เกมชี้ชะตาแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ระหว่าง เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่จบลงง่ายๆ โดยผู้เล่นปิศาจแดงหวิดมีเรื่องมีราวกับเจ้าหน้าที่สนามของสิงห์บลูส์ หลังเกมการแข่งขันจบลง
ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ จบลงโดยที่ เชลซี เปิดบ้านเฉือนชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 จากการสังหารจุดโทษของ มิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี ที่เหมาคนเดียว 2 ลูกในเกมนี้ ช่วยให้สิงโตน้ำเงินครามทำแต้มทาบปิศาจแดง จ่าฝูงของตารางที่ 81 คะแนน มีลุ้นแชมป์ต่อไปอีกใน 2 นัดสุดท้าย โดยเป็นรองเพียงแค่ผลต่างประตูได้-เสียเท่านั้น
โดยหลังจบเกม ปาทริซ เอฟรา, แกรี เนวิลล์, ปาร์ค จี-ซุง, พอล สโคลส์ 4 ผู้เล่นทีมเยือนที่ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง ลงมาวอร์มดาวน์ในขณะที่เจ้าหน้าที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ กำลังตรวจตราสภาพพื้นหญ้าอยู่ จากนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ก็มีการกระทบกระทั่งกัน หลังสตาฟฟ์เชลซีบอกให้แข้งผีแดงทั้ง 4 ราย ออกจากสนามเพื่อความสะดวกในการทำงาน
ซึ่งทางเจ้าถิ่นออกมาบอกว่า จะขอพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องวงจรปิดก่อนแล้วจึงค่อยตัดสินใจดำเนินการเพิ่มเติมในภายหลัง นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ระเบิดอามรณ์ด้วยการหวดกำแพงในระหว่างเดินออกจากสนามจนเจ้าหน้าที่หญิงประจำสนามถูกลูกหลงไปด้วย ก่อนจะเคลียร์กันได้เป็นที่เรียบร้อย และ ริโอ บอกว่า จะส่งช่อดอกไม้มาขอโทษในภายหลัง
ด้าน อัฟราม แกรนท์ กุนซือเชลซี ออกมาพูดถึงชัยชนะสำคัญในนัดนี้ว่า “เราสามารถคว้าผลการแข่งขันได้ตามที่ต้องการด้วยชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และตอนนี้เราก็โยนความกดดันไปให้พวกเขาบ้างแล้ว วันนี้เราเล่นกันได้ยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้าจะให้ดียิ่งกว่านั้นเราขอเอาชนะในอีก 2 เกมที่เหลือ”
ขณะที่ มิชาเอล บัลลัค ฮีโร่ของสิงห์บลูส์ กล่าวว่า ขออุทิศชัยชนะให้กับ แพท แลมพาร์ด มารดาของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคปอดอักเสบเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา “ผมและทุกๆ คนในทีมขอมอบชัยชนะครั้งนี้ให้กับ แฟรงค์ และครอบครัวซึ่งกำลังเศร้าเสียใจต่อการจากไปของ แพท”
ส่วน คาร์ลอส เคยรอช ผู้ช่วยผู้จัดการทีมปิศาจแดง ออกมาเปรียบเทียบการตัดสินใจของ อลัน ไวลีย์ เชิ้ตดำที่เป่าให้ เชลซี ได้จุดโทษจากการทำแฮนด์บอลโดย ไมเคิล คาร์ริค จนนำไปสู่ประตูชัย แต่ไม่ยอมให้ฟาวล์ในจังหวะที่ คริสเตียโน โรนัลโด ถูก บัลลัค กระแทกจากด้านหลังจนล้มลงในเขตโทษบ้าง
มือขวาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ตัดสินถึงไม่เห็นว่า บัลลัค กระแทกเข้าด้านหลัง โรนัลโด แบบเต็มๆ หรือจะต้องให้ผู้เล่นของเราถูกปืนยิงล้มลงในเขตโทษถึงค่อยเป่าให้เป็นจุดโทษ ผู้ตัดสินอยู่ห่างจากเหตุการณ์ที่สามารถเป็นจุดโทษได้เพียงแค่ 5 เมตรในทั้ง 2 ครั้ง แต่กลับมีจุดโทษเพียงแค่ลูกเดียว”
“เราไปไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศของ เอฟเอ คัพ ได้ เพราะการตัดสินที่ผิดพลาด ซึ่งเราควรได้จุดโทษในเกมพบ ปอร์ทสมัธ ส่วนในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับ บาร์เซโลนา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เราก็น่าจะได้จุดโทษตั้ง 3 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ได้เพียงแค่หนเดียว นั่นแปลว่าต้องเกิดความผิดปกติขึ้นในวงการฟุตบอลอย่างแน่นอน”