xs
xsm
sm
md
lg

ปลาตินี ตัวทำลายเกม / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะทำการจับสลากประกบคู่ ยูเอ็ฟฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่ the City of Manchester stadium ในเมืองแมนเชสเตอร์ มิเชล ปลาตินี ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟ่า ได้ถือโอกาสให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า เขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่สโมสรในเพรอมิเอ ลีก อังกฤษต่างก็ถูกขายให้กับนักธุรกิจต่างชาติ

ผมว่า สาเหตุที่ ปลาตินี ต้องออกมาบ่นก็เพราะว่า สุดยอดสโมสรยุโรปที่หลุดเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปีนี้ เป็นสโมสรจากเกาะอังกฤษซะ 4 คือ แมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล และเชลซี ซึ่งโอกาสที่ 1 ใน 4 ทีมดังกล่าวจะคว้าแชมป์ย่อมมีสูงทีเดียว แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันก็จะกลายเป็นสโมสรของคนนอกทวีปยุโรป หมดกัน ความภาคภูมิใจ

นาโปเลองลูกหนังเชื้อสายอิตาเลียน ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ ถ้านับดูให้ดีทั้ง 20 สโมสรใน เพรอมิเอ ลีก อังกฤษ หลุดไปอยู่ในมือนักธุรกิจต่างชาติแล้วถึง 9 สโมสร ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นของเล่นของเศรษฐีอเมริกันซะ 4 ในขณะเดียวกัน เขาก็ย้ำให้สำนึกว่า เอกลักษณ์ของทีมนั้น เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของแต่ละเมือง ตัวเขาเองก็พยายามไปพลิกดูตัวบทกฎหมายแล้ว ก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย มันเป็นหน้าที่ของรัฐสภาหรือสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง

ถ้ามองในแง่การพัฒนาวงการฟุตบอลให้เป็นกีฬายอดนิยม แพร่กระจายไปทั่วโลก ผมว่า ปลาตินี ไม่น่าจะส่งเสียงเอะอะหรอกครับ มันกลับเป็นผลดีด้วยซ้ำ ทำให้ฟุตบอลเป็นเกมที่เปิดสำหรับคนทั่วโลก ไม่ว่าเชื้อชาติใด หากคุณมีฝีมือ คุณก็มาโชว์ฝีเท้าให้ชาวโลกได้ชม บนแผ่นดินใดก็ได้ ซึ่งยุคนี้ เทรนด์มันอยู่บนเกาะอังกฤษ

แต่เมื่อ 3 วันที่แล้ว หมอนี่ออกมาพ่นอีกว่า การซื้อตัวนักเตะต่างชาติมาโชว์ฝีเท้าใน เพรอมิเอชิพ ไม่เพียงแต่มีกันล้นทีม จนบางครั้ง บางสโมสรจัดตัวผู้เล่น 11 คนแรกโดยไม่มีนักเตะอังกฤษเลย เช่น อาร์เซนอล ที่กำลังจะเจอกับ ลิเวอร์พูล ใน ยูเอ็ฟฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนนี้ ก็เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ นักเตะต่างชาติมันมากันตั้งแต่ระดับฝึกเล่นบอลเลย อันนี้หมายถึงระดับอคาเดมี ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ผมว่า ปลาตินี พูดอย่างนี้ดูเห็นแก่ตัวสุดๆ ทำไมต้องหวงเอาไว้ให้เชื้อชาติยุโรปเท่านั้น มันผิดจากภาพความปรารถนาดีของฟีฟ่าที่อยากเห็นฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นสนุกทุกหนแห่ง พัฒนาฝีมือสูสีกัน สู้กันอย่างมีลุ้น ไม่ว่าจะเป็นทีมจากมุมไหนของโลก

ถ้าไม่มีการส่งเด็กๆจากบ้านเราหรือทวีปอื่นๆไปเข้า อคาเดมี หรือมีโอกาสลงเล่นในลีกดังๆในยุโรป เรียนรู้ ฝึกฝนทักษะกลับมาพัฒนาถิ่นกำเนิด แล้วเมื่อไหร่นักเตะจากทวีปอื่นจะก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลก ผมบอกจริงๆว่า รำคาญมากกับโควต้าทีมยุโรปในฟุตบอลโลกที่ได้มากกว่าทวีปอื่นใดตลอดเวลา โดยอ้างเหตุผลว่า ทีมในทวีปยุโรปมีมาตรฐานสูงกว่ามาก เมื่อดูทีมจากทวีปอื่นเล่นแล้วเซ็ง ถ้าจะเอาเปรียบโควต้ากัน เราก็จำเป็นต้องยอมรับ เพราะมาตรฐานฟุตบอลเราต่ำอย่างที่หมอนี่ว่าจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน หากเราจะพัฒนา ยกระดับฟุตบอลของเราให้ทัดเทียมกับฟุตบอลยุโรป ปลาตีนี ก็ไม่ควรเข้ามาขวาง

ย้อนกลับมาเสยคาง ปลาตินี ในกรณีคุมกำเนิดนักเตะต่างชาติ ต่างทวีปในยุโรป ผมก็อยากจะเรียนท่านผู้อ่านว่า ฝรั่งเศสเองแหละที่อุดมไปด้วยนักเตะต่างทวีป เมื่อตอนที่ประเทศฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกซึ่งตนเองเป็นเจ้าภาพในปี 1998 ก็มีนักเตะที่มีเชื้อสายจากต่างทวีปกว่าครึ่งทีม จนคำว่า “ เบลอ บล็อง รูช ” ( Bleu Blanc Rouge ) ที่แปลว่า น้ำเงิน ขาว แดง หมายถึง สีธงชาติ อันเป็นคำที่ใช้เรียกขาน บ่งบอกความเป็นชาติฝรั่งเศส ถูกล้อเลียนว่า “ แบล็ค บล็อง เบอร์ ” ( Black Blanc Beur ) หมายถึง ดำ ขาว อาหรับ เพราะทีมชาติชุดนั้นเต็มไปด้วยนักเตะแขกขาวและแขกดำทั้งนั้น หาฝรั่งเศสแท้ๆแทบไม่เจอ ปลาตินีก็แสดงความไม่พอใจ โดยกล่าวตำหนิคนที่พูดอย่างนี้ว่า มีความคิดล้าหลังไปตั้ง 30 ปี เพราะคนฝรั่งเศสประกอบด้วยหลายเชื้อชาติมามากกว่า 30 ปี จนกลายเป็นฝรั่งเศสไปแล้ว อย่างตัวเขาเอง ก็ไม่ถือว่าตนเองเป็นอิตาเลียน พูดเข้าตัวซะงั้น

ครั้งหนึ่งที่ มิเชล ปลาตินี ในฐานะผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศสได้รับการต้อนรับจากเทศบาลเมืองเบลฟอร์ ( Belfort) เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส นายกเทศมนตรีเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับ โดยความตอนหนึ่งได้กล่าวสดุดี ปลาตินี ว่า เป็นตัวอย่างของชาวต่างชาติที่กลายมาเป็นคนฝรั่งเศสที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ ซึ่ง ปลาตินี เผยในภายหลังว่า แทนที่เขาจะรู้สึกปลื้ม กลับฉุนเอามากๆ และเกือบหลุดคำผรุสวาทสวนกลับไปแล้ว เขาช็อคมาก ไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นชาวต่างชาติ ไม่เคยพูดภาษาอิตาเลียน อัลโด พ่อของเขาก็ไม่เคยพูดอิตาเลียน ปู่ก็พูดภาษาฝรั่งเศส ทำไมจึงต้องยกตัวอย่างนี้วะ

ผมว่าถ้า ยูเอ็ฟฟ่า ออกมาตรการคุมกำเนิดนักเตะต่างทวีปตั้งแต่ระดับอคาเดมีจริงๆ พลังเอเชีย อัฟริกา อเมริกา และออสเตรเลียคงต้องประท้วงด้วยการไม่ชม ไม่เชียร์ฟุตบอลจากทวีปยุโรปไปเลย เล่นกันเอง ดูกันเองอยู่ในทวีปของเอ็งก็แล้วกัน แม้วันนี้จะรู้สึกหงุดหงิดกับตำนานลูกหนังฝรั่งเศสไปหน่อย แต่ผมมีคำสอนจาก อัลโด พ่อของ ปลาตินี มาฝากนักเตะไทย ฟังดูแล้วอาจพื้นๆ แต่ว่ามันสำคัญเหลือเกิน และเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ มิเชล ปลาตินี ประสบความสำเร็จในอาชีพนักเตะครับ นั่นคือ “เอ็งต้องรู้ก่อนนะว่า จะส่งบอลให้ใคร ก่อนที่จะได้บอล”
กำลังโหลดความคิดเห็น