xs
xsm
sm
md
lg

เรียกน้ำย่อย “ผี-เชลซี” 10 สุดยอดนัดชิงถ้วยยุโรป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ก่อนนัดชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ 2 สมัย พบกับ เชลซี ที่เข้าชิงเป็นครั้งแรก จะระเบิดขึ้นในวันพุธที่ 21 พฤษภาคมนี้ที่ ลุซนิกี สเตเดียม ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เรามาอุ่นเครื่องด้วย 10 สุดยอดนัดชิงที่ผ่านมาเป็นการเรียกน้ำย่อยสักหน่อยดีกว่า

1.ลิเวอร์พูล เสมอ เอซี มิลาน 3-3 ในปี 2005
สุดยอดการคัมแบ็กแห่งประวัติศาสตร์ มิลาน ทิ้งห่าง 3-0 ในครึ่งแรก แต่จากนั้นครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ใช้เวลาเพียง 6 นาทีบดตีเสมอ 3-3 จาก สตีเวน เจอร์ราร์ด, วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ และ ชาบี อลอนโซ ก่อนเอาชนะจุดโทษคว้าแชมป์มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ
สุดยอดคัมแบ็กต้องให้ ลิเวอร์พูล
2.รีล มาดริด ชนะ ไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต 7-3 ในปี 1960
เป็นนัดชิงชนะเลิศที่ยิงประตูกันมากที่สุดถึง 10 ลูก ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต คงไม่อยากเชื่อว่าพวกเขายิงได้ถึง 3 ประตูแต่ว่าไม่ได้แชมป์ เพราะว่า รีล มาดริด ยิงได้ถึง 7 ประตูจาก เฟเรนซ์ ปุสกัส คนเดียว 4 ประตู บวกด้วยแฮตทริกของ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน

3.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ บาเยิร์น มิวนิก 2-1 ในปี 1999
ปีนี้เหมือนการคว้าแชมป์ที่ช็อกที่สุดหากจะเทียบกับลิเวอร์พูล เมื่อปี 2005 เพราะตลอด 90 นาทีเป็น บาเยิร์น ที่เหนือกว่าและนำอยู่ด้วยประตูของ มาริโอ บาสเลอร์ แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯยู ทำสิ่งที่เหลือเชื่อแซงชนะจากประตูของ 2 ตัวสำรอง เท็ดดี เชอริงแฮม และ โอเล กุนนาร์ โซลชา
แมนฯยู ในปี 1999 ที่ว่ากันว่าช็อกที่สุด
4.เอซี มิลาน ชนะ บาร์เซโลนา 4-0 ในปี 1994
นัดชิงปีนี้ มิลาน ดูเป็นรองหลายขุมเมื่อไม่มี 2 สุดยอดกองหลังที่โดนแบนทั้ง ฟรังโก บาเรซี และ อเล็กซานโดร คอสตาคูร์ตา เพราะต้องรับมือกับแนวรุกที่อันตรายที่สุดในโลกเวลานั้นทั้ง โรมาริโอ และ ฮริสโต สตอยคอฟ แต่ว่าเป็น มิลาน ที่ชนะไปอย่างท่วมท้น 4-0 โดยเฉพาะลูกที่ 3 ของ เดยัน ซาวิเซวิช ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมาก

5.เบนฟิกา ชนะ รีล มาดริด 5-3 ในปี 1962
รีล มาดริด ผงาดเข้าชิงเจ้ายุโรปครั้งที่ 6 ในรอบ 7 ปี โดยก่อนหน้านั้นคว้าแชมป์มาครองได้ถึง 5 สมัยรวด แม้ว่า เฟเรนซ์ ปุสกัส จะทำแฮตทริก แต่ว่าก็ต้องพ่ายให้กับ เบนฟิกา ที่มี ยูเซบิโอ แจ้งเกิดด้วยการเหมายิง 2 ประตูในวัย 20 ปีเท่านั้น
รีล มาดริด ยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
6.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เบนฟิกา 4-1 ในปี 1968
ฟ้าหลังฝน มักสดใสเสมอ หลังโศกนาฎกรรมเครื่องบินตกที่ มิวนิค เมื่อปี 1958 คร่าชีวิตนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด จากนั้นกุนซือ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี 1 ในผู้รอดชีวิตก็พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นครั้งแรก เซอร์ บ็อบบี ชาร์ลตัน ยิงให้ทีมขึ้นนำไปก่อน แต่ถูก เบนฟิกา ตีเสมอ แต่ช่วงต่อเวลาพิเศษ “ผีแดง” ก็ยิงเอาชนะไปได้ในที่สุดจาก จอร์จ เบสต์, ไบรอัน คิดด์ และ ชาร์ลตัน ปิดท้ายอีกลูก

7.รีล มาดริด ชนะ แร็งส์ 4-3 ในปี 1956
เป็นครั้งแรกของนัดชิงเจ้ายุโรป แร็งส์ จากฝรั่งเศส ช็อกแฟนบอลเพราะเพียงแค่ 10 นาทีก็ขึ้นนำยอดทีมของ สเปน ไปถึง 2-0 แต่ว่า อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน, ฮิตแมน เฮคตอร์ ริอัล และ มาร์กอส อลอนโซ มาร์คิตอส ก็ช่วยให้ รีล มาดริด พลิกกลับมาชนะได้อย่างสุดมัน 4-3

8.กลาสโกว์ เซลติก ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-1 ในปี 1967
อินเตอร์ ออกนำอย่างรวดเร็วเพียงแค่ 7 นาทีจากลูกจุดโทษของ ซานโดร มาสโซลา แต่แล้ว เซลติก ที่ไม่มีทีท่าว่าจะยิงประตูได้กลับซัดสองประตูรวดจาก ทอมมี เจมเมลล์ และ สตีวี ชาลเมอร์ส คว้าแชมป์ไปได้อย่างไม่มีใครคาดคิด

9.เอซี มิลาน ชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 4-0 ในปี 1989
ยุคสามทหารเสือ มาร์โก แวน บาสเท่น, รุด กุลลิท และ แฟรงค์ ไรจ์การ์ท พา มิลาน คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 3 หลังจากโชว์ฟอร์มสุดเหนือชั้นเอาชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ ในนัดชิงอย่างง่ายดาย 4-0 แวน บาสเท่น และ กลุลิท เหมาซัดคนละสองประตู โดยเกมจบตั้งแต่ 46 นาทีแรก

10.ลิเวอร์พูล ชนะ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 3-1 ในปี 1977
ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกด้วยการเอาชนะ มึนเชนกลัดบัค 3-1 แต่สาวก “เดอะ ค็อป” ก็เสียวไม่น้อย หลังจาก เทอร์รี แม็กเดอร์ม็อตต์ ยิงให้ทีมนำไปก่อน แต่ว่าถูกตีเสมอได้จาก อัลลัน ซิมอนเซน ทั้งที่รูปเกมเหนือกว่า แต่ในที่สุดแล้ว ทอมมี สมิธ และ ฟิล นีล ก็มายิงให้ทีมชนะไปในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น