ฟูแล่ม ดิ้นรนสุดชีวิตก่อนเอาชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทีมร่วมชะตากรรมหนีตกชั้น 2-0 โดยได้ประตูจาก ไบรอัน แม็คไบรด์ และ เอริค เนฟแลนด์ เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ ทำให้การลุ้นอยู่รอดในพรีเมียร์ชิปเข้มข้นจนถึงนัดสุดท้าย
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2551
ฟูแล่ม 2 – 0 เบอร์มิงแฮม ซิตี้
ศึกหนีตายของลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ฟูแล่ม เปิดสนามคราเวน คอทเทจ รับการมาเยือนของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เกมนี้เจ้าถิ่นขนแนวรุกอย่าง คลินท์ เดมพ์ซีย์, ดิโอมองซี่ กามาร่า และ ไบรอัน แม็คไบรด์ ลงเต็มอัตราศึกหวังทำประตูคว้าชัยชนะให้ได้ ส่วนทีมเยือนก็มาในชุดเก่งมี โอลิวิเยร์ กาโป, เจมส์ แม็คฟาดเด้น และ มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ เป็นตัวความหวัง
เปิดฉากมาได้ 6 นาที เจ้าสัวน้อยหาโอกาสสร้างความหวาดเสียวได้ก่อน พอล คอนเชสกี้ โยนบอลจากด้านซ้ายเข้ามาให้ ไบรอัน แม็คไบรด์ สอดเข้ามาพุ่งโหม่งเช็ดคานออกหลังไป แต่จังหวะนี้ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าด้วย
จากนั้น 2 นาที เจ้าถิ่นน่าได้ประตูขึ้นนำจากลูกฟรีคิกมุมเขตโทษฝั่งขวา จิมมี่ บุลลาร์ด ผ่านเรียดขนานเส้นเขตโทษเลยมาถึง ไซมอน เดวีส์ กดด้วยขวาเต็มๆ บอลย้อนศรทำท่าจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่ ไมค์ เทย์เลอร์ ปฏิกิริยาไวเหลือเชื่อ พุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ กามาร่า จะได้บอลจากการเปิดข้ามแผงหลังของ แดนนี่ เมอร์ฟี่ เข้าไปกดในเขตโทษด้านซ้าย ถูก ไมค์ เทย์เลอร์ ยืนดักไว้ได้ที่เสาแรก แต่ก็ยังเป็นจังหวะล้ำหน้าอีกหน
เข้าสู่นาทีที่ 29 ลูกโลกมีโอกาสบ้างจากการลากลุยขึ้นมาได้สวยของ แม็คฟาดเด้น ก่อนไหลออกทางซ้ายให้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน กระชากขึ้นหน้าก่อนเปิดเข้ากลางให้ ฟอร์สเซลล์ กะจับบอลลงแล้วพลิกไปยิง แต่ทำลูกหลุดออกจากเท้าพลาดโอกาสลุ้นทำประตูอย่างน่าเสียดาย
ฟูแล่ม มีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 36 จากลูกฟรีคิกเยื้องมาทางขวาของ จิมมี่ บุลลาร์ด ที่เปิดโค้งเข้าไปที่เสาแรก กามาร่า สอดเข้ามาพุ่งตอร์ปิโดบกโหม่งตัดหน้า ราดี้ จาอิดี้ ทว่าลูกเหินข้ามคานออกหลัง จากนั้นนาทีที่ 40 เบอร์มิงแฮม ได้โอกาสสวนกลับ กาโป วางบอลยาวให้ แม็คฟาดเด้น แตะเข้าเขตโทษแล้วตบเรียดเข้ากลางหวังให้ ฟอร์สเซลล์ เข้าสังหาร แต่ถูก อารอน ฮิวจ์ส ดักทางเอาไว้ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง กองเชียร์เจ้าสัวน้อยก็ถึงคราวได้เฮกันลั่นสนามในนาทีที่ 52 เมื่อ จิมมี่ บุลลาร์ด เปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านซ้ายโค้งมาหน้าประตู ไบรอัน แม็คไบรด์ สอดเข้ามาก้มตัวลงพุ่งโหม่งย้อนศรหนีมือ ไมค์ เทย์เลอร์ ตุงตาข่ายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของฟูแล่ม
พอได้ประตูขึ้นนำ เจ้าบ้านก็เริ่มได้ใจเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 55 ดิโอมองซี่ กามาร่า อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพาบอลแหวกผู้เล่นเบอร์มิงแฮม 3-4 คนเข้าไปกดเต็มข้อในเขตโทษด้านซ้าย ส่งลูกหลุดเสาแรกโด่งออกหลังไปไกล จากนั้นาทีที่ 74 ไซมอน เดวีส์ เปิดบอลจากด้านขวาให้ คลินท์ เดมพ์ซีย์ ขึ้นโหม่งคนเดียว บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 86 ลูกโลกน่าจะได้ประตูตีเสมออย่างยิ่งจากการขึ้นโขกลูกเตะมุมของ ราดี้ จาอิดี้ แต่บอลถากเสาสองออกไป ก่อนที่เจ้าสัวน้อยจะมาหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีถัดมา เมื่อ พอล คอนเชสกี้ จุดพลุโด่งขึ้นหน้า ฟรองค์ เกอดรู กองหลังตัวสำรองที่ลงมาแทน เลียม ริดจ์เวลล์ ซึ่งบาดเจ็บในครึ่งหลังกะจังหวะโหม่งบอลพลาดมาตกใส่ เอริค เนฟแลนด์ กองหน้าสำรองของเจ้าบ้านกระชากบอลเข้าไปยิงเสียบมุมไม่เหลือ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แดนนี่ เมอร์ฟี่ ลองปั่นฟรีคิกหน้าเขตโทษ บอลพุ่งไปตรงตัว ไมค์ เทย์เลอร์ ปัดพ้นคานออกหลังไปก่อนที่ ฟูแล่ม จะเป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยสกอร์ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 33 คะแนน แซงทั้ง เรดดิ้ง และ เบอร์มิงแฮม ขึ้นมาอยู่อันดับ 17 ของตาราง ยังต้องลุ้นหนีตกชั้นกันต่อถึงนัดสุดท้าย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟูแล่ม – เคซีย์ เคลเลอร์, พอล สตัลเทรี่, อารอน ฮิวจ์ส, เบรเด้ ฮันเกแลนด์, พอล คอนเชสกี้, ไซมอน เดวีส์, จิมมี่ บุลลาร์ด, แดนนี่ เมอร์ฟี่, คลินท์ เดมพ์ซีย์, ดิโอมองซี่ กามาร่า, ไบรอัน แม็คไบรด์
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ – ไมค์ เทย์เลอร์, สตีเฟ่น เคลลี่, ราดี้ จาอิดี้, เลียม ริดจ์เวลล์, เดวิด เมอร์ฟี่, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, เดเมียน จอห์นสัน, โอลิวิเยร์ กาโป, มิคาเอล ฟอร์สเซลล์, เจมส์ แม็คฟาดเด้น
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 1-0 นาที 3), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 2-0 นาที 24), (คาร์ลอส เตเบซ 3-0 นาที 26), (ดีน แอชตัน 3-1 นาที 28), (ไมเคิล คาร์ริค 4-1 นาที 59)
แอสตัน วิลล่า แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-2 (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 0-1 นาที 52), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 0-2 นาที 63)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 3-1 (เคนนี่ มิลเลอร์ 0-1 นาที 19), (โรเก้ ซานตา ครูซ 1-1 นาที 45), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-1 นาที 47), (โรเก้ ซานตา ครูซ 3-1 นาที 77)
ฟูแล่ม ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-0 (ไบรอัน แม็คไบรด์ 1-0 นาที 52), (เอริค เนฟแลนด์ 2-0 นาที 87)
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0 (คริส ริกก็อตต์ 1-0 นาที 40), (ตุนชาย ซานลี่ 2-0 นาที 53)
เรดดิ้ง แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 (ร็อบบี้ คีน 0-1 นาที 16)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ 1-0 นาที 42), (ดารีล เมอร์ฟี่ 2-0 นาที 82)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2551
ฟูแล่ม 2 – 0 เบอร์มิงแฮม ซิตี้
ศึกหนีตายของลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ฟูแล่ม เปิดสนามคราเวน คอทเทจ รับการมาเยือนของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เกมนี้เจ้าถิ่นขนแนวรุกอย่าง คลินท์ เดมพ์ซีย์, ดิโอมองซี่ กามาร่า และ ไบรอัน แม็คไบรด์ ลงเต็มอัตราศึกหวังทำประตูคว้าชัยชนะให้ได้ ส่วนทีมเยือนก็มาในชุดเก่งมี โอลิวิเยร์ กาโป, เจมส์ แม็คฟาดเด้น และ มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ เป็นตัวความหวัง
เปิดฉากมาได้ 6 นาที เจ้าสัวน้อยหาโอกาสสร้างความหวาดเสียวได้ก่อน พอล คอนเชสกี้ โยนบอลจากด้านซ้ายเข้ามาให้ ไบรอัน แม็คไบรด์ สอดเข้ามาพุ่งโหม่งเช็ดคานออกหลังไป แต่จังหวะนี้ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าด้วย
จากนั้น 2 นาที เจ้าถิ่นน่าได้ประตูขึ้นนำจากลูกฟรีคิกมุมเขตโทษฝั่งขวา จิมมี่ บุลลาร์ด ผ่านเรียดขนานเส้นเขตโทษเลยมาถึง ไซมอน เดวีส์ กดด้วยขวาเต็มๆ บอลย้อนศรทำท่าจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่ ไมค์ เทย์เลอร์ ปฏิกิริยาไวเหลือเชื่อ พุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ กามาร่า จะได้บอลจากการเปิดข้ามแผงหลังของ แดนนี่ เมอร์ฟี่ เข้าไปกดในเขตโทษด้านซ้าย ถูก ไมค์ เทย์เลอร์ ยืนดักไว้ได้ที่เสาแรก แต่ก็ยังเป็นจังหวะล้ำหน้าอีกหน
เข้าสู่นาทีที่ 29 ลูกโลกมีโอกาสบ้างจากการลากลุยขึ้นมาได้สวยของ แม็คฟาดเด้น ก่อนไหลออกทางซ้ายให้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน กระชากขึ้นหน้าก่อนเปิดเข้ากลางให้ ฟอร์สเซลล์ กะจับบอลลงแล้วพลิกไปยิง แต่ทำลูกหลุดออกจากเท้าพลาดโอกาสลุ้นทำประตูอย่างน่าเสียดาย
ฟูแล่ม มีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 36 จากลูกฟรีคิกเยื้องมาทางขวาของ จิมมี่ บุลลาร์ด ที่เปิดโค้งเข้าไปที่เสาแรก กามาร่า สอดเข้ามาพุ่งตอร์ปิโดบกโหม่งตัดหน้า ราดี้ จาอิดี้ ทว่าลูกเหินข้ามคานออกหลัง จากนั้นนาทีที่ 40 เบอร์มิงแฮม ได้โอกาสสวนกลับ กาโป วางบอลยาวให้ แม็คฟาดเด้น แตะเข้าเขตโทษแล้วตบเรียดเข้ากลางหวังให้ ฟอร์สเซลล์ เข้าสังหาร แต่ถูก อารอน ฮิวจ์ส ดักทางเอาไว้ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง กองเชียร์เจ้าสัวน้อยก็ถึงคราวได้เฮกันลั่นสนามในนาทีที่ 52 เมื่อ จิมมี่ บุลลาร์ด เปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านซ้ายโค้งมาหน้าประตู ไบรอัน แม็คไบรด์ สอดเข้ามาก้มตัวลงพุ่งโหม่งย้อนศรหนีมือ ไมค์ เทย์เลอร์ ตุงตาข่ายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของฟูแล่ม
พอได้ประตูขึ้นนำ เจ้าบ้านก็เริ่มได้ใจเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 55 ดิโอมองซี่ กามาร่า อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพาบอลแหวกผู้เล่นเบอร์มิงแฮม 3-4 คนเข้าไปกดเต็มข้อในเขตโทษด้านซ้าย ส่งลูกหลุดเสาแรกโด่งออกหลังไปไกล จากนั้นาทีที่ 74 ไซมอน เดวีส์ เปิดบอลจากด้านขวาให้ คลินท์ เดมพ์ซีย์ ขึ้นโหม่งคนเดียว บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 86 ลูกโลกน่าจะได้ประตูตีเสมออย่างยิ่งจากการขึ้นโขกลูกเตะมุมของ ราดี้ จาอิดี้ แต่บอลถากเสาสองออกไป ก่อนที่เจ้าสัวน้อยจะมาหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีถัดมา เมื่อ พอล คอนเชสกี้ จุดพลุโด่งขึ้นหน้า ฟรองค์ เกอดรู กองหลังตัวสำรองที่ลงมาแทน เลียม ริดจ์เวลล์ ซึ่งบาดเจ็บในครึ่งหลังกะจังหวะโหม่งบอลพลาดมาตกใส่ เอริค เนฟแลนด์ กองหน้าสำรองของเจ้าบ้านกระชากบอลเข้าไปยิงเสียบมุมไม่เหลือ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แดนนี่ เมอร์ฟี่ ลองปั่นฟรีคิกหน้าเขตโทษ บอลพุ่งไปตรงตัว ไมค์ เทย์เลอร์ ปัดพ้นคานออกหลังไปก่อนที่ ฟูแล่ม จะเป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยสกอร์ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 33 คะแนน แซงทั้ง เรดดิ้ง และ เบอร์มิงแฮม ขึ้นมาอยู่อันดับ 17 ของตาราง ยังต้องลุ้นหนีตกชั้นกันต่อถึงนัดสุดท้าย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟูแล่ม – เคซีย์ เคลเลอร์, พอล สตัลเทรี่, อารอน ฮิวจ์ส, เบรเด้ ฮันเกแลนด์, พอล คอนเชสกี้, ไซมอน เดวีส์, จิมมี่ บุลลาร์ด, แดนนี่ เมอร์ฟี่, คลินท์ เดมพ์ซีย์, ดิโอมองซี่ กามาร่า, ไบรอัน แม็คไบรด์
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ – ไมค์ เทย์เลอร์, สตีเฟ่น เคลลี่, ราดี้ จาอิดี้, เลียม ริดจ์เวลล์, เดวิด เมอร์ฟี่, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, เดเมียน จอห์นสัน, โอลิวิเยร์ กาโป, มิคาเอล ฟอร์สเซลล์, เจมส์ แม็คฟาดเด้น
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 1-0 นาที 3), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 2-0 นาที 24), (คาร์ลอส เตเบซ 3-0 นาที 26), (ดีน แอชตัน 3-1 นาที 28), (ไมเคิล คาร์ริค 4-1 นาที 59)
แอสตัน วิลล่า แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-2 (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 0-1 นาที 52), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 0-2 นาที 63)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 3-1 (เคนนี่ มิลเลอร์ 0-1 นาที 19), (โรเก้ ซานตา ครูซ 1-1 นาที 45), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-1 นาที 47), (โรเก้ ซานตา ครูซ 3-1 นาที 77)
ฟูแล่ม ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-0 (ไบรอัน แม็คไบรด์ 1-0 นาที 52), (เอริค เนฟแลนด์ 2-0 นาที 87)
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0 (คริส ริกก็อตต์ 1-0 นาที 40), (ตุนชาย ซานลี่ 2-0 นาที 53)
เรดดิ้ง แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 (ร็อบบี้ คีน 0-1 นาที 16)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ 1-0 นาที 42), (ดารีล เมอร์ฟี่ 2-0 นาที 82)
