เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และจิลแบร์โต้ ซิลวา ช่วยกันทำคนละประตูในครึ่งแรก ช่วยให้ทีม"ปืนใหญ่"อาร์เซนอล เปิดบ้านเอาชนะเร้ดดิ้งไปได้อย่างสบายๆ 2-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มเข้ากระเป๋าได้สำเร็จ พร้อมทำแต้มไล่หลังทีม"สิงห์บูลส์"เชลซี เหลือแค่ 4 คะแนนแล้ว ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 19 เมษายน
อาร์เซนอล 2-0 เร้ดดิ้ง
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่แรกประจำวันเสาร์ที่ 19 เมษายน ทีม"ปืนใหญ่"อาร์เซนอล อันดับ 3 ของตารางเปิดเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ เร้ดดิ้ง ทีมอันดับ 16 ของตาราง โดยในนัด อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ต้องประสบกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ทั้ง จัสติน ฮอยต์, มาติเยอ ฟลามินี่, บาการี่ ซาญ่า, โทมัส โรซิคกี้, มานูเอล อัลมูเนีย และ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งหมด โดยนัดนี้ กุนซือ"ปืนใหญ่"ใช้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยืนเป็นกองหน้าคู่กัน ด้านทีมเยือน เร้ดดิ้ง มาเยือนพร้อมกับสถิติอันเลวร้าย 3 นัดหลังสุดไม่ชนะใคร แถมยังยิงประตูไม่ได้อีกด้วย นัดนี้ สตีฟ ค็อปเปลล์ กุนซือเร้ดดิ้งมาแบบรัดกุมโดยวางให้ เดฟ คิตสัน ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าคนเดียว
เกมในช่วงแรกนั้นเป็นฝ่ายอาร์เซนอลที่ครองบอลไว้ได้มากกว่า และในนาทีที่ 9 ก็ได้โอกาสลุ้นประตูก่อน เมื่อ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ แทงบอลทะลุช่องจากกลางสนามให้กับ เชส ฟาเบรกาส หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายดาวเตะทีมชาติสเปนดันแตะบอลยาวกระดอนไปเข้ามือ มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ นายด่านทีมเยือน
หลังจากนั้น เร้ดดิ้ง เริ่มที่จะตั้งเกมได้บ้าง แต่ยังไม่มีโอกาสทำประตู กลับเป็น เจ้าบ้านที่ยังได้ลุ้นประตูอีกครั้งในนาที 28 จากลูกยิงฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ จังหวะต่อเนื่องจากนั้นเป็นลูกเตะมุม อาร์เซนอล เล่นสั้น ฟาเบรกาส หยอดให้กับ อเล็กซานเดอร์ ซง โขกเหน่งๆคนเดียว แต่โดนไม่เต็มบอลออกเสาสองไป
ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงของเกม อาร์เซนอล ก็มาทำประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อทำเกมรุกมาทางด้านขวา โคโล ตูเร่ เติมขึ้นมาหยอดให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดูดบอลลงนิ่มๆก่อนแปบอลผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ เข้าไป "ปืนใหญ่"ขึ้นนำ 1-0 โดยประตูนี้เป็นประตูที่ 21 ในลีกของหัวหอกโตโกรายนี้แล้วด้วย
จากนั้นอีกเพียงแค่ 8 นาที เจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายบุกอยู่ตลอดก็มาทำประตูที่ 2 หนีห่างออกไปอีก จากการเดินเกมรุกทางด้านซ้าย ฟาเบรกาส จ่ายเรียดมาหน้าเขตโทษให้กับ จิลแบร์โต้ ซิลวา จับบอลซัดด้วยขวาจากระยะ 22 หลา บอลไปแฉลบหัว อังเดร บิเคย์ ผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ ที่ปัดไปเพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้นเข้าไป อาร์เซนอล นำห่าง 2-0 เกมหลังจากนั้นยังคงเป็นเจ้าบ้านที่ทำเกมรุกไว้ได้อย่างตลอด แต่ยังไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ ครบ 45 นาทีแรก "ปืนใหญ่"ยังนำอยู่ 2-0
เกมในครึ่งหลังยังคงเป็น"ปืนใหญ่"ที่บุกอยู่แทบจะข้างเดียว ขณะที่เร้ดดิ้ง ทีมเยือนไม่มีโอกาสทำเกมรุกมากนัก นาทีที่ 70 ธีโอ วัลค็อตต์ ถูก อิบราฮิม่า ซงโก้ ทำฟาวล์หน้าเขต ทำให้อาร์เซนอลได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา และเป็น ฟาน เพอร์ซี่ ปั่นด้วยซ้ายเต็มแรงข้ามกำแพงมุดลงมาชนคานกระดอนลงพื้น แต่ยังไม่เป็นประตูสำหรับเจ้าบ้าน
จากนั้นอีก 2 นาทีอาร์เซนอลก็น่าจะได้ประตูที่ 3 อีกครั้ง จากจังหวะตะลุยขึ้นมาของ ฟราเบกาส ก่อนจ่ายให้กับ ธีโอ วัลคอตต์ ซัดด้วยซ้ายเต็มๆในกรอบเขตโทษ บอลผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ ไปแล้วแต่ไปชนคานอย่างจัง
หลังจากนั้น 5 นาที เร้ดดิ้งก็เกือบจะทำประตูตีไข่แตกได้จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย จิมมี่ เค็บ เปิดเข้ามาให้กับ ไมเคิล ดูเบอร์รี่ ตัวสำรองได้ชาร์จเต็มๆ ตรงเสาแรกแต่บอลออกข้างเสาไปแบบได้เสียว จากนั้นในนาทีที่ 83 เจ้าบ้านก็เกือบจะได้ประตูที่ 3 อีกครั้ง จากจังหวะที่ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ตัวสำรองลุยมาทางด้านขวาก่อนจ่ายให้ ฟาเบรกาส ซัดเรียดผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ ไปแล้ว แต่ ดูเบอร์รี่ ยังเคลียร์ออกมาจากเส้นได้ทัน เกมหลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มกันได้ครบ 90 นาที อาร์เซนอล เอาชนะเร้ดดิ้งไปได้ 2-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มเข้ากระเป๋าได้สำเร็จไล่จี้"สิงโตน้ำเงินคราม"เชลซี เหลือแค่ 4 คะแนนแล้ว
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : เยนส์ เลห์มันน์, โคโล ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, อเล็กซ์ ซง, กาแอล กลิชี่, ธีโอ วัลค็อตต์, เชส ฟาเบรกาส, จิลแบร์โต้ ซิลวา, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
เร้ดดิ้ง : มาร์คัส ฮาห์เนมันน์, แกรม เมอร์ตี้, เลียม โรซีเนียร์, อิวาร์ อินกิมาร์สสัน, อังเดร บิเคย์, เจมส์ ฮาร์เปอร์, อิบราฮิมา ซองโก้, บ็อบบี้ คอนวี่, คาลิฟา ซิสเซ่, จิมมี่ เค็บ, เดฟ คิตสัน
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 19 เมษายน
อาร์เซน่อล ชนะ เรดดิ้ง 2-0 (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-0 นาที 30, จิลแบร์โต้ ซิลวา 2-0 นาที 38)
ฟูแล่ม แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เจอร์แมน แพนเนนท์ 0-1 นาที 17, ปีเตอร์ เคร้าช์ 0-2 นาที 70)
เวสต์แฮม ชนะ ดาร์บี้ 2-1 (บ็อบบี้ ซาโมร่า 1-0 นาที 20, ไทรอน เมียร์ส 1-1 นาที 65, คาร์ลตัน โคล 2-1 นาที 77)
วีแกน เสมอ สเปอร์ส 1-1 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 0-1 นาที 6, เอมิล เฮสกี้ 1-1 นาที 12)
มิดเดิ้ลสโบรช์ แพ้ โบลตัน 0-1 (กาวิน แม็คแคน 0-1 นาที 61)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ แมนฯยูไนเต็ด 1-1 (โรเก้ ซานตา ครูซ 1-0 นาที 20, คาร์ลอส เตเบซ 1-1 นาที 88)
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 19 เมษายน
อาร์เซนอล 2-0 เร้ดดิ้ง
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่แรกประจำวันเสาร์ที่ 19 เมษายน ทีม"ปืนใหญ่"อาร์เซนอล อันดับ 3 ของตารางเปิดเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ เร้ดดิ้ง ทีมอันดับ 16 ของตาราง โดยในนัด อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ต้องประสบกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ทั้ง จัสติน ฮอยต์, มาติเยอ ฟลามินี่, บาการี่ ซาญ่า, โทมัส โรซิคกี้, มานูเอล อัลมูเนีย และ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งหมด โดยนัดนี้ กุนซือ"ปืนใหญ่"ใช้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยืนเป็นกองหน้าคู่กัน ด้านทีมเยือน เร้ดดิ้ง มาเยือนพร้อมกับสถิติอันเลวร้าย 3 นัดหลังสุดไม่ชนะใคร แถมยังยิงประตูไม่ได้อีกด้วย นัดนี้ สตีฟ ค็อปเปลล์ กุนซือเร้ดดิ้งมาแบบรัดกุมโดยวางให้ เดฟ คิตสัน ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าคนเดียว
เกมในช่วงแรกนั้นเป็นฝ่ายอาร์เซนอลที่ครองบอลไว้ได้มากกว่า และในนาทีที่ 9 ก็ได้โอกาสลุ้นประตูก่อน เมื่อ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ แทงบอลทะลุช่องจากกลางสนามให้กับ เชส ฟาเบรกาส หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายดาวเตะทีมชาติสเปนดันแตะบอลยาวกระดอนไปเข้ามือ มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ นายด่านทีมเยือน
หลังจากนั้น เร้ดดิ้ง เริ่มที่จะตั้งเกมได้บ้าง แต่ยังไม่มีโอกาสทำประตู กลับเป็น เจ้าบ้านที่ยังได้ลุ้นประตูอีกครั้งในนาที 28 จากลูกยิงฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ จังหวะต่อเนื่องจากนั้นเป็นลูกเตะมุม อาร์เซนอล เล่นสั้น ฟาเบรกาส หยอดให้กับ อเล็กซานเดอร์ ซง โขกเหน่งๆคนเดียว แต่โดนไม่เต็มบอลออกเสาสองไป
ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงของเกม อาร์เซนอล ก็มาทำประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อทำเกมรุกมาทางด้านขวา โคโล ตูเร่ เติมขึ้นมาหยอดให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดูดบอลลงนิ่มๆก่อนแปบอลผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ เข้าไป "ปืนใหญ่"ขึ้นนำ 1-0 โดยประตูนี้เป็นประตูที่ 21 ในลีกของหัวหอกโตโกรายนี้แล้วด้วย
จากนั้นอีกเพียงแค่ 8 นาที เจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายบุกอยู่ตลอดก็มาทำประตูที่ 2 หนีห่างออกไปอีก จากการเดินเกมรุกทางด้านซ้าย ฟาเบรกาส จ่ายเรียดมาหน้าเขตโทษให้กับ จิลแบร์โต้ ซิลวา จับบอลซัดด้วยขวาจากระยะ 22 หลา บอลไปแฉลบหัว อังเดร บิเคย์ ผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ ที่ปัดไปเพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้นเข้าไป อาร์เซนอล นำห่าง 2-0 เกมหลังจากนั้นยังคงเป็นเจ้าบ้านที่ทำเกมรุกไว้ได้อย่างตลอด แต่ยังไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ ครบ 45 นาทีแรก "ปืนใหญ่"ยังนำอยู่ 2-0
เกมในครึ่งหลังยังคงเป็น"ปืนใหญ่"ที่บุกอยู่แทบจะข้างเดียว ขณะที่เร้ดดิ้ง ทีมเยือนไม่มีโอกาสทำเกมรุกมากนัก นาทีที่ 70 ธีโอ วัลค็อตต์ ถูก อิบราฮิม่า ซงโก้ ทำฟาวล์หน้าเขต ทำให้อาร์เซนอลได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา และเป็น ฟาน เพอร์ซี่ ปั่นด้วยซ้ายเต็มแรงข้ามกำแพงมุดลงมาชนคานกระดอนลงพื้น แต่ยังไม่เป็นประตูสำหรับเจ้าบ้าน
จากนั้นอีก 2 นาทีอาร์เซนอลก็น่าจะได้ประตูที่ 3 อีกครั้ง จากจังหวะตะลุยขึ้นมาของ ฟราเบกาส ก่อนจ่ายให้กับ ธีโอ วัลคอตต์ ซัดด้วยซ้ายเต็มๆในกรอบเขตโทษ บอลผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ ไปแล้วแต่ไปชนคานอย่างจัง
หลังจากนั้น 5 นาที เร้ดดิ้งก็เกือบจะทำประตูตีไข่แตกได้จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย จิมมี่ เค็บ เปิดเข้ามาให้กับ ไมเคิล ดูเบอร์รี่ ตัวสำรองได้ชาร์จเต็มๆ ตรงเสาแรกแต่บอลออกข้างเสาไปแบบได้เสียว จากนั้นในนาทีที่ 83 เจ้าบ้านก็เกือบจะได้ประตูที่ 3 อีกครั้ง จากจังหวะที่ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ตัวสำรองลุยมาทางด้านขวาก่อนจ่ายให้ ฟาเบรกาส ซัดเรียดผ่านมือ ฮาห์เนมันน์ ไปแล้ว แต่ ดูเบอร์รี่ ยังเคลียร์ออกมาจากเส้นได้ทัน เกมหลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มกันได้ครบ 90 นาที อาร์เซนอล เอาชนะเร้ดดิ้งไปได้ 2-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มเข้ากระเป๋าได้สำเร็จไล่จี้"สิงโตน้ำเงินคราม"เชลซี เหลือแค่ 4 คะแนนแล้ว
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : เยนส์ เลห์มันน์, โคโล ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, อเล็กซ์ ซง, กาแอล กลิชี่, ธีโอ วัลค็อตต์, เชส ฟาเบรกาส, จิลแบร์โต้ ซิลวา, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
เร้ดดิ้ง : มาร์คัส ฮาห์เนมันน์, แกรม เมอร์ตี้, เลียม โรซีเนียร์, อิวาร์ อินกิมาร์สสัน, อังเดร บิเคย์, เจมส์ ฮาร์เปอร์, อิบราฮิมา ซองโก้, บ็อบบี้ คอนวี่, คาลิฟา ซิสเซ่, จิมมี่ เค็บ, เดฟ คิตสัน
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 19 เมษายน
อาร์เซน่อล ชนะ เรดดิ้ง 2-0 (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-0 นาที 30, จิลแบร์โต้ ซิลวา 2-0 นาที 38)
ฟูแล่ม แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เจอร์แมน แพนเนนท์ 0-1 นาที 17, ปีเตอร์ เคร้าช์ 0-2 นาที 70)
เวสต์แฮม ชนะ ดาร์บี้ 2-1 (บ็อบบี้ ซาโมร่า 1-0 นาที 20, ไทรอน เมียร์ส 1-1 นาที 65, คาร์ลตัน โคล 2-1 นาที 77)
วีแกน เสมอ สเปอร์ส 1-1 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 0-1 นาที 6, เอมิล เฮสกี้ 1-1 นาที 12)
มิดเดิ้ลสโบรช์ แพ้ โบลตัน 0-1 (กาวิน แม็คแคน 0-1 นาที 61)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ แมนฯยูไนเต็ด 1-1 (โรเก้ ซานตา ครูซ 1-0 นาที 20, คาร์ลอส เตเบซ 1-1 นาที 88)