โรเก้ ซานตา ครูซ รับบทฮีโร่ให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยการทำประตูชัยช่วยให้บุกไปเฉือนเอาชนะ ปอร์ทสมัธ ถึงถิ่น 1-0 พร้อมทั้งขยับขึ้นมารั้งอันดับ 8 ของศึกพรีเมียร์ชิปแทน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2551
ปอร์ทสมัธ 0 – 1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
คู่แรกของเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีประจำวันอาทิตย์ ปอร์ทสมัธ เปิดรังแฟรตตัน ปาร์ค ต้อนรับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เกมนี้ เดวิด เจมส์ ไม่อยู่เฝ้าเสาให้เจ้าถิ่นเนื่องจากไปร่วมงานประกาศรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (พีเอฟเอ) ทำให้ เจมี่ แอชดาวน์ ได้รับโอกาส
ขณะที่ทีมเยือนมีการปรับหมากเล็กน้อยโดยถอย สตีเว่น รีด ไปเล่นแบ็กขวาแล้วดัน เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ขึ้นมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ส่วนคู่กองหน้ายังเป็น โรเก้ ซานตา ครูซ กับ เจสัน โรเบิร์ตส เช่นเคย
เกมในช่วงแรกทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังไม่มีโอกาสเข้าทำแบบชัดเจนเท่าที่ควร กระทั่งนาทีที่ 16 ซุลลีย์ อาลี มุนตารี่ โยนจากปีกซ้ายข้ามมาทางขวา จอห์น อูตาก้า ตามมาเก็บบอลได้ก่อนโยกหนี สตีเฟ่น วอร์น็อค แล้วเปิดเข้ากลางหวังให้ เจอร์เมน เดโฟ เข้าฮอส แต่ถูก คริสโตเฟอร์ แซมบ้า โหม่งทิ้งออกหลังได้ก่อน
จากลูกเตะมุมในจังหวะต่อเนื่อง ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า เปิดโด่งเข้ามาถูก แซมบ้า โหม่งสกัดเอาไว้แต่ยังไม่พ้นอันตราย มุนตารี่ เก็บบอลได้ก่อนวอลเลย์สวนเข้าไป ทว่าไปติด เอ็นวานโก้ คานู หัวหอกเพื่อนร่วมทีมที่ยืนค้ำอยู่หน้าปากประตูข้ามคานออกไปเอง
ผ่านมาถึงนาทีที่ 38 เดโฟ ยังคงสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับกุหลาบไฟได้เป็นระยะๆ โดยหนนี้ได้โอกาสใช้ความเร็วกระชากหนีผู้เล่นทีมเยือน 2 คนก่อนแตะหนี ไรอัน เนลเซ่น แล้วกดเรียดด้วยซ้ายหน้าเส้นเขตโทษส่งลูกหนีมือ แบรด ฟรีเดล เบียดเสาออกหลังไปเพียงนิดเดียว
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทั้งคู่ต่างหาโอกาสทำประตูแบบจะแจ้งได้ด้วยกัน โดย ปอร์ทสมัธ มีลุ้นจากการต่อเกมขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนที่ เดโฟ จะหาจังหวะซัดด้วยขวาในกรอบส่งบอลพุ่งถากเสาสองแบบน่าหวาดเสียว จากนั้นเป็นทีของ แบล็คเบิร์น โดย โรเบิร์ตส พลิกหนี โซล แคมป์เบลล์ ได้ก่อนตะบันเต็มข้อจากระยะ 20 หลา ถูก เจมี่ แอชดาวน์ พุ่งปัดไว้ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 56 มุนตารี่ เลี้ยงจากหน้าเขตโทษด้านซ้ายตัดเข้าในแล้วตะบันด้วยขวาข้างไม่ถนัดส่งบอลเหินข้ามคานไปไกล จากนั้นนาทีเดียว กุหลาบไฟเกือบได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ เดวิด เบนท์ลีย์ เปิดบอลจากเส้นหลังฝั่งซ้ายมาที่เสาแรก เนลเซ่น สอดเข้ามาก้มตัวโหม่งทำท่าจะเข้าเสาแรก แต่ แอชดาวน์ ที่ผวาไปอีกทางยังปฏิกิริยาไวยื่นมือขวากลับมาปัดออกหลังได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 65 คานู ครองบอลในเขตโทษแบล็คเบิร์นก่อนจ่ายคืนหลังมานอกเขตให้ ปาปา บูบา ดิย็อป ไหลต่อมาที่ ดิยาร์ร่า วางเท้าอัดแต่ยิงไม่ดี บอลโด่งออกหลังไปไกล ก่อนจะพลาดโอกาสเหน่งๆ ในนาทีที่ 72 จากการประสานงานในแดนหน้า คานู ดีดออกทางซ้ายให้ นิโก้ ครันชาร์ ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลังปาดเรียดมาหน้าประตู มุนตารี่ ล้มตัวตวัดแบบ 50-50 ผ่านหน้าประตูไปโดย เดโฟ ตามเข้ามาชาร์จไม่ทัน
กระทั่งนาทีที่ 74 แบล็คเบิร์น ก็เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 เมื่อ มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซ่น เก็บบอลได้ก่อนจ่ายให้ ซานตา ครูซ ซึ่งทำชิ่งกับ โรเบิร์ตส ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติปารากวัยจะสปีดหนี ซิลแว็ง ดิสแต็ง เข้าไปยิงหนีมือ แอชดาวน์ เสียบเสาแรก ช่วงท้ายเกมปอมปีย์เกือบตีเสมอได้จากความผิดพลาดของ ฟรีเดล ที่เก็บบอลไว้กับตัวนานจนเกือบถูก มิลาน บารอส ฉกบอลไปได้แต่ยังหมุนตัวเตะทิ้งทันเวลา จบเกม แบล็คเบิร์น บุกมาคว้าชัย 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 55 คะแนน แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นมาอยู่ที่ 8 ด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า ส่วน ปอร์ทสมัธ มี 57 คะแนน รั้งที่ 7 ตามเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ – เจมี่ แอชดาวน์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, โลแรน เอตาเม่, จอห์น อูตาก้า, ปาปา บูบา ดิย็อป, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ซุลลีย์ อาลี มุนตารี่, เจอร์เมน เดโฟ, เอ็นวานโก้ คานู
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส – แบรด ฟรีเดล, สตีเว่น รีด, ไรอัน เนลเซ่น, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, สตีเฟ่น วอร์น็อค, เดวิด เบนท์ลีย์, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, โยฮันน์ โฟเกิล, มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซ่น, โรเก้ ซานตา ครูซ, เจสัน โรเบิร์ตส
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2551
ปอร์ทสมัธ 0 – 1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
คู่แรกของเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีประจำวันอาทิตย์ ปอร์ทสมัธ เปิดรังแฟรตตัน ปาร์ค ต้อนรับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เกมนี้ เดวิด เจมส์ ไม่อยู่เฝ้าเสาให้เจ้าถิ่นเนื่องจากไปร่วมงานประกาศรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (พีเอฟเอ) ทำให้ เจมี่ แอชดาวน์ ได้รับโอกาส
ขณะที่ทีมเยือนมีการปรับหมากเล็กน้อยโดยถอย สตีเว่น รีด ไปเล่นแบ็กขวาแล้วดัน เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ขึ้นมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ส่วนคู่กองหน้ายังเป็น โรเก้ ซานตา ครูซ กับ เจสัน โรเบิร์ตส เช่นเคย
เกมในช่วงแรกทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังไม่มีโอกาสเข้าทำแบบชัดเจนเท่าที่ควร กระทั่งนาทีที่ 16 ซุลลีย์ อาลี มุนตารี่ โยนจากปีกซ้ายข้ามมาทางขวา จอห์น อูตาก้า ตามมาเก็บบอลได้ก่อนโยกหนี สตีเฟ่น วอร์น็อค แล้วเปิดเข้ากลางหวังให้ เจอร์เมน เดโฟ เข้าฮอส แต่ถูก คริสโตเฟอร์ แซมบ้า โหม่งทิ้งออกหลังได้ก่อน
จากลูกเตะมุมในจังหวะต่อเนื่อง ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า เปิดโด่งเข้ามาถูก แซมบ้า โหม่งสกัดเอาไว้แต่ยังไม่พ้นอันตราย มุนตารี่ เก็บบอลได้ก่อนวอลเลย์สวนเข้าไป ทว่าไปติด เอ็นวานโก้ คานู หัวหอกเพื่อนร่วมทีมที่ยืนค้ำอยู่หน้าปากประตูข้ามคานออกไปเอง
ผ่านมาถึงนาทีที่ 38 เดโฟ ยังคงสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับกุหลาบไฟได้เป็นระยะๆ โดยหนนี้ได้โอกาสใช้ความเร็วกระชากหนีผู้เล่นทีมเยือน 2 คนก่อนแตะหนี ไรอัน เนลเซ่น แล้วกดเรียดด้วยซ้ายหน้าเส้นเขตโทษส่งลูกหนีมือ แบรด ฟรีเดล เบียดเสาออกหลังไปเพียงนิดเดียว
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทั้งคู่ต่างหาโอกาสทำประตูแบบจะแจ้งได้ด้วยกัน โดย ปอร์ทสมัธ มีลุ้นจากการต่อเกมขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนที่ เดโฟ จะหาจังหวะซัดด้วยขวาในกรอบส่งบอลพุ่งถากเสาสองแบบน่าหวาดเสียว จากนั้นเป็นทีของ แบล็คเบิร์น โดย โรเบิร์ตส พลิกหนี โซล แคมป์เบลล์ ได้ก่อนตะบันเต็มข้อจากระยะ 20 หลา ถูก เจมี่ แอชดาวน์ พุ่งปัดไว้ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 56 มุนตารี่ เลี้ยงจากหน้าเขตโทษด้านซ้ายตัดเข้าในแล้วตะบันด้วยขวาข้างไม่ถนัดส่งบอลเหินข้ามคานไปไกล จากนั้นนาทีเดียว กุหลาบไฟเกือบได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ เดวิด เบนท์ลีย์ เปิดบอลจากเส้นหลังฝั่งซ้ายมาที่เสาแรก เนลเซ่น สอดเข้ามาก้มตัวโหม่งทำท่าจะเข้าเสาแรก แต่ แอชดาวน์ ที่ผวาไปอีกทางยังปฏิกิริยาไวยื่นมือขวากลับมาปัดออกหลังได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 65 คานู ครองบอลในเขตโทษแบล็คเบิร์นก่อนจ่ายคืนหลังมานอกเขตให้ ปาปา บูบา ดิย็อป ไหลต่อมาที่ ดิยาร์ร่า วางเท้าอัดแต่ยิงไม่ดี บอลโด่งออกหลังไปไกล ก่อนจะพลาดโอกาสเหน่งๆ ในนาทีที่ 72 จากการประสานงานในแดนหน้า คานู ดีดออกทางซ้ายให้ นิโก้ ครันชาร์ ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลังปาดเรียดมาหน้าประตู มุนตารี่ ล้มตัวตวัดแบบ 50-50 ผ่านหน้าประตูไปโดย เดโฟ ตามเข้ามาชาร์จไม่ทัน
กระทั่งนาทีที่ 74 แบล็คเบิร์น ก็เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 เมื่อ มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซ่น เก็บบอลได้ก่อนจ่ายให้ ซานตา ครูซ ซึ่งทำชิ่งกับ โรเบิร์ตส ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติปารากวัยจะสปีดหนี ซิลแว็ง ดิสแต็ง เข้าไปยิงหนีมือ แอชดาวน์ เสียบเสาแรก ช่วงท้ายเกมปอมปีย์เกือบตีเสมอได้จากความผิดพลาดของ ฟรีเดล ที่เก็บบอลไว้กับตัวนานจนเกือบถูก มิลาน บารอส ฉกบอลไปได้แต่ยังหมุนตัวเตะทิ้งทันเวลา จบเกม แบล็คเบิร์น บุกมาคว้าชัย 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 55 คะแนน แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นมาอยู่ที่ 8 ด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า ส่วน ปอร์ทสมัธ มี 57 คะแนน รั้งที่ 7 ตามเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ – เจมี่ แอชดาวน์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, โลแรน เอตาเม่, จอห์น อูตาก้า, ปาปา บูบา ดิย็อป, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ซุลลีย์ อาลี มุนตารี่, เจอร์เมน เดโฟ, เอ็นวานโก้ คานู
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส – แบรด ฟรีเดล, สตีเว่น รีด, ไรอัน เนลเซ่น, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, สตีเฟ่น วอร์น็อค, เดวิด เบนท์ลีย์, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, โยฮันน์ โฟเกิล, มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซ่น, โรเก้ ซานตา ครูซ, เจสัน โรเบิร์ตส