แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกโดย นานี ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามสามารถเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้อย่างไม่ยากเย็น 4-1 พร้อมทั้งทำแต้มหนี เชลซี ทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิป 3 คะแนน ทว่าลงเตะมากกว่า 1 นัด
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2551
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 – 1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามปะทะกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยหวังเก็บ 3 คะแนนเพื่อขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ชิป นัดนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงไม่มี เนมานยา วิดิช และ เวย์น รูนีย์ ที่บาดเจ็บ แต่ยังมี คริสเตียโน โรนัลโด ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษสองสถาบันเป็นตัวทีเด็ด ด้านทีมเยือนส่ง เจมส์ ทอมกินส์ กองหลังดาวรุ่งลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ลูคัส นีลล์ ส่วนคู่หัวหอกใช้ บ็อบบี้ ซาโมรา ล่าตาข่ายกับ ดีน แอชตัน
เริ่มเกมมาได้ไม่ทันไร กองเชียร์ปิศาจแดงก็ได้เฮกันตั้งแต่นาทีที่ 3 จากจังหวะสาดยาวขึ้นมาจาด้านหลัง นานี่ โหม่งเช็ดต่อไปให้ โรนัลโด้ เก็บบอลได้ทางกราบขวาก่อนโยกหนี ลูคัส นีลล์ จนหัวทิ่มแล้วลากเข้าไปซัดในเขตโทษ ส่งบอลผ่านมือ โรเบิร์ต กรีน เสียบเสาแรกให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 และเป็นลูกที่ 39 ของหนูโด้รวมทุกรายการด้วย
ขุนค้อนเกือบเอาคืนได้ทันควันใน 4 นาทีต่อมา เมื่อ มาร์ค โนเบิล เปิดลูกเตะมุมจากด้านขวาเข้ามาถึงเสาสอง เจมส์ ทอมกินส์ โหม่งชงไปให้ บ็อบบี ซาโมรา ขึ้นโขกเบียดกับ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จนเกือบล้นเข้าประตู แต่ ปาทริซ เอวรา ที่ยืนคุมเส้นอยู่หวดเคลียร์ทิ้งออกมาได้
จากนั้นเป็นฝ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้เหนือกว่า นาทีที่ 24 โอเวน ฮาร์กรีฟส์ เติมขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาก่อนโยนไปหน้าประตู เจมส์ ทอมกินส์ กะจังหวะเทคตัวขึ้นโหม่งสกัดไม่โดน บอลจึงไปตกใส่หน้าขาของ โรนัลโด้ กระดอนเข้าประตูเป็น 2-0 แบบโชคช่วย พร้อมทั้งเป็นลูกที่ 40 ในทุกรายการของหนูโด้
สกอร์ไหลมาเทมาเป็น 3-0 ในอีก 2 นาทีให้หลังจากจังหวะที่ คาร์ลอส เตเบซ ได้บอลแถวกลางสนามก่อนเลี้ยงจี้เข้าหา เฮย์เดน มัลลินส์ แล้วโยกหาช่องสับไกจากนอกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างหมดจดงดงามโดยที่ โรเบิร์ต กรีน หมดสิทธิ์เซฟ
อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮม สามารถตีไข่แตกเป็น 1-3 ได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 28 เมื่อ ซาโมรา หยอดบอลเข้าไปกดดันในเขตโทษ เวส บราวน์ พยายามโหม่งสกัด แต่ลูกลอยไปเข้าทาง ดีน แอชตัน ที่เบียดกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก่อนอาศัยจังหวะที่หันหลังให้ประตูลอยตัวยิงจักรยานอากาศเสียบเสาแรกอย่างเหนือชั้น
ปิศาจแดงต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในนาทีที่ 37 โดย นานี่ ปะทะกับ ลูคัส นีลล์ แล้วออกลูกฮึดฮัดกันเล็กน้อย สุดท้ายปีกดาวรุ่งโปรตุกีสใช้ศีรษะโขกใส่กัปตันทีมขุนค้อนจนร่วงลงไปกองกับพื้น ผู้ตัดสิน ไมค์ ไรลีย์ จึงชักใบแดงไล่ นานี ออกจากสนามหลังปรึกษากับไลน์แมนที่มองเห็นเหตุการณ์ จบครึ่งแรกเจ้าบ้านนำอยู่ 3-1
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาทะลวงตาข่ายหนีห่างออกไปเป็น 4-1 ในนาทีที่ 59 โดย ไมเคิล คาร์ริค เด็กเก่าของเวสต์แฮมเก็บบอลได้บริเวณกลางสนามก่อนพาบอลขึ้นมาสับไกจากนอกเขตโทษไปแฉลบ ลูคัส นีลล์ บอลเปลี่ยนทางเข้าไปซุกก้นตาข่ายชนิดที่ โรเบิร์ต กรีน หลงทาง
เดอะ แฮมเมอร์ส ยังไม่ยอมแพ้ นาทีที่ 66 โนลเบอร์โต้ โซลาโน่ ตัวสำรองวางบอลยาวให้ ซาโมร่า พักอกเข้าไปวอลเลย์ด้วยขวาในเขตโทษ บอลพุ่งข้ามคานออกไป ก่อนที่เจ้าถิ่นจะเกือบได้ประตูที่ 5 เพิ่ม โดย ไรอัน กิกส์ ตัวสำรองที่ลงมาแทน ปาร์ค จี-ซุง ปาดเข้าเขตโทษด้านขวาให้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ตัวสำรองอีกรายสอดเข้ามาแปเน้นๆ ไปชนโคนเสาสองอย่างน่าเสียดาย
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม เวสต์แฮม 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 84 คะแนน ยึดจ่าฝูงต่อไปโดยหนี เชลซี คู่แข่งแย่งแชมป์ 3 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วนขุนค้อนยังคงรั้งอันดับ 10 ของตารางตามเดิมมี 48 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, โอเวน ฮาร์กรีฟส์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวรา, นานี, ไมเคิล คาร์ริค, พอล สโคลส์, ปาร์ค จี-ซุง, คริสเตียโน โรนัลโด, คาร์ลอส เตเบซ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – โรเบิร์ต กรีน, จอห์น พันท์ซิล, ลูคัส นีลล์, เจมส์ ทอมกินส์, จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์, มาร์ค โนเบิล, เฮย์เดน มัลลินส์, สกอตต์ ปาร์คเกอร์, หลุยส์ บัวมอร์เต, ดีน แอชตัน, บ็อบบี้ ซาโมร่า
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 นาที 3), (คริสเตียโน โรนัลโด้ 2-0 นาที 24), (คาร์ลอส เตเบซ 3-0 นาที 26), (ดีน แอชตัน 3-1 นาที 28), (ไมเคิล คาร์ริค 4-1 นาที 59)
แอสตัน วิลลา แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-2 (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 0-1 นาที 52), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 0-2 นาที 63)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ดาร์บี เคาน์ตี 3-1 (เคนนี มิลเลอร์ 0-1 นาที 19), (โรเก้ ซานตา ครูซ 1-1 นาที 45), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-1 นาที 47), (โรเก ซานตาครูซ 3-1 นาที 77)
ฟูแลม ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-0 (ไบรอัน แม็คไบรด์ 1-0 นาที 52), (เอริค เนฟแลนด์ 2-0 นาที 87)
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0 (คริส ริกก็อตต์ 1-0 นาที 40), (ตุนชาย ซานลี่ 2-0 นาที 53)
เรดดิง แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 (ร็อบบี้ คีน 0-1 นาที 16)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ 1-0 นาที 42), (ดารีล เมอร์ฟี 2-0 นาที 82)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2551
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 – 1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามปะทะกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยหวังเก็บ 3 คะแนนเพื่อขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ชิป นัดนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงไม่มี เนมานยา วิดิช และ เวย์น รูนีย์ ที่บาดเจ็บ แต่ยังมี คริสเตียโน โรนัลโด ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษสองสถาบันเป็นตัวทีเด็ด ด้านทีมเยือนส่ง เจมส์ ทอมกินส์ กองหลังดาวรุ่งลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ลูคัส นีลล์ ส่วนคู่หัวหอกใช้ บ็อบบี้ ซาโมรา ล่าตาข่ายกับ ดีน แอชตัน
เริ่มเกมมาได้ไม่ทันไร กองเชียร์ปิศาจแดงก็ได้เฮกันตั้งแต่นาทีที่ 3 จากจังหวะสาดยาวขึ้นมาจาด้านหลัง นานี่ โหม่งเช็ดต่อไปให้ โรนัลโด้ เก็บบอลได้ทางกราบขวาก่อนโยกหนี ลูคัส นีลล์ จนหัวทิ่มแล้วลากเข้าไปซัดในเขตโทษ ส่งบอลผ่านมือ โรเบิร์ต กรีน เสียบเสาแรกให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 และเป็นลูกที่ 39 ของหนูโด้รวมทุกรายการด้วย
ขุนค้อนเกือบเอาคืนได้ทันควันใน 4 นาทีต่อมา เมื่อ มาร์ค โนเบิล เปิดลูกเตะมุมจากด้านขวาเข้ามาถึงเสาสอง เจมส์ ทอมกินส์ โหม่งชงไปให้ บ็อบบี ซาโมรา ขึ้นโขกเบียดกับ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จนเกือบล้นเข้าประตู แต่ ปาทริซ เอวรา ที่ยืนคุมเส้นอยู่หวดเคลียร์ทิ้งออกมาได้
จากนั้นเป็นฝ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้เหนือกว่า นาทีที่ 24 โอเวน ฮาร์กรีฟส์ เติมขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาก่อนโยนไปหน้าประตู เจมส์ ทอมกินส์ กะจังหวะเทคตัวขึ้นโหม่งสกัดไม่โดน บอลจึงไปตกใส่หน้าขาของ โรนัลโด้ กระดอนเข้าประตูเป็น 2-0 แบบโชคช่วย พร้อมทั้งเป็นลูกที่ 40 ในทุกรายการของหนูโด้
สกอร์ไหลมาเทมาเป็น 3-0 ในอีก 2 นาทีให้หลังจากจังหวะที่ คาร์ลอส เตเบซ ได้บอลแถวกลางสนามก่อนเลี้ยงจี้เข้าหา เฮย์เดน มัลลินส์ แล้วโยกหาช่องสับไกจากนอกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างหมดจดงดงามโดยที่ โรเบิร์ต กรีน หมดสิทธิ์เซฟ
อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮม สามารถตีไข่แตกเป็น 1-3 ได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 28 เมื่อ ซาโมรา หยอดบอลเข้าไปกดดันในเขตโทษ เวส บราวน์ พยายามโหม่งสกัด แต่ลูกลอยไปเข้าทาง ดีน แอชตัน ที่เบียดกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก่อนอาศัยจังหวะที่หันหลังให้ประตูลอยตัวยิงจักรยานอากาศเสียบเสาแรกอย่างเหนือชั้น
ปิศาจแดงต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในนาทีที่ 37 โดย นานี่ ปะทะกับ ลูคัส นีลล์ แล้วออกลูกฮึดฮัดกันเล็กน้อย สุดท้ายปีกดาวรุ่งโปรตุกีสใช้ศีรษะโขกใส่กัปตันทีมขุนค้อนจนร่วงลงไปกองกับพื้น ผู้ตัดสิน ไมค์ ไรลีย์ จึงชักใบแดงไล่ นานี ออกจากสนามหลังปรึกษากับไลน์แมนที่มองเห็นเหตุการณ์ จบครึ่งแรกเจ้าบ้านนำอยู่ 3-1
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาทะลวงตาข่ายหนีห่างออกไปเป็น 4-1 ในนาทีที่ 59 โดย ไมเคิล คาร์ริค เด็กเก่าของเวสต์แฮมเก็บบอลได้บริเวณกลางสนามก่อนพาบอลขึ้นมาสับไกจากนอกเขตโทษไปแฉลบ ลูคัส นีลล์ บอลเปลี่ยนทางเข้าไปซุกก้นตาข่ายชนิดที่ โรเบิร์ต กรีน หลงทาง
เดอะ แฮมเมอร์ส ยังไม่ยอมแพ้ นาทีที่ 66 โนลเบอร์โต้ โซลาโน่ ตัวสำรองวางบอลยาวให้ ซาโมร่า พักอกเข้าไปวอลเลย์ด้วยขวาในเขตโทษ บอลพุ่งข้ามคานออกไป ก่อนที่เจ้าถิ่นจะเกือบได้ประตูที่ 5 เพิ่ม โดย ไรอัน กิกส์ ตัวสำรองที่ลงมาแทน ปาร์ค จี-ซุง ปาดเข้าเขตโทษด้านขวาให้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ตัวสำรองอีกรายสอดเข้ามาแปเน้นๆ ไปชนโคนเสาสองอย่างน่าเสียดาย
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม เวสต์แฮม 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 84 คะแนน ยึดจ่าฝูงต่อไปโดยหนี เชลซี คู่แข่งแย่งแชมป์ 3 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วนขุนค้อนยังคงรั้งอันดับ 10 ของตารางตามเดิมมี 48 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, โอเวน ฮาร์กรีฟส์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวรา, นานี, ไมเคิล คาร์ริค, พอล สโคลส์, ปาร์ค จี-ซุง, คริสเตียโน โรนัลโด, คาร์ลอส เตเบซ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – โรเบิร์ต กรีน, จอห์น พันท์ซิล, ลูคัส นีลล์, เจมส์ ทอมกินส์, จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์, มาร์ค โนเบิล, เฮย์เดน มัลลินส์, สกอตต์ ปาร์คเกอร์, หลุยส์ บัวมอร์เต, ดีน แอชตัน, บ็อบบี้ ซาโมร่า
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 นาที 3), (คริสเตียโน โรนัลโด้ 2-0 นาที 24), (คาร์ลอส เตเบซ 3-0 นาที 26), (ดีน แอชตัน 3-1 นาที 28), (ไมเคิล คาร์ริค 4-1 นาที 59)
แอสตัน วิลลา แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-2 (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 0-1 นาที 52), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 0-2 นาที 63)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ดาร์บี เคาน์ตี 3-1 (เคนนี มิลเลอร์ 0-1 นาที 19), (โรเก้ ซานตา ครูซ 1-1 นาที 45), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-1 นาที 47), (โรเก ซานตาครูซ 3-1 นาที 77)
ฟูแลม ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-0 (ไบรอัน แม็คไบรด์ 1-0 นาที 52), (เอริค เนฟแลนด์ 2-0 นาที 87)
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0 (คริส ริกก็อตต์ 1-0 นาที 40), (ตุนชาย ซานลี่ 2-0 นาที 53)
เรดดิง แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 (ร็อบบี้ คีน 0-1 นาที 16)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ 1-0 นาที 42), (ดารีล เมอร์ฟี 2-0 นาที 82)