ในปี 1984 สาวน้อย สเตฟฟี่ กราฟ เข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในนามทีมชาติเยอรมนี ตะวันตก ด้วยวัยเพียง 15 ปี สร้างสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่เข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสของกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ และสามารถก้าวไปถึงตำแหน่งชนะเลิศได้ด้วย ทว่าน่าเสียดายที่ไม่ได้รับเหรียญทอง เนื่องจากในครั้งนั้น เทนนิส เป็นเพียงแค่กีฬาสาธิตเท่านั้น
ด้วยพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิด กราฟ สามารถก้าวขึ้นสู่หมายเลข 1 ของโลก ประเภทหญิงเดี่ยวได้ในอีก 3 ปีต่อมา กระทั่งปี 1988 แร็กเกตสาวเลือดดอยท์ชประกาศศักดาในวงการหวดลูกสักหลาด เมื่อเดินหน้าคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 รายการ ไล่ตั้งแต่ ออสเตรเลียน โอเพ่น, เฟรนช์ โอเพ่น, วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพ่น กลายเป็นนักเทนนิสหญิงคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่กวาดแชมป์ครบทุกแกรนด์สแลมมาครองได้
ความสุดยอดของ สเตฟฟี่ ยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เมื่อเธอเข้าร่วมศึกโซล เกมส์ ที่เกาหลีใต้ ในปีเดียวกัน โดยพกพาสถิติสวยหรู ชนะ 35 แมตช์ติดต่อกันมาด้วย และในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว กราฟ ก็จัดการสยบ กาเบรียล่า ซาบาตินี่ คู่แข่งจากอาร์เจนติน่า 2 เซตรวด 6-3, 6-3 คว้าเหรียญทองมาคล้องคอได้สำเร็จ พร้อมทั้งได้รับการบันทึกว่าทำ “โกลเด้น สแลม” ได้เป็นคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้
นอกจากเหรียญทองแล้ว กราฟ ยังสามารถเก็บเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้อีก 2 เหรียญ แบ่งเป็นเหรียญทองแดง ประเภทหญิงคู่ ที่แดนโสมขาว และเหรียญเงิน ประเภทหญิงเดี่ยว ในบาร์เซโลน่า เกมส์ ปี 1992
ในส่วนของสถิติส่วนตัวนั้น มีการบันทึกว่าช่วงระหว่าง 17 สิงหาคม 1987 ถึง 10 มีนาคม 1981 กราฟ ครองความเป็นมือวางอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันนานถึง 186 สัปดาห์เลยทีเดียว และเมื่อเธอประกาศวางมือในปี 1999 สถิติตลอดการเล่นอาชีพก็ยอดเยี่ยมเกินคำบรรยาย โดยสามารถเอาชนะได้ถึง 902 แมตช์ แพ้เพียง 115 ครั้ง คิดเป็นค่าเฉลี่ยได้ 88.7 % สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก คริส เอเวิร์ต ตำนานชาวอเมริกันที่ทำไว้ 90 % เพียงคนเดียวเท่านั้น