังกล่าวมีความหมายต่อทีมชาติไทยมาก เนื่องจากผ่านมา 2 นัดแรก ยังไม่มีคะแนน ด้วยผลงานแพ้ทีมชาติญี่ปุ่นถึงแดนปลาดิบ 4-1 และการเปิดบ้านแพ้ให้กับทีมชาติโอมาน 0-1 รั้งอันดับบ๊วยของกลุ่ม ขณะที่ทีมนักเตะบาห์เรนนั้นเปิดหัวได้สุดสวย หลังเอาชนะได้ทั้ง โอมาน และ ญี่ปุ่น ใน 2 นัดแรก พร้อมกับนำจ่าฝูงด้วย 6 คะแนนเต็มเลยทีเดียว
ก่อนที่จะมาพบกันในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ จากสถิติที่มีการบันทึกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ทั้งสองทีมเคยเจอกันมา ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยมีสถิติสุดสูสี เมื่อทีมชาติไทยชนะ 1 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง และแพ้ 1 ครั้ง ยิงได้ 3 ประตู แต่เสียไป 4 ประตู
โดยในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนั้นทั้งคู่เคยต้องดวลกันเมื่อฟุตบอลโลกปี 2002 ในกลุ่ม 2 ซึ่งนัดแรกเล่นกันที่กรุงเทพ เสมอกัน 1-1 ขณะที่นัดที่ 2 เล่นกันที่บาห์เรน เสมอกัน 1-1 เช่นเดียวกัน
ส่วนอีก 2 นัดเป็นเกมนัดกระชับมิตร ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ผลัดกันแพ้ชนะ โดยเมื่อปี 1980 แข่งขันกันที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ทีมไทยชนะบาห์เรน 1-0 ขณะที่ในปี 2004 แข่งขันกันที่กรุงเทพมหานคร ทีมไทย แพ้ บาห์เรน 0-2
ด้าน "หนุ่มมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติไทย เผยก่อนเกมดังกล่าวว่า "ผมเพิ่งมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่นาน เรื่องจังหวะอาจจะยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง แต่เชื่อว่าหากเราเล่นได้เหมือนเกมกับ อิรัก ก็น่าจะเป็นเกมที่สนุกแน่ ความหวังก็คือต้องชนะให้ได้เพื่อโอกาสในฟุตบอลโลก"
ขณะที่ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ดาวยิงขาประจำของทีมชาติไทย กล่าวว่า "เราแข่งขันก็หวังชนะทุกครั้ง หากดูตามสถิติก็สูสีมาก แต่เชื่อว่าการได้เล่นในบ้านเราน่าจะทำได้ดีกว่าบาห์เรน"